สนช.ทยอยรายงานตัวที่รัฐสภา “ตวง” มาเป็นคนแรก เผยเพิ่งทราบหลังได้รับโปรดเกล้าฯ วอนอย่ามองภาพทหารคุมเบ็ดเสร็จ รอดูผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ ส่วนการถอดถอนต้องหารือในที่ประชุม เชื่อมีช่องทำได้ “สมชาย” พร้อมทำหน้าที่ สนช.
บรรยากาศการรายบงานตัวของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่รัฐสภา วันนี้ (1 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. นายตวง อันทะไชย สนช. และอดีต ส.ว.กลุ่ม 40 ส.ว.ได้เดินทางมารายงานตัวเป็นคนแรก ภายหลังได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ นายตวง กล่าวยืนยันว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยติดต่อคณะรักษาควาใสงบแห่งชาติ (คสช.) มาก่อน เพราะหลังจากสิ้นสุดการดำรงตำแหน่ง ส.ว.สรรหา ก็ได้เดินทางไปปฏิบัติภารกิจส่วนตัวที่ต่างจังหวัด ดังนั้นจึงทราบว่าตนเองได้รับตำแหน่งหลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
สำหรับภารกิจของ สนช.ในอนาคตต้องเน้นหนักเรื่องการปฏิรูปประเทศ เพราะรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบันได้ให้อำนาจ สนช.ในการพิจารณากฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายที่เสนอมาจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)
ส่วนที่มีทหารเข้ามาใน สนช.จำนวนมากจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ สนช.หรือไม่นั้น นายตวงกล่าวว่า ทหารจะเข้ามามากหรือน้อยไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นในเวลานี้คือการทำงานเพื่อบ้านเมืองให้เดินหน้าสู่การปฏิรูปได้ จึงถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันทำงานเพื่อพัฒนาประเทศไปสู่จุดดังกล่าวให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า สนช.จะมีอำนาจถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่งทางการเมืองได้หรือไม่ นายตวงกล่าวว่า ประเด็นนี้คงต้องคุยกันในที่ประชุม สนช. เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า หากมีประเด็นใดที่เป็นปัญหาทางกฎหมายจะต้องให้ที่ประชุม สนช.วินิจฉัย อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2549 สนช.เคยมีมติถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่งกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมาแล้ว ประกอบกับปัจจุบันสถานะทางกฎหมายของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตยังมีผลอยู่
ต่อมานายศิระชัย โชติรัตน์ อดีต ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้เข้ารายงานตัวในฐานะ สนช. พร้อมกล่าวว่าไม่มีใครทาบทามให้มาทำหน้าที่ดังกล่าว โดยทราบเรื่องจากประกาศ คสช. เมื่อทราบแล้วจึงเดินทางมารายงานตัวในช่วงเช้าวันนี้ เพราะในช่วงเย็นต้องเดินทางไปต่างจังหวัด
“ในฐานะที่ผมเป็นอดีตข้าราชการ เมื่อเกษียนแล้วก็ขออุทิศตนทำงานให้บ้านเมืองเต็มที่ ส่วนจะทำเรื่องใดเป็นพิเศษยังไม่ขอพูด ขอเวลาทำงานก่อน” นายศิระชัยกล่าว
จากนั้น พล.อ.จิระเดช โมกขะสมิต สนช.ได้เดินทางมารายงานตัวเป็นคนที่ 3 โดยหลังเสร็จสิ้นได้เดินทางกลับทันที โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
นายสมชาย แสวงการ สนช. ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงการได้รับกรแต่งตั้งเป็น สนช.ว่า ตนไม่ทราบว่าใครเสนอชื่อเข้าไปเป็น แต่ก็พร้อมและตั้งใจเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ เมื่อถามว่าอยากทำงานด้านไหนเป็นพิเศษ นายสมชายกล่าวว่า งานด้านปฏิรูปสื่อมวลชน คุ้มครองผู้บริโภค และงานด้านสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ตอนที่เป็น ส.ว.ได้ทำงานในด้านดังกล่าวหลายประเด็นจึงอยากสานงานต่อ อาทิ การใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม, การสังหารนายสุทิน ธราทิน แกนนำ กคป.
ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่า สนช.ที่เข้ามาแม้จะมาจากส่วนอื่นก็จะเป็นเพียงแค่ตรายางให้ สนช.สายทหารเท่านั้น นายสมชายกล่าวว่า การทำงานด้านนิติบัญญัติควรพิจารณาในภาพรวม ทั้ง สนช., สปช., กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ถามต่อว่าภาคสังคมกังวลว่า สนช.จะเน้นเฉพาะงานมั่นคงจนละเลยแก้ปัญหาสังคม นายสมชายกล่าวว่า คงไม่เป็นเช่นนั้นเพราะ สนช.ทั้ง 200 คนเป็นบุคคลระดับผู้ใหญ่ที่มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ อีกทั้งต้องทำงานด้านปฏิรูปประเทศตามที่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราววางกรอบไว้ในมาตาา 35 กำหนด ดังนั้นจึงเชื่ออย่างสดุดีว่าทิศทางการทำงานจะไม่ทิ้งงานด้านวัฒนธรรม, สังคม, การศึกษา หรืองานภาคประชาชนแน่นนอน
ทั้งนี้ มีข่าวว่าในวันที่ 4 ส.ค.นี้ ช่วงเที่ยง นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สนช. ได้นัด สนช.สายอดีต ส.ว. และอดีต ส.ว.กลุ่ม 40 รับประทานอาหารร่วมกัน ทั้งนี้ยังไม่ได้กำหนดสถานที่ที่ชัดเจน