รายงานตำรวจ
“ผมขอโทษผมต้องยึดอำนาจ”“ คงเป็นวาทะกรรมแห่งปีนี้เลยทีเดียวซึ่งคำพูดดังกล่าวที่หลุดโพล่งออกมาจากปากของ ““บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาผบ.ทบ.“ตามการกล่าวอ้างของบรรดาสื่อมวลชนสำนักต่างๆ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ ““ล็อกคอ” “บรรดาแกนนำกลุ่มต่างๆ
ทั้ง“ลุงกำนัน”“ สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ,“ตุ๊ดตู่” “จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ,“มาร์ค” “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เว้นแม้กระทั่งรัฐมนตรีที่ (ขาอ่อน)แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีอย่าง“ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" “อดีตรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม พร้อมประกาศ “รัฐประหาร”“ ยึดอำนาจแบบเบ็ดเสร็จผ่านหน้าจอโทรทัศน์ท่ามกลางบรรยากาศชวนขนลุกขนพองขึ้นมาอีกครั้ง
ภายหลังการประกาศยึดอำนาจแล้วทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ทยอยออกประกาศฉบับต่างๆ อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะคำสั่งให้บรรดา 2 ฝ่ายคู่ขัดแย้ง ไล่ตั้งแต่ “น้องปู”“ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี, สมชาย วงศ์สวัสดิ์ , นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล
จนไปถึงระดับกลุ่มที่ปัญหากับ“มาตรา 112" “อย่าง "หงอกขาว" “สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ,"อ.เจตน์"“ วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ,"อ.หวาน" “สุดา รังกุพันธ์ ,"อั้มเนโกะ" “ศรัณย์ ฉุยฉาย เข้ารายงานตัวเป็นการด่วนพร้อมกับรายชื่อแบล็กลิสต์ที่ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
ต่อจากนี้ทาง คสช.คงเดินหน้าชำระล้างจัดการส่วนต่างๆ ต่อเนื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่หวังว่าทาง“บิ๊กตู่”“ จะให้ความสำคัญด้วย คือกลุ่มที่มีการแสดงความเห็นจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงฯ อย่างชัดเจนไม่ใช่แค่เฉพาะกลุ่มที่ถูกเรียกเข้ารายงานตัวเท่านั้น แต่ตัองเป็นกลุ่มที่มีหมายจับค้างเก่านั่นเองซึ่งนานวันบุคคลเหล่านี้พยายาม“มโน”“ ใส่น้ำจิ้มเติมแต่งลงไปอย่างเมามันเพื่อเป้าหมายทำลายความศรัทธาของใครหลายคนยิ่งสถานการณ์ปัจจุบันที่ประเทศไทยเพิ่งจะผ่านพ้นการก่อ“รัฐประหาร”ด้วยแล้ว คงหนีไม่พ้นการเชื่อมโยงอุบัติเหตุทางการเมืองครั้งนี้กับสถาบันอย่างแน่นอน...
โดยเฉพาะการติดตามจับกุมตัว“โกตี๋” “วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ" แกนนำเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาคดี 112 ที่ช่วงแรกทางตำรวจดูเหมือนจริงจังในการควานหาตัว“ดีเจปากพร่อย” โดยทาง“บิ๊กอู๋”“ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้นำอาณาจักร “โล่เงิน”“ ได้มอบหมายให้ “บิ๊กเอก”“พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.ดูแลงานด้านการปราบปรามเป็นหัวหน้าชุดในคดีนี้ และให้ “บิ๊กแป๊ะ” “พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วยผบ.ตร.ทำหน้าที่ลากคอแกนนำหัวรุนแรงผู้นี้มาเข้าลูกกรง
ช่วงนั้นมีข่าวลือหึ่งอยู่ตลอดว่า“โกตี๋”“ ได้หลบหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้านแล้วโดยมีการเผยแพร่ภาพเก่าที่แกนนำแดงฮาร์ดคอร์ผู้นี้ถ่ายเคียงข้างกับป้ายสุดประจินที่ริมเมย อ.แม่สอด จ.ตากซึ่งบุคคลที่ปล่อยข่าวดังกล่าว ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น“ลุงยิ้มตาสว่าง”หรือ “พฤกษ์ พฤกษ์สุนันท์” เสื้อแดง จ.เชียงใหม่ผู้ที่มักจะทำนายอนาคตเวลาเกิดเหตุรุนแรงกับม็อบได้แม่นเหมือนจับวางนั่นเอง
จากวันนั้นเป็นต้นมามาดขึงขังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เริ่มค่อยๆ เงียบหายตามกาลเวลารวมถึงไม่มีการเรียก “ลุงยิ้มตาสว่าง”เข้ามาสอบถามข้อมูลเลยแม้ทาง“บิ๊กแป๊ะ”จะแสดงความมั่นใจว่า“ดีเจปากพร่อย”ผู้นี้น่าจะยังอยู่ภายในประเทศและเชื่อว่ายังคงกบดานอยู่ในภาคเหนือ แต่สุดท้ายก็ไม่มีความคืบหน้าเช่นเดิม
ขณะที่มีรายงานว่าก่อนหน้านี้แม้ทาง “โกตี๋” จะมีการเคลื่อนไหวที่ประเทศกัมพูชาที่หนีออกไปด้วยช่องทางพิเศษแต่ขณะนี้เจ้าตัวน่าจะหลบหนีเข้ามาอยู่ในพื้นที่ภาคอีสานแล้วโดยได้รับความช่วยเหลือจากผู้มีอำนาจในพื้นที่นั่นเอง...
ส่วนผู้ต้องหาคดี112 อีกราย ที่บุรุษสีกากีปล่อยให้หลุดมือไปอย่างเหลือเชื่อคงเป็น “ตั้งอาชีวะ” “หรือ“เอกภพ เหลือรา” หลังจากถูกออกหมายจับคดีหมิ่นเบื้องสูงตั้งแต่ปีที่แล้วแต่ความคืบหน้าของคดีนั้นทางตำรวจยังออกอาการ“ใบ้รับประทาน" เช่นเดิม
โดยช่วงแรกที่มีการออกหมายจับได้มีข่าวลือหึ่งว่า “ตั้งอาชีวะ"พร้อมแฟนสาว ได้หลบหนีอย่างสบายใจภายในประเทศส่วนใหญ่เป็นพื้นที่จังหวัดทางภาคใต้ อย่างภูเก็ต และกระบี่ซึ่งมีภาพเก่าหลุดบนโลกออนไลน์เป็นช่วงๆ พร้อมกับอัดคลิปวิดีโอโชว์ความ “อัปลักษณ์”พร้อมตวัดลิ้นเยาะเย้ยเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านหน้าจอจนกลายเป็นที่หมั่นไส้ของใครหลายคน
แต่สุดท้ายชุดติดตามตัวก็ไม่สามารถระบุจุดพิกัดของ“เด็กปากพร่อย"คนนี้ได้ว่าอยู่ที่ใดกันแน่
ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่าช่วงระหว่างเดือน ก.พ.-มี.ค.ที่ผ่านมา“ตั้งอาชีวะ” พร้อมแฟนสาว มีความเคลื่อนไหวอยู่ในประเทศกัมพูชาก่อนจะโผล่ปรากฏตัวที่เมืองวินนิเพก รัฐแมนิโทบา ประเทศแคนนาดาโดยมีกลุ่มล้มเจ้าค่อยโปรยเม็ดเงินไว้เลี้ยงดู
และแว่วมาอีกว่าป่านนี้เจ้า “เด็กอัปลักษณ์”คงหนีไปกบดานอยู่ที่มหานครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แล้ว...
นอกจากนี้ยังมีอีกคนที่ยังเป็นประเด็นในโลกออนไลน์อย่าง “โรส”หรือ“ฉัตรวดี อมรพัฒน์”สาวเสื้อแดงหัวก้าวหน้าที่ขณะนี้อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ ที่มีการโพสต์ลงเฟชบุ๊กส่วนตัวทั้งบิดเบือนข้อมูล ตัดต่อรูปภาพให้ร้ายสถาบันเบื้องสูงอย่างน่าหวั่นเกรงแม้จะมีหลายฝ่ายพยายามดิ้นขู่ แต่เนื่องด้วยเจ้าหล่อนอาศัยอยู่ในต่างแดน ที่ไม่รองรับกฎหมายอาญามาตรา 112 ส่งผลให้เป็นปัญหาในการติดตามจับกุมตัว...
ฉะนั้นคงถึงเวลาแล้วที่“บิ๊กตู่" จะเริ่มต้นปราบปรามกลุ่มเหล่านี้อย่างจริงจังอย่าปล่อยให้กลุ่ม “ล้มเจ้า"ยังคงลอยนวลไปอย่างไร้ความผิดอย่างทุกวันนี้ ไม่เช่นนั้นแล้ว คงมีเหตุการณ์อย่าง“โกตี๋ภาค 2" หรือ“สปป.ล้านนา"เกิดขึ้นมาอีกอย่างแน่นอน!?!