xs
xsm
sm
md
lg

คสช.Grand Sale ลด-แลก-แจก-แถม กลยุทธ์ชิงมวลชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
รายงานการเมือง

ป็นโหมดชิงกระแสนิยมเข้าตัวอย่างแท้จริง สำหรับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ภายใต้ฝีพายของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) หลังอัดฉีดแคมเปญซื้อใจประชาชนอย่างหนักในช่วงนี้ ตามคิวที่ต้องฉวยจังหวะโอกาสทองที่ไหลเข้าตีนเต็มๆ

เรื่องของเรื่องก็เป็นเพราะระยะหลัง คสช.เริ่มถูกตั้งข้อครหาถึงฝีไม้ลายมือในการบริหารประเทศ หลังเข้าควบคุมอำนาจบริหารประเทศมาได้เกือบร่วมเดือน ไม่ว่าจะเป็นการกึ๋นในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ไอเดียในการปฏิรูปประเทศ ต่างนานาที่เป็นหน้าที่ของผู้นำ

วันนี้โดยตั้งคำถามประดังประเดเข้ามาอย่างอื้ออึง จนเริ่มไม่หอมหวานเหมือนเมื่อครั้งสวมบทเป็น “อัศวินขี่ม้าขาว” เข้ามากอบกู้ซากปรักหักพังในประเทศเมื่อช่วงแรก

ไม่ว่าจะเป็นผลโพลหลายสำนักที่สะท้อนความคิดประชาชนว่าต้องการคนดีมีฝีมือมาบริหารประเทศ หรือแม้แต่นักวิเคราะห์เศรษฐกิจต่างชาติก็ยังถลกหนังว่า คนใน คสช.มือไม่ถึง ถึงขนาดต้องเอาผู้บัญชาการเหล่าทัพมานั่งขัดตาทัพทำหน้าที่หัวหน้าฝ่ายต่างๆ ขณะเดียวกันยังโดนกระแสเสียดทาน กดดันจากทั้งฝ่ายต่อต้าน และแนวร่วม ซึ่งต้องการเห็นความชัดเจนมากกว่านี้ จนส่งสัญญาณจี้ถามกันอยู่รายวัน

เมื่อแบกภาระหนักอึ้งบนบ่า สิ่งที่หยิบจับได้ง่ายและเป็นรูปธรรมได้อย่างรวดเร็ว จึงเป็นอะไรที่ต้องทำก่อนเพื่อเป็นการลดทอนแรงเสียดทาน และปั่นโปร์ไฟล์ให้ตัวเองเพื่อเรียกกำลังศรัทธาและความเชื่อมั่น

ชั่วโมงนี้เลยเห็น คสช.จัดหนัก จัดจริง ในช่วงที่น้ำขึ้นต้องรีบตัก ไม่ว่าจะเป็นการกล้าลุกขึ้นสังคายนา “บอร์ดรัฐวิสาหกิจ” ที่ถูกมองว่าเป็น “ขุมทรัพย์” ของบรรดานักการเมือง และข้าราชการกังฉินที่ล้วนแต่ชอนไชเข้าไปแสวงหาประโยชน์เข้าตัว โดยที่ไม่ประจักษ์ซึ่งผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน ขณะเดียวกัน ยังผลาญงบประมาณกันมือเปิบ

เริ่มต้นด้วยการเชือดไก่ให้ลิงดูในอภิมหาบอร์ดอย่าง “บอร์ดการบินไทย” ที่ “บิ๊กตู่” ทุบโต๊ะให้ยกเลิกสิทธิพิเศษต่างๆ เนื่องจากสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ โดยเฉพาะสิทธิพิเศษตั๋วเครื่องบินฟรี ซึ่งก่อนหน้านี้กำหนดให้กรรมการบริษัทได้รับสิทธิประโยชน์ด้านบัตรโดยสารให้เปล่าไป-กลับในเส้นทางต่างประเทศ 10 ใบต่อปี และในประเทศ 10 ใบต่อปีในชั้นธุรกิจ

นอกจากนี้ ยังมีช็อตต่อเนื่องด้วยการมอบหมายให้ “บิ๊กจิน” พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ ไปพิจารณาทบทวนสิทธิพิเศษในลักษณะนี้ตามบอร์ดรัฐวิสาหกิจอื่นๆ แล้วกลับมารายงานเพื่อรีเซตกันใหม่

คิวนี้ถือว่า คสช.ได้เสียงปรบมือไปไม่น้อย เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ค่อยมีการกล้าแตะต้อง “บอร์ดรัฐวิสาหกิจ” กันสักเท่าไร เพราะมีบรรดาขาใหญ่ป้วนเปี้ยนค่อมเก้าอี้กันเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน หนำซ้ำยังมีผลประโยชน์ทับซ้อนกันพรึ่บพรั่บ การเข้ามารื้อครั้งนี้จึงมีปฏิกิริยาตอบรับในเชิงบวก

อีกจุดหนึ่งที่ คสช.เข้าไปชำระล้าง จนเรตติ้งกระฉูดเข้าตาชาวบ้านชาวช่อง คงหนีไม่พ้นเรื่องพลังงานที่ “เจ้าพ่อ-เจ้าแม่” นั่งคุมสัมปทานกันเต็มไปหมด แต่ “บิ๊กตู่” โชว์ขนาดหัวใจ เข้าไปจัดระเบียบกันใหม่ โดยถ่างขาเข้าไปนั่งคุมเองหัวโต๊ะในตำแหน่งประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กบง.) เพื่อเป็นการส่งสัญญาณนับหนึ่ง “ปฏิรูปพลังงาน”

สมใจกองเชียร์-แม่ยก ที่ลุ้นกันตัวโกร่งขอให้กล้าๆ ทำจะยกมือท่วมหัว เพราะที่ผ่านมามีแต่พวกปอดแหก ใจไม่ถึง ไม่กล้าแหย่เท้าเข้าไปสะกิดกองผลประโยชน์

เอาเป็นว่า นาทีนี้ “คสช.” พยายามหยิบจับอะไรที่ง่ายๆ แต่เห็นได้กลางแจ้งไว้ก่อน!!

อย่างไรก็ดี ในขณะที่ คสช.กำลังปั่นผลงานอวดสายตาประชาชน ขณะเดียวกัน ก็ถือจังหวะหาแนวร่วมเพื่อเป็นอ้อมกอดในการหอบหิ้วผู้ปฏิบัติไปสู่เป้าหมายที่ทุกคนต้องการได้ง่ายๆ ไม่ยากเย็น หรือเรียกง่ายๆ ว่าปฏิบัติการชิงแนวร่วม ตัดกำลังฝ่ายต่อต้าน

อย่างเรื่องการฉายหนังตำนานสมเด็จพระนเรศวร ตอนยุทธหัตถี ให้ประชาชนได้เข้าไปชมกันฟรีๆ 160 โรง ทั่วประเทศในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ โดยให้เหตุผลว่าต้องการคืนความสุขให้กับคนไทย อีกทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมให้คนไทยรักชาติ และมีความสมานฉันท์ปรองดองกัน

ทั้งที่ความจริงอาจมีอะไรซ่อนอยู่มากกว่านั้น

แต่เอาเป็นว่า ช็อตนี้ถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดของ คสช.ที่รู้จักพลิกแพลงไม่เบา เพราะอย่างน้อยๆ ก็จับจุดนิสัยคนไทยได้ดี ไม่สนเบื้องหน้าเบื้องหลังว่าแฝงด้วยวัตถุประสงค์อะไร แต่รู้แค่ว่า “พี่ทหารให้ดูหนังฟรี”

แล้วผลตอบรับก็เป็นไปอย่างที่เซียนการตลาดทำนาย ผลงานดูหนังฟรีภายใต้พะยี่ห้อ คสช.เกิดอุปทานหมู่ปากต่อปาก คืนเดียววิจารณ์กันสนั่นโลกโซเชียลมีเดีย แม้จะมีติติงเรื่องค่าใช้จ่ายที่ลงทุนไปบ้าง แต่โดยรวมถือว่าบรรลุผล

พอๆ กันกับบท “ฮีโร่คอบอล” ที่ตอนนี้ คสช.กำลังได้รับเสียงเชียร์จากแฟนลูกหนังชาวไทย เมื่อแอ่นอกออกหน้าประสานบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดมหกรรมฟุตบอลโลก กับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อขอถ่ายทอดสดเอาใจคนไทยแบบจุใจครบทุกแมตซ์ แม้กระทั่งพิธีเปิด หลังจากศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ “อาร์เอส” ถือเอกสิทธิ์การถ่ายทอดสดได้เต็มที่ 64 แมตช์ และผ่านฟรีทีวีเพียง 22 แมตช์

ไม่รู้ว่างานนี้บังเอิญหรือจงใจให้ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาเสร็จแล้วตัวเองจะเป็น “ตาอยู่” เข้ามาเสียบทำหน้าที่อัศวินหรือไม่ เพราะทันทีที่สิ้นเสียงพิพากษา คสช.ก็ออกแอกชั่นเรื่องนี้ทันทีทันควัน จนโดนแซวว่า วางแผนกันไว้แล้ว ก็ตามคิวที่มีการปล่อยข่าวออกมาก่อนวันสองวันว่า ทีมงานท็อปบูตเดินเกมประสานใต้ดินกันเอาไว้แล้วแต่เนิ่นๆ เพียงแค่รอจังหวะ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นั่นเป็นเรื่องรายละเอียดที่จะต้องไปล้วงแคะแกะเกากันต่อหลังจากนี้ แต่เบื้องหน้าเท่าที่เป็นอยู่ ตามอุปนิสัยคนไทย ฉันรู้แค่ว่า คสช.ทำให้ก็พอ

แอ็กชันแบบเหนือความคาดหมายแบบติดๆ กันหลายช็อต สะท้อนให้เห็นเลยว่า คสช.เองก็ประเมินแล้วว่าลำพัง “ปลายกระบอกปืน” กับ “กฎหมายติดดาบ” ไม่เพียงพอที่จะกรุยทางไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้ ทั้งเรื่องปฏิรูป การแก้ไขกติกา นานาสารพัน เพราะหากประชาชนไม่ให้ความร่วมมือที่ดีก็จบ ล่มกลางหนอง ตามแบบฉบับศิษย์ก่อนหน้านี้ทำกันไว้

แต่ถ้าทำให้ทุกคนมองว่าเป็นที่พึ่งหวัง แก้ไขได้ทุกเรื่อง ชนิดนึกอะไรไม่ออกบอก คสช.ได้เลย ก็จะทำให้ทุกอย่างนั้นง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก กระแสต่อต้านจะกลายเป็นเพียงที่คนส่วนน้อยนิดทันที

เพราะ คสช.มีประชาชนเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กคุ้มครองไว้แน่นหนา!!
กำลังโหลดความคิดเห็น