กาญจนบุรี - ผบก.สุพรรณบุรี นำทีมกำลังตำรวจ ทหาร บุกค้นบ้านอดีตข้าราชการครู ผู้ต้องหาแก๊งวางยาพิษฆ่าตัดงา “พลายคล้าว” ไม่พบเอกสาร หรือแม้กระทั่งเครื่องคอมพ์
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัว นายปัญญา ศรีแจ่มดี อดีตข้าราชการครู อายุ 60 ปี นายณรงค์ฤทธิ์ ศรีแจ่มดี อายุ 32 ปี สองพ่อลูกอยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 2 ต.ปากน้ำ อ.บางเดิมนางบวช จ.สุพรรณบุรี และนายมาโนช ดอกไม้ขาว อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 3 ต.เดิมบาง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาคดีลอบวางยาล้มช้าง “พลายคล้าว” อายุ 50 ปี ของวังช้างอยุธยาแลเพนียด จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วตัดงาทั้ง 2 ข้างเพื่อนำไปขาย นอกจากนี้ ยังได้วางยาพิษหวังล้ม “พลายแก้ว” อีก 1 เชือก เพื่อตัดเอางาแต่ไม่สำเร็จ ส่วนช้างอาการสาหัส เหตุเกิดในพื้นที่หมู่ 5 ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (18 ก.ค.) พล.ต.ต.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.อนุสรณ์ วนาปกรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.อภิชิต สุรพินิต ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ เฉลียวศิลป์ ผกก.สภ.เดิมบางนางบวช พ.ท.เอกรินทร์ การะเกต หัวหน้าฝ่ายข่าว กอ.รมน.สุพรรณบุรี สนธิกำลังทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 47 หมู่ 2 ต.ปากน้ำ อ.เดิมบางนางบวช ซึ่งเป็นบ้านของนายปัญญา ศรีแจ่มดี เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม
เมื่อไปถึงพบเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว สร้างดัวยปูนหลังขนาดใหญ่ ปลูกอยู่ในเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ติดกับแม่น้ำท่าจีน ภายในบริเวณบ้านมีสระน้ำขนาดใหญ่สำหรับเลี้ยงปลา สภาพรกทึบมีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นทั่วบริเวณ การตรวจค้นครั้งนี้มี นางสุมาลี ศรีแจ่มดี อายุ 60 ปี ภรรยาของนายปัญญา เป็นผู้นำพาตรวจค้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันตรวจค้นทั้งภายในบ้าน นอกบ้าน ห้องครัว แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย หรือเอกสารเกี่ยวกับการติดต่อซื้อขายงาช้างแต่อย่างใด
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เปิดเผยภายหลังว่า หลังจากได้รับการประสานจาก พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ขอให้เข้าตรวจค้นบ้านของผู้ต้องหาเพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับเอกสารการติดต่อซื้อขายงาช้างกับกลุ่มนายทุน และจากการสืบสวนในเชิงลึกทราบว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ทั้งหมดเป็นขบวนการค้างาช้างรายใหญ่ โดยการติดต่อซื้อขายงาช้าง หรือสัตว์ป่าชนิดอื่นๆ จะติดต่อกันทางอินเทอร์เน็ต
ผลจากการตรวจค้นครั้งนี้ไม่พบเอกสารใดๆ หรือแม้กระทั่งเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ไม่มีให้ตรวจสอบ ซึ่งได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ.ในสังกัดจังหวัดสุพรรณบุรี เร่งหาข่าวว่าในแต่ละพื้นที่มีใครบ้างที่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการจำหน่าย และซื้อขายสัตว์ป่าบ้าง หากมีให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทันที และหากจับกุมตัวได้ก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำรอยเหมือนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และผลการตรวจค้นในวันนี้จะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบต่อไป