อุดรธานี - กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานีแสดงท่าทีต่อรายการพิเศษของ คสช. ที่เนื้อหาในรายการได้มีการกล่าวถึงการผลักดันโครงการพัฒนาต่างๆ ภายในจังหวัดที่มุ่งจะผลักดันเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการเหมืองแร่โปแตช ลั่นพร้อมต่อต้านโครงการทุกรูปแบบ
ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุดรธานีรายงานว่า ตามที่ คสช.ได้จัดรายการพิเศษ “เดินหน้าประเทศไทย เดินหน้าคืนความสุขให้ชาวอุดรธานี” เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเนื้อหาในรายการได้มีการกล่าวถึงการผลักดันโครงการพัฒนาต่างๆ ภายในจังหวัด ที่มุ่งจะผลักดันเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการเหมืองแร่โปแตช
ล่าสุด กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ได้แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยต่อการผลักดันโครงการเหมืองแร่โปแตช โดยมีออกหนังสือแสดงจุดยืน โดยมีรายละเอียดตามนี้ คือ คืนความสุขให้ประเทศไทย!!! ความสุขของเรา เราเลือกเอง และจะปกป้องบ้านเราจนถึงที่สุด...ไม่เอาเหมืองแร่โปแตช ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบการปกครองประชาธิปไตย หรือคณะรัฐประหารเผด็จการ ขึ้นมาปกครองประเทศ ต่างต้องหยิบโครงการเหมืองแร่โปแตช อุดรฯ ขึ้นมาพิจารณา ผลักดันกันทุกทีไป จะด้วยการเสนอผลประโยชน์จากปริษัทเจ้าของโครงการผู้ขอประทานบัตร หรือภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดก็ตาม
แต่ที่ทำให้เห็นคือ กลุ่มคนพวกนี้คิดอะไรไม่เป็น และมองไม่ออกว่ากระบวนทัศน์การพัฒนาจังหวัดอุดรฯ ควรมีทิศทางไปอย่างไร นอกจากท่องเป็นเสียงนกแก้ว นกขุนทอง เหมืองแร่โปแตช! นิคมอุตสาหกรรมสีเขียว! ขุดแก๊สภูฮ่อม! ขุดลอกหนองหาน! และกลุ่มคนพวกนี้เป็นนักฉวยโอกาส
ในขณะที่รัฐธรรมนูญถูกฉีก สิทธิเสรีภาพถูกปิดปาก สิทธิชุมชนถูกเหยียบย่ำ การประกาศห้ามต่อต้าน การห้ามแสดงความคิดเห็นใดๆ ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ และจะมีความสุข ต้องเชื่อผู้นำชาติจะพัฒน าฯลฯ แต่อย่าลืมว่านี่เป็นระเบิดลูกใหม่ ที่พวกนักฉวยโอกาสทั้งหลายกำลังวางไว้ให้แก่ความอึดอัดของผู้ที่คัดค้านโครงการเหมืองแร่โปแตชอีกครั้งหนึ่ง
ถ้าท่านคิดว่าโครงการเหมืองแร่โปแตช จะต้องเดินหน้าเพื่อพัฒนาประเทศ ต้องเริ่มต้นที่ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญประกาศใช้เสียก่อน และให้มีการเลือกตั้งจนมีรัฐบาลบริหารประเทศเสียก่อนตามระบอบประชาธิปไตยที่ทุกคน มีสิทธิ มีเสียงเท่ากัน
ครั้งนี้ก็เช่นกันเป็นโอกาสที่ทุกฝ่ายควรจะตั้งสติคิด ทบทวน ความเป็นมาโครงการเหมืองแร่โปแตช ไม่ว่าจะผลกระทบทางสังคม สิ่งแวดล้อม สุขภาพ ผลประโยชน์ ความจำเป็น ทางเลือกการพัฒนา กลับนั่งล้อมวงออกทีวีส่งเสียงให้ คสช.ส่วนกลางได้ยินเสียง หวังใช้จังหวะนี้ผลักดันโครงการฯ
โดยคิดว่ากลุ่มที่คัดค้านจะไม่กล้าที่จะคัดค้าน ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่สง่างาม และไม่รับผิดชอบต่อประชาชนในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมในอนาคต
ถ้าเราเปลี่ยนมุมมองการพัฒนาจังหวัดอุดรฯ ง่ายนิดเดียวโดยยึดหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน เราจะพบว่า จังหวัดอุดรฯ มีศักยภาพที่จะทำอะไรได้มากมาย เพราะเรามีทุนทรัพยากรมนุษย์ แหล่งน้ำหนองหานกุมภวาปี ผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ และแหล่งธรรมะ ซึ่งต้นทุนที่กล่าวมาเหล่านี้ต้องใช้สติปัญญา วิเคราะห์โดยไม่มีอคติ
และถ้าเราไม่ไปหลงเชื่อกับนักธุรกิจที่หวังจะใช้โอกาสนี้กอบโกยผลประโยชน์นำเสนอผ่านกลุ่มทุนอุตสาหกรรมในจังหวัด เราจะพบว่าจังหวัดอุดรธานี มีศักยภาพในการพัฒนา และสามารถจะสร้างความสมดุลการพัฒนาที่ยั่งยืน
สุดท้ายขอเตือนด้วยหวังดีว่า ถ้าพวกท่านยังยืนยันที่จะที่จะผลักดันโครงการเหมืองแร่โปแตช ต่อไป โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านจากประชาชน เราพร้อมที่จะลุกขึ้นทำการคัดค้านจนถึงที่สุดเพื่อปกป้องบ้านของเราแม้ว่าจะมีกฎอัยการศึกก็ตาม และเราเชื่อว่าความสุขของเราอยู่ที่ไม่มีเหมืองแร่โปแตช และเราก็พร้อมที่จะถูกจับกุม
แต่เรายืนยันว่าการต่อสู้ของเราที่ผ่านมาเรายึดหลักสันติวิธีมาโดยตลอด และคงจะยึดต่อไปเพื่อความถูกต้องชอบธรรมที่สง่างามของบ้านเรา
ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุดรธานีรายงานว่า ตามที่ คสช.ได้จัดรายการพิเศษ “เดินหน้าประเทศไทย เดินหน้าคืนความสุขให้ชาวอุดรธานี” เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเนื้อหาในรายการได้มีการกล่าวถึงการผลักดันโครงการพัฒนาต่างๆ ภายในจังหวัด ที่มุ่งจะผลักดันเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการเหมืองแร่โปแตช
ล่าสุด กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ได้แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยต่อการผลักดันโครงการเหมืองแร่โปแตช โดยมีออกหนังสือแสดงจุดยืน โดยมีรายละเอียดตามนี้ คือ คืนความสุขให้ประเทศไทย!!! ความสุขของเรา เราเลือกเอง และจะปกป้องบ้านเราจนถึงที่สุด...ไม่เอาเหมืองแร่โปแตช ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบการปกครองประชาธิปไตย หรือคณะรัฐประหารเผด็จการ ขึ้นมาปกครองประเทศ ต่างต้องหยิบโครงการเหมืองแร่โปแตช อุดรฯ ขึ้นมาพิจารณา ผลักดันกันทุกทีไป จะด้วยการเสนอผลประโยชน์จากปริษัทเจ้าของโครงการผู้ขอประทานบัตร หรือภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดก็ตาม
แต่ที่ทำให้เห็นคือ กลุ่มคนพวกนี้คิดอะไรไม่เป็น และมองไม่ออกว่ากระบวนทัศน์การพัฒนาจังหวัดอุดรฯ ควรมีทิศทางไปอย่างไร นอกจากท่องเป็นเสียงนกแก้ว นกขุนทอง เหมืองแร่โปแตช! นิคมอุตสาหกรรมสีเขียว! ขุดแก๊สภูฮ่อม! ขุดลอกหนองหาน! และกลุ่มคนพวกนี้เป็นนักฉวยโอกาส
ในขณะที่รัฐธรรมนูญถูกฉีก สิทธิเสรีภาพถูกปิดปาก สิทธิชุมชนถูกเหยียบย่ำ การประกาศห้ามต่อต้าน การห้ามแสดงความคิดเห็นใดๆ ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ และจะมีความสุข ต้องเชื่อผู้นำชาติจะพัฒน าฯลฯ แต่อย่าลืมว่านี่เป็นระเบิดลูกใหม่ ที่พวกนักฉวยโอกาสทั้งหลายกำลังวางไว้ให้แก่ความอึดอัดของผู้ที่คัดค้านโครงการเหมืองแร่โปแตชอีกครั้งหนึ่ง
ถ้าท่านคิดว่าโครงการเหมืองแร่โปแตช จะต้องเดินหน้าเพื่อพัฒนาประเทศ ต้องเริ่มต้นที่ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญประกาศใช้เสียก่อน และให้มีการเลือกตั้งจนมีรัฐบาลบริหารประเทศเสียก่อนตามระบอบประชาธิปไตยที่ทุกคน มีสิทธิ มีเสียงเท่ากัน
ครั้งนี้ก็เช่นกันเป็นโอกาสที่ทุกฝ่ายควรจะตั้งสติคิด ทบทวน ความเป็นมาโครงการเหมืองแร่โปแตช ไม่ว่าจะผลกระทบทางสังคม สิ่งแวดล้อม สุขภาพ ผลประโยชน์ ความจำเป็น ทางเลือกการพัฒนา กลับนั่งล้อมวงออกทีวีส่งเสียงให้ คสช.ส่วนกลางได้ยินเสียง หวังใช้จังหวะนี้ผลักดันโครงการฯ
โดยคิดว่ากลุ่มที่คัดค้านจะไม่กล้าที่จะคัดค้าน ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่สง่างาม และไม่รับผิดชอบต่อประชาชนในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมในอนาคต
ถ้าเราเปลี่ยนมุมมองการพัฒนาจังหวัดอุดรฯ ง่ายนิดเดียวโดยยึดหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน เราจะพบว่า จังหวัดอุดรฯ มีศักยภาพที่จะทำอะไรได้มากมาย เพราะเรามีทุนทรัพยากรมนุษย์ แหล่งน้ำหนองหานกุมภวาปี ผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ และแหล่งธรรมะ ซึ่งต้นทุนที่กล่าวมาเหล่านี้ต้องใช้สติปัญญา วิเคราะห์โดยไม่มีอคติ
และถ้าเราไม่ไปหลงเชื่อกับนักธุรกิจที่หวังจะใช้โอกาสนี้กอบโกยผลประโยชน์นำเสนอผ่านกลุ่มทุนอุตสาหกรรมในจังหวัด เราจะพบว่าจังหวัดอุดรธานี มีศักยภาพในการพัฒนา และสามารถจะสร้างความสมดุลการพัฒนาที่ยั่งยืน
สุดท้ายขอเตือนด้วยหวังดีว่า ถ้าพวกท่านยังยืนยันที่จะที่จะผลักดันโครงการเหมืองแร่โปแตช ต่อไป โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านจากประชาชน เราพร้อมที่จะลุกขึ้นทำการคัดค้านจนถึงที่สุดเพื่อปกป้องบ้านของเราแม้ว่าจะมีกฎอัยการศึกก็ตาม และเราเชื่อว่าความสุขของเราอยู่ที่ไม่มีเหมืองแร่โปแตช และเราก็พร้อมที่จะถูกจับกุม
แต่เรายืนยันว่าการต่อสู้ของเราที่ผ่านมาเรายึดหลักสันติวิธีมาโดยตลอด และคงจะยึดต่อไปเพื่อความถูกต้องชอบธรรมที่สง่างามของบ้านเรา