ที่ประชุมติดตามสถานการณ์ประจำวัน คสช.เผยฝ่ายสังคมจิตวิทยาส่งบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้าย ขรก.ประจำปีถึง หน.คสช.แล้ว มอบหมายฝ่ายกิจการพิเศษเร่งพิจารณาปรับเพิ่มค่าตอบแทน-ค่าครองชีพชั่วคราวทั้งระบบ ด้านฝ่ายเศรษฐกิจเตรียมผลักดันส่งออกลำไย 5 ประเทศแก้ผลผลิตล้นตลาด “อดุลย์” แจงความคืบหน้าปรับปรุงทำเนียบ อีกด้านพร้อมเร่งจัดทำข้อกฎหมายป้องกันลอบซื้อขายงาช้างส่งให้ไซเตสให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้
วันนี้ (1 ส.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนินนอก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มอบหมายให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการ คสช.เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ประจำวันของ คสช. โดยมีผู้แทนหัวหน้ากลุ่มงานทุกด้านเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง การประชุมครั้งนี้ได้มีการรายงานความคืบหน้าของกลุ่มงานด้านต่างๆ โดยฝ่ายสังคมและจิตวิทยาได้รายงานเรื่องการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการว่า ขณะนี้ได้ส่งบัญชีรายชื่อข้าราชการที่จะแต่งตั้งโยกย้าย 7 กระทรวงที่รับผิดชอบถึง พล.อ.ประยุทธ์แล้ว ประกอบด้วย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ขอให้ฝ่ายกิจการพิเศษได้เร่งประชุมหารือแนวทางการปรับเพิ่มค่าตอบแทนของข้าราชการ ทั้งฐานเงินเดือน เงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว การยกฐาน เพิ่มเพดานอัตราเงินเดือน การปรับปรุงค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลา เพื่อสิทธิประโยชน์และเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ให้ข้าราชการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อยู่ได้อย่างพอเพียงและมีเกียรติยศศักดิ์ศรี ทั้งนี้ ตามที่ คสช.ได้มีคำสั่งเรื่องปรับโครงสร้างและอัตรากำลังพลจากเดิมที่มี 7 หมื่นอัตรา ให้เหลือประมาณ 5.4 หมื่นอัตรา ก็ขอให้ทุกส่วนงานประเมินสถานการณ์อัตรากำลังให้สอดคล้องกับการปฏิบัติงานจริงเพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้าง คสช. และรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวด้วย
ทางด้านฝ่ายเศรษฐกิจได้รายงานการแก้ไขปัญหาผลผลิตทางการเกษตรลำไยล้นตลาดว่า คสช.ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์พยายามผลักดันผลผลิตออกไปจำหน่ายที่ประเทศจีนและอินโดนีเซีย รวมถึงให้ส่งลำไยไปยังตลาดใหม่คือประเทศเวียดนาม สิงคโปร์ และอินเดีย นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ยังจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในห้างสรรพสินค้านำผู้ประกอบการไปร่วมจำหน่ายผลไม้ พร้อมให้ชาวสวนแปรรูปลำไยให้เพิ่มมากขึ้นด้วย
ในประชุม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้า คสช.ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาลว่าการปรับปรุงตึกไทยคู่ฟ้าว่าได้ดำเนินการเสร็จไปแล้ว 50% ตึกนารีสโมสร ได้ดำเนินการเสร็จไปแล้ว 30% ตึกบัญชาการ 1 ได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว 5% ส่วนพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาลจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.เป็นต้นไป ขณะที่การปรับปรุงบ้านพิษณุโลกขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการ
ด้านส่วนงานขึ้นตรงหัวหน้า คสช. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในได้รายงานว่า ขณะนี้ประเทศไทยจะต้องเร่งกำหนดข้อกฎหมาย แผนป้องกันการลักลอบค้าขายงาช้าง เพื่อส่งให้คณะกรรมการไซเตสภายในวันที่ 30 ก.ย. หากไทยไม่ดำเนินการไซเตสซึ่งมีสมาชิก 178 ประเทศก็จะระงับการค้าขายกับไทย ซึ่งในการส่งออกกล้วยไม้ ไม้กฤษณา หยก โป๊ยเซียน จะกระทบเศรษฐกิจประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้องกับหนังจระเข้ นกแก้วสวยงาม หนังงู แมลงต่างๆ กระทบเศรษฐกิจประมาณ 1,200 ล้านบาท หนังจระเข้น้ำจืดน้ำเค็ม ปลาพัด ปลาช่อนอะเมซอน ม้าน้ำ ประมาณ 2,220 ล้าน ความเสียหายจะแผ่วงกว้างไปประมาณ 10 ปี