xs
xsm
sm
md
lg

กกต.เฮไม่ถูกยุบ คสช.โยนงานให้ สรรหาว่าที่ สปช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (23ก.ค.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แถลงภายหลังการประชุมกกต.ว่า ที่ประชุมได้รับทราบกรณีที่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 โดยเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้เชิญตนเอง และเจ้าหน้าที่กกต.ไปหารือร่วมกับคณะกรรมการกฤษฎีกา และได้มอบหมายให้สำนักงานกกต. เป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ซึ่งจากนี้ทางสำนักงานฯ จะรอให้พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ พ.ศ...ที่อาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตรา 30 ในการออกประกาศใช้ คาดว่าจะเป็นในเร็วๆ นี้ และเมื่อพ.ร.ฎ.ดังกล่าวมีผลบังคับใช้แล้ว กระบวนการในการสรรหาก็จะเริ่มขึ้น
ทั้งนี้การสรรหา สปช. จะมาจาก 2 ส่วน คือในส่วนจังหวัด ที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้เสนอชื่อบุคคลมาจังหวัดละ 5 คน เพื่อให้คสช. เลือกเหลือจังหวัดละ 1 คนนั้น กระบวนการสรรหาสปช. ระดับจังหวัดตาม พ.ร.ฎ.ที่จะออกมา จะให้มีคณะกรรมการสรรหาประจำจังหวัดๆ ละ 1 คณะ ทั้ง 77 จังหวัด ที่จะประกอบไปด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้พิพากษา หรือหัวหน้าศาล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้แทนสภาองค์กรชุมชนตำบล ประธานกกต.จังหวัด โดยมีผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด เป็นฝ่ายเลขานุการ
ขณะที่ในส่วนกรุงเทพมหานคร คณะกรรมการสรรหาจะประกอบด้วยประธานที่ประชุมอธิการบดี อธิบดีศาลแพ่ง ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้แทนสภาชุมชนเขต ประธานกกต. กรุงเทพมหานคร และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร เป็นเลขานุการ
ส่วนที่ 2 การสรรหาสปช. จาก 11 ด้าน ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตรา 27 นั้น ในพ.ร.ฎ. จะกำหนดให้คสช. ตั้งคณะกรรมการสรรหาในแต่ละด้านรวม 11 คณะๆ ละ 7 คน โดยสำนักงานกกต. ทำหน้าที่เป็นฝ่ายธุรการของคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 คณะ ซึ่งจะมีหน้าที่ในการเปิดรับการเสนอชื่อบุคคลเป็น สปช. จากองค์กรนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร หรือผลประโยชน์ ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้ว โดยให้แต่ละองค์กรประชุมเพื่อมีมติเสนอชื่อบุคคลที่จะเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. องค์กรละไม่เกิน 2 คน ซึ่งจะต้องได้รับการยินยอมจากผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ เบื้องต้นกกต. วางกรอบเวลาไว้ว่า อาจจะเปิดให้มีการเสนอชื่อประมาณ 15 วัน จากนั้นสำนักงานกกต. ก็เชิญประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น สปช. ซึ่งอาจจะใช้หน่วยงานเดียวกับเมื่อครั้งตรวจสอบคุณสมบัติ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น ส.ว.สรรหา ที่มีอยู่ 7
องค์กร และเมื่อได้รับข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น สปช. แล้ว ทางสำนักงานกกต.ก็จะรวบรวมส่งให้กับคณะกรรมการสรรหาในแต่ละด้าน โดยทางสำนักงานกกต. จะทำได้เพียงมีข้อสังเกตในคุณสมบัติของผู้ได้รับการเสนอชื่อแต่ละรายเท่านั้น จะไม่สามารถตัดชื่อออกบัญชีได้ แม้ว่าบุคคลนั้นจะขาดคุณสมบัติก็ตาม
"การสรรหาในส่วนนี้ คสช.เปิดกว้างมาก ตอนนี้มีนิติบุคคลที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้วกว่า 3 พันแห่ง พรรคการเมืองก็ถือเป็นนิติบุคคลที่สามารถเสนอชื่อหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค เข้ามาเป็นสปช.ได้ วัด โรงเรียน หรือแม้แต่กกต. ก็เสนอชื่อได้ รวมทั้งไม่ได้จำกัดว่า องค์กรนิติบุคคล ที่จะเสนอชื่อนั้นต้องเป็นองค์กรที่ทำงานเฉพาะที่เกี่ยวกับ 11 ด้าน ที่รัฐธรรมนูญกำหนด แต่กำหนดเพียงว่า ผู้ได้รับการเสนอชื่อจะต้องเสนอได้เพียงด้านเดียวเท่านั้น จะเสนอเกินหนึ่งด้านไม่ได้"
อย่างไรก็ตาม การเปิดกว้างในการสรรหาดังกล่าว อาจทำให้มีจำนวนนิติบุคคลและผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นสปช. เข้ามาจำนวนมาก ซึ่งใน พ.ร.ฎ. ก็ได้มีการกำหนดไว้ว่า คณะกรรมการสรรหาในแต่ละด้านได้รับรายชื่อ พร้อมประวัติของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น สปช.แล้ว ให้คณะกรรมการสรรหาแต่ละด้าน เสนอชื่อผู้ได้รับการสรรหาต่อ คสช.ด้านละไม่เกิน 50 คน หรือไม่น้อยกว่ากี่งหนึ่งของจำนวนที่มีการเสนอชื่อในแต่ละด้าน
เพื่อให้ คสช. เลือก สปช. จาก 11 ด้าน ให้เหลือ 173 คน และเมื่อนำไปรวมกับ สปช. ที่มาจากจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด ที่คสช.เลือกแล้วจังหวัดละ 1 คน ก็จะได้สปช.รวม 250 คน ตามที่รัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตรา 30 กำหนดไว้ โดยทั้งกระบวนนั้น พ.ร.ฎ.จะกำหนดให้มีเวลาในการสรรหา สปช. ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน ดังนั้นคาดว่า ช้าที่สุด 1 ต.ค. จะได้สปช.ทั้ง 250 คน โดยกกต. พร้อมดำเนินการในทันที เมื่อพ.ร.ฎ. มีผลบังคับใช้ ขณะนี้ก็ได้มีปฏิทินกรอบเวลาในการทำงานแต่ละขั้นตอนไว้แล้ว และพร้อมเปิดรับการเสนอชื่อจากองค์กรนิติบุคคล ได้ทันที
นายภุชงค์ ยังกล่าวด้วยว่า ขั้นตอนการสรรหาสปช.นี้ จะไม่ต้องผ่านมติของที่ประชุมกกต. แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ใช่ว่า กกต.จะไม่มีงานทำ งาน กกต.ยังมีงานทำอีกมาก ทั้งในเรื่องการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย 5 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งเพื่อเตรียมข้อมูลไว้หากคสช.ต้องการ ก็พร้อมจะเสนอ
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า จะยุบองค์กรอิสระในการแถลงข่าวเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญชั่วคราว นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ก็ได้แถลงไว้ชัดเจนแล้วว่า องค์กรอิสระก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม ดังนั้น พนักงานเจ้าหน้าที่ก็ต้องตั้งใจทำงานกันต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น