ที่ประชุม สนช.มีมติเลือก "พรเพชร วิชิตชลชัย" เป็นประธาน สนช.โดยไม่ต้องแสดงวิสัยทัศน์ หลังมีการเสนอชื่อเพียงคนเดียว ด้าน"สุรชัย" ได้รับเลือกเป็นรองประธานคนที่ 1 "พีระศักดิ์" เป็นรองประธานคนที่ 2 ก่อนหารือให้ชัดเรื่องนำความกราบบังคมทูล ปธ.สนช.และรองปธ. 2 คน ยันทำหน้าที่เต็มที่ "สมพร" ขอบคุณประชุมราบรื่น ยกเป็นสภาสัตบุรุษแห่งชาติ
วันนี้ (8ส.ค.) การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 9.30 น. โดยนายสมพร เทพสิทธา ทำหน้าที่ประธานการประชุมเรื่องจากมีอาวุโสสูงสุด (89ปี) โดยมีสมาชิกเข้าร่วมประชุม 193 คน จากทั้งหมด 197 คน ซึ่งที่ประชุมได้มีมติให้ใช้ข้อบังคับการประชุมสภานิติบัญญัติพ.ศ. 2549 มาใช้ในการประชุม และได้หารือถึงขั้นตอนการคัดเลือกตำแหน่งประธานสนช. และ รองประธานสองตำแหน่ง โดย ประธานได้หารือถึงการใช้ข้อบังคับข้อที่ 6 วรรค กรณีการเสนอชื่อและแสดงวิสัยทัศน์ ทางสำนักงานเลขาธิการเสนอให้ประหยัดเวลารวดเร็ว ของดใช้ไม่จำเป็นต้องมีการแสดงวิสัยทัศน์ เพราะการเสนอชื่อประธานและรอง คนเสนอคงจะกล่าวถึงหลงานของคนจะมาเป็นแล้ว แต่ก็สุดแต่ที่ประชุม ซึ่ง นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ เสนอว่า หากมีการเสนอชื่อเดียวไม่ควรจะมีการแสดงวิสัยทัศน์ แต่ถ้ามากกว่าหนึ่งชื่อก็ให้มีการแสดงวิสัยทัศน์ โดยที่ประชุมเสียงส่วนใหญ่มีมติเห็นควรให้งดใช้ข้อบังคับข้อ6 วรรคสอง เฉพาะกรณีที่มีการเสนอชื่อคนเดียวไม่ต้องมีการแสดงวิสัยทัศน์
จากนั้นพล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ได้เสนอชื่อนายพรเพชร วิชิตชลชัยเป็นประธานสนช. โดยไม่มีใครเสนอชื่อบุคคลอื่น ทำให้นายพรเพชรได้รับการคัดเลือกให้เป็นประธาน ท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้อง จากนั้นนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ได้เสนอให้ที่ประชุมหารือว่าควรมีจำนวนรองประธานกี่คน ซึ่งนายสมชาย แสวงการ เสนอให้มีรองประธานสองคน โดยที่ประชุมเห็นชอบร่วมกัน
พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม เสนอชื่อนายสุรชัย เป็นรองประธานสภาคนที่ 1 โดยไม่มีใครเสนอชื่อบุคคลอื่นเข้าแข่งขัน ส่งผลให้นายสุรชัยได้รับเลือกเป็นรองประธานคนที่หนึ่ง จากนั้นนายสมชายเสนอชื่อ นายพีรศักดิ์ พอจิตร เป็นรองประธานคนที่ 2 โดยไม่มีการเสนอชื่อบุคคลอื่นแข่งขันเช่นกัน
อย่างไรก็ตามสมาชิกได้ หารือรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 57 และข้อบังคับการประชุมปี 49 โดยในม.10 วรรคสองระบุให้หัวหน้าคสช.ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งประธานและรองประธานทั้งสอง ในข้อบังคับการประชุมข้อ 9 ที่ใช้อยู่ระบุว่าเมื่อเลือกแล้วแจ้งไปยังเลขาธิการคสช. นำความบังคมทูลแต่งตั้งต่อไป หมายความให้หัวหน้าคสช.รับสนอง และให้เลขาธิการคมช.นำความกราบบังคมทูล ควรมีการหารือให้ชัดเจน
นายสมชาย แสดงความเห็นว่าเมื่อที่ประชุมเห็นชอบยกเว้นข้อบังคับการประชุมทั้งฉบับ โดยหัวหน้าคสช.จะเป็นผู้สนองพระบรมราชโองการ เนื่องจากยังไม่มีข้อบังคับของตนเองเพราะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ หลังจากได้รับโปรดเกล้าประธานแล้ว จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาข้อบังคับปี 49 ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ.ชั่วคราว 57 จึงไม่ต้องยกเว้นข้อ 9 เพราะได้รับการยกเว้นทั้งฉบับไปแล้ว
ด้านนายสุรชัย ได้ลุกขึ้นกล่าวขอบคุณสมาชิกที่เลือกให้เป็นรองประธานสนช.คนที่หนึ่ง โดยสัญญาว่าจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อให้ประเทศไทยมีการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย และฟื้นฟูประเทศกลับสู่ความมั่นคงให้ให้ประชาชนมีความปลอดภัย ยึดถือความสุขของประเทศชาติเป็นสำคัญ
ขณะที่นายพรเพชร ลุกขึ้นกล่าวความในใจว่ารู้สึกเป็นเกียรติ์ที่สมาชิกมอบความไว้วางใจให้เป็นประธาน และมั่นใจว่าจะได้รับความร่วมมือจากสมาชิกในการดำเนินงานตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวพ.ศ..2557 เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่ประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ออกกฎหมายที่ประโยชน์ และนำไปสู่การเลือกตั้งในอนาคตอันใกล้ ตนขอปฏิญาณตนว่าจะดำเนินการประชุม รับฟังความเห็น ที่เป็นประโยชน์ทุกเรื่อง สมาชิกอย่าได้แกรงใจที่จะเข้าพบตนได้ตลอดเวลาถ้ามีปัญหาอะไร
นายพีรศักดิ์ ยืนยันว่าตนมีเวลาเต็มที่ที่จะปฏิบัติหน้าที่ และขอร่วมมือทำงานประธานและรองประธานคนที่ 1 และ เน้นย้ำว่าตามรัฐธรรมนูญ.ชั่วคราว ม 6 บัญญัติให้สนช.เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ตนจะทำหน้าที่ผู้แทนปวงชนชาวไทยอย่างเต็มที่
ขณะที่นายพรเพชร ก็ได้กล่าวขอบคุณที่สมาชิกเลือกให้เป็นประธาน สนช. โดยพร้อมจะนำบ้านเมืองกลับสู่ครรลองประชาธิปไตยอย่างที่ควรจะเป็น
จากนั้นนายสมพร ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกทุกคนที่ให้ความร่วมมือประชุมอย่างราบรื่นและปรองดอง ไม่มีขัดแย้ง และแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นประธานและรองประธานทั้งสอง ส่วนจะมีประชุมอีกเมื่อไหร่ทางเลขาธิการวุฒิสภาจะมีจดหมายแจ้งให้สมาชิกทราบ ตนมีความสุขและภูมิใจที่สุดในชีวิต อยู่มา 89 ปี ได้ทำงานรับใช้ประเทศชาติ สภาแห่งนี้เป็นสภาของสัตบุรุษแห่งชาติ เราจะทำตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด เราเป็นผู้แทนปวงชนต้องอุทิศตนซื่อสัตย์ ถือประโยชน์ของปวงชนเป็นใหญ่ และถือเป็นภารกิจหลักที่จะเป็นความหวังของประเทศที่เฝ้ารออยู่
จากนั้นประธานได้สั่งปิดประชุมเวลา 11.13 น. และในช่วงบ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จะมีการชี้แจงรายละเอียดเรื่องการแสดงบัญชีทรัพย์สินให้กับสมาชิกทุกคนด้วย
