สังคายนารื้อกันทั้งระบบ ชนิดล้างบางกันเลย สำหรับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หลังบัญชา“บิ๊กจิน” พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ กับงานพิจารณาปรับปรุงประสิทธิภาพของบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ที่ต้องตกอยู่ในวังวนผลประโยชน์ของบรรดาเหลือบไรนักการเมืองมานาน
ไล่บี้กันตั้งแต่ตัวคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ เรื่อยไปจนถึงสิทธิประโยชน์เลิศหรูอลังการก่อนหน้าที่รับทรัพย์กัน ต้องโละรื้อกันยกแผง อะไรไม่เป็นประโยชน์ สิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ ต้องตัดให้ขาดสะบั้นหั่นแหลกอย่าให้เหลือไว้บั่นทอนงบประมาณประเทศไทย
ส่งสัญญาณกันชัดแจ๋ว ปฏิรูปแบบสุดซอย เอาที่เชือดไก่ให้ลิงดูไปแล้วก็สิทธิของมหาบอร์ดอย่างการบินไทยที่โดนตัดสิทธิประโยชน์เรื่องตั๋วเครื่องบินฟรีไป แถมหลังจากนี้ยังจะมีต่ออีกเป็นกระบุงแน่ โดยเฉพาะพวกบอร์ดระดับวีไอพีทั้งหลาย
ขณะที่ตัวกรรมการรัฐวิสาหกิจเอง ใครเป็นประเภทเอียงกระเท่เร่ เห็นชัดบนหัวว่าเป็นยี่ห้อไหน ค่ายไหน รู้ตัวก็รีบลุกจากเก้าอี้ไปโดยละม่อม หากไม่รู้ตัวเดี๋ยวก็มีพรายกระซิบส่งซิกไปหาเพื่อให้ยกก้นตัวเองออกจากเก้าอี้ทองคำเสียเอง ไม่ให้ภาพมันดูฮาร์ดคอร์ หาว่าผู้มีอำนาจใจไม้ไส้ระกำ ใช้วิธีตะเพิด ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เพื่อให้ภาพมันออกมาสมยอมกันทั้งคู่
อย่างก่อนหน้านี้ที่รู้เงาหัวกันดีก็มี ไม่ว่าจะเป็น น.ต.ศิธา ทิวารี อดีตประธานบอร์ดการบินไทย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตประธานซุปเปอร์บอร์ด ปตท. นายณอคุณ สิทธิพงศ์ อดีตประธานบอร์ดไทยออยล์ นายวรวิทย์ จำปีรัตน์ อดีตประธานบอร์ดกรุงไทย ที่ชิงปลดล็อกตัวเองเสียก่อน ไม่ต้องให้ผู้มีอำนาจออกแรงกันมาก แล้วก็สดๆ ร้อนๆ ที่ อสมท สุธรรม แสงประทุมกับพวกไขก๊อกไปแล้วน่าจะทนแรงกดดันไม่ไหว และประธานบอร์ด กฟผ.ก็ร่อนจดหมายลาออกแล้วเช่นกัน
แล้วหลังจากนี้ก็คาดกันว่าน่าจะมีอีกล็อตใหญ่ โดยเฉพาะพวกแดงทั้งตัวและหัวใจที่สิงสถิตอยู่ในบอร์ดรัฐวิสาหกิจเกรดเอ ซึ่งยังโชว์ลูกเอ๋อทำเป็นไร้เดียงสากันอยู่ในตอนนี้ สักพักคงได้รับสัญญาณขอความกรุณาหลีกทางเพื่อสิ่งที่ดีขึ้น หากแข็งขืนคงต้องเจอหมัดเหล็กปลดกันกลางอากาศกลางวันแสกๆ เป็นแน่
ว่าด้วยคนจำพวกนี้ที่ยังดื้อๆ ด้านๆ ตีหน้ามึนก็อยู่ก็เยอะแยะ โดยเฉพาะเจ้าของวลี “มีวันนี้เพราะพี่ให้” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ที่ชักจะออกลูกกลืนน้ำลายตัวเอง คำพูดไม่เป็นคำพูดเสียแล้ว ทั้งที่ตัวเองปวารณาไว้กึกก้องเมืองแล้วว่า เป็นคนในเครือข่ายระบอบทักษิณ
ไม่รู้วันนี้ความจำเลอะเลือน หรือสมองได้รับความกระทบกระเทือนรุนแรงหรืออย่างไร “บิ๊กแจ๊ด” เมื่อวันก่อน กับ “บิ๊กแจ๊ด” วันนี้ ยังเป็นคนเดียวกันอยู่หรือไม่ ยังพอจำคำพูดตัวเองได้หรือเปล่าว่า เคยตะโกนดังลั่นสมัยพรรคประชาธิปัตย์ขับไล่ให้ออกตำแหน่ง
“หากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ไม่ต้องมีใครมาไล่ เดี๋ยวผมลาออกเอง”
แต่ปัจจุบันมีการผลัดเปลี่ยนอำนาจก็แล้ว รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลายเป็นผีตายซากก็แล้ว แต่กลับไม่มีข่าวคราวหรือเรื่องราวในทำนองว่า “บิ๊กแจ๊ด” อยากจะลุกออกจากเก้าอี้ ผบช.น.เลยแม้แต่น้อย จนกระทั่ง คสช. ต้องเซ็นให้มาช่วยราชการที่ ศปก.ตร.เองก่อนหน้านี้
นอกจากเก้าอี้ ผบช.น.ที่ตระบัดสัตย์ ทำตัวเป็นปลาทองความจำสั้น ไม่ไขก๊อกดังวาจาที่ลั่นเอาไว้ เก้าอี้อื่นๆ ที่ถูกปูนบำเหน็จให้ตอนรัฐบาลก่อนก็เข้าอีหรอบเดียวกัน ไม่ลุก ไม่หนี ไม่มีสปิริต อยากจะออกเองเลย โดยเฉพาะซุปเปอร์บอร์ดอย่างการท่าเรือแห่งประเทศไทยที่ “บิ๊กแจ๊ด” นั่งเป็นประธานอยู่ ยังโชว์มาดมึนอ้างหลักการว่าโดยธรรมเนียมเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลประธานบอร์ดจะต้องลาออก แต่ไฉนจึงยังได้อยู่จนถึงทุกวันนี้ ทั้งที่มีการยึดอำนาจกันตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม
แถมยังแถสีข้างถลอกบอกว่า มีงานที่อยู่ในความรับผิดชอบจำนวนมาก และอำนาจตัดสินใจอยู่ที่บอร์ด จึงไม่อยากลาออกให้งานสะดุด เรียกว่า ดูดี มีราคา น่าเชื่อถือ แต่ก็แค่ชักแม่น้ำทั้งห้า เพราะถ้าติดปัญหาดังกล่าวจริง เหตุอันใดบรรดากลุ่มก๊วนพรรคเพื่อไทยก่อนหน้านี้ที่แห่กันลาออกถึงทำได้ ไม่ห่วงงานสะดุด ข้ออ้างข้างต้นมันจึงเป็นแค่เรื่องขี้ประติ๋วของคนที่อยากจะนั่งแช่ ตีเนียน เพราะว่ากันตามเนื้อผ้า เรื่องปัญหาการทำงานไม่น่าเป็นห่วง ของพวกนี้มีมือไม้พร้อมเข้ามาดูแล สานต่อ ได้เลย
คิวนี้เลยปล่อยไก่ เพราะ“บิ๊กแจ๊ด” พูดเหมือนอย่างกับในบอร์ดการท่าเรือไทยแห่งประเทศมีตัวเองทำงานอยู่คนเดียว
หนำซ้ำ ยังทำดื้อเป็นศรีธนญชัยต่อรองว่า บอร์ดการท่าเรือไทย ที่มีลิ่วล้อ ขี้ข้าติ่ง น.ช.ทักษิณ ชินวัตร เข้าไปเป็นปลิงเกาะอยู่ ไม่ว่าจะเป็น พล.ร.อ.เกรียงศักดิ์ ดามาพงศ์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพเรือ ซึ่งเป็นพี่ชายต่างมารดาของ“คุณหญิงกระบังลม” คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร “บิ๊กแป๊ะ” พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมจะลาออก แต่ต้องมีการแต่งตั้งบอร์ดชุดใหม่เข้ามาสานงานก่อน
ออกแนวดูดี แต่ติดหูทวนลมนิดๆ เสมือนเป็นการเล่นแง่ เพราะหากคสช.มีการแต่งตั้งบอร์ดชุดใหม่เข้าไปแทน ก็จะทำให้สังคมมองว่า คสช. จงใจเขี่ยตัวเองทิ้ง บีบให้ออก ไม่ต้องการเก็บเอาไว้ ทั้งที่ทางออกเรื่องนี้ทำได้โดยง่ายคือ“บิ๊กแจ๊ด” และแก๊ง เฟรนด์ ออฟ น.ช.ทักษิณไขก๊อกเองยกก๊ก เหมือนกับอดีตประธานบอร์ดอื่นๆ ที่เขาทำกันได้ ภาพก็จะออกมาเป็นการสมยอม ไม่ดูเหมือนฝ่ายอำนาจต้องการล้างบางฝ่ายตรงข้าม
แต่เมื่อ “บิ๊กแจ๊ด” มามุกนี้แนวนี้ ไม่ยอมลุกจากเก้าอี้ ทำเป็นคนแก่เลอะเลือนหลงลืมคำพูด ก็ถือว่าเสียเหลี่ยมนักเลงโตไม่น้อย เพราะวิถีนักเลงถือว่า คำพูด และคำมั่นสัญญาคือ เรื่องใหญ่ ที่ต้องรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรี
ชนิดฆ่าได้แต่หยามไม่ได้
แต่วันนี้กลับทำลายบรรทัดฐานนั้นทิ้ง เพียงเพราะหลงใหลได้ปลื้มหวงก้างอำนาจอันหอมหวาน
หลังจากนี้พฤติกรรมดังกล่าวจะถูกโจษจัน และเป็นตราบาปติดตัว “บิ๊กแจ๊ด” ไปอีกนานแสนนาน ยากที่คนจะลืมเลือน โดยเฉพาะในแวดวงการเมือง ยิ่งมีข่าวว่าจะก้าวเท้าเข้าสู่วงการการเมืองเต็มตัวหลังเกษียณอายุราชการ การทรยศคำพูดตัวเองคราวนี้ย่อมทำให้เสียเครดิตและบารมีไปไม่น้อย ยากนักที่จะก้าวเข้าไปสู่นักการเมืองระดับท็อปแนวหน้าได้ เพราะคนไม่เชื่อถือ ไม่ไว้วางใจ กลัวถูกทรยศหักหลัง
ถือเป็นการประจานสันดานดิบของ “บิ๊กแจ๊ด” ทีเดียว!!!
