กกต.ทำบุญครบ 16 ปี ปธ.กกต.เล็งแก้ปัญหาที่บันทึกไว้ พร้อมปฏิรูปเลือกตั้ง “สมชัย” แต่งกลอนชม ยก กกต.กลไกหลักกลั่นกรองบุคคล นักการเมืองตัวปัญหา แจงลุยงานสำคัญต่อ ยก คสช.ให้องค์กรอิสระทำเต็มที่ เผยมุ่งปฏิรูปให้คนมีฝีมือเป็น ส.ส.-ส.ว.ไม่ทุ่มงบหาเสียง ห้ามโกยผลประโยชน์ “ธีรวัฒน์” มุ่งให้เข้าคูหาเพิ่ม ใช้สิทธิล่อใจรากหญ้าตื่นตัว “ประวิช” ชี้ ปชช.ต้องมีส่วน เลขาฯ แจง ตปท.ไม่ติดใจเหตุในไทย
วันนี้ (9 มิ.ย.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.ด้านพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ และนายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านกิจการการการมีส่วนร่วมและการออกเสียงประชามติ ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังจัดทำบุญโอกาสครบรอบ 16 ปีสถาปนา กกต. ภายใต้สโลแกน “เป็นกลาง มืออาชีพ ยึดประโยชน์ของชาติ”
นายศุภชัยกล่าวว่า 16 ปี กกต.ประสบปัญหาอุปสรรคมากมาย เราบันทึกไว้พร้อมที่จะแก้ไข ขณะนี้เรามีเวลา 1 ปีที่จะแก้ไข โดยเฉพาะบุคลากร สถานที่ เราคิดที่จะพัฒนาให้ดีขึ้น จากประสบการณ์ 6 เดือน เราทราบข้อมูลต่างๆ ในส่วนที่ดีจะทำให้ดีขึ้น ส่วนไหนบกพร่องก็จะแก้ไข ถ้าจะปฏิรูปการเลือกตั้งเราก็มีข้อมูลพร้อม
ด้านนายสมชัยกล่าวว่า กกต.เป็นกลไกหลักในการกลั่นกรองบุคคล สังคมอยากให้กลั่นกรองบุคคลเข้าไปทำหน้าที่บริหารประเทศ นิติบัญญัติ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นนักการเมืองมีผลทำให้เกิดปัญหา กกต.คงต้องทบทวนว่ากระบวนการของเรามีจุดอ่อนข้อด้อยอย่างไร เพื่อนำมาปรับปรุง เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เมื่อถามว่าหลังจากการยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้ว ทำไม กกต.ยังคงฏิบัติหน้าที่อยู่ ขณะที่องค์กรอื่น เช่น ส.ว.ถูกยกเลิก นายสมชัยกล่าวว่า เรามีงานสำคัญ 3 เรื่องใหญ่ๆ 2 เรื่องเป็นเรื่องกฎหมาย เช่น การจัดเลือกตั้งท้องถิ่น การดำเนินคดีเลือกตั้ง ที่เป็นคดีอาญา การตัดสิทธิ การยุบพรรค ก็ยังมีอยู่ ดังนั้นกกต.ต้องเดินหน้าทำงานต่อไป สอดคล้องกับที่หัวหน้า คสช.ให้องค์กรอิสระทำหน้าที่ต่อไปเต็มที่ และประเด็นสุดท้ายสังคมคาดหวัง ซึ่ง กกต.ต้องมีส่วนสำคัญในการปฏิรูปการเลือกตั้ง โดยประธานมอบหมายให้ กกต.ทุกคนไปศึกษาการปฏิรูปตามที่หน้าที่เกี่ยวข้อง
นายสมชัยกล่าวต่อว่า การปฏิรูปในส่วนที่ตนเกี่ยวข้อง คือ 1. กลไกการได้มาซึ่งตำแหน่งทางการเมือง ส.ส.และ ส.ว.เพื่อให้ได้คนที่มีความสามารถเข้ามาว่าจะมีขั้นตอนการปฏิบัติอย่างไร 2. การหาเสียง ทำอย่างไรให้ผู้สมัครมีค่าใช้จ่ายไม่มากเกินไปและไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ กกต.จะต้องพิจารณาเรื่องนโยบายของผู้หาเสียงเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ 3. กลไกในการจัดการเลือกตั้งต่างๆ ตราบใดที่มีการใช้เงิน ใช้อำนาจ ซึ่ง กกต.จะต้องพิจารณาไม่ให้มีการเข้ามาดำรงตำแหน่งแล้วหาผลประโยชน์เข้าตัวเอง อีกทั้งยังมีกลไกต่างๆ ที่จะต้องนำมาแก้ไขปรับปรุง เช่น ถิ่นพำนักอาศัย จะต้องร่วมหารือหลายฝ่าย ทั้งมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้มีการแจ้งถิ่นที่อยู่ปัจจุบันทางอินเทอร์เน็ตได้ด้วยตัวของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเอง ส่วนการสืบสวนสอบสวนก็ต้องการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแสผ่านช่องทางต่างๆ
นายธีรวัฒน์กล่าวว่า การปฏิรูปในด้านที่ตนรับผิดชอบ โจทย์ใหญ่คือทำอย่างไรให้คนมาลงคะแนนเสียงให้มาก ถ้าประชาชนตื่นตัว ติดตามการเมือง จะทำให้ระบบการเมืองแบบซื้อเสียงจะหายไป เรากำลังศึกษาว่าทำอย่างไรประชากรจะได้รับการชดเชยเมื่อมาทำหน้าที่พลเมือง เช่น ชดเชยการมาใช้สิทธิอาจจะจ่ายเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำ ตัวอย่างที่ผ่านมามีการจัดรถไฟฟรี เมื่อคนมาใช้สิทธิจำนวนมากจะทำให้ซื้อเสียงยากขึ้น ซึ่งได้ตั้งคณะกรรมการมาศึกษาเรื่องนี้ ก็จะเป็นการคืนความสุขให้ประชาชนที่มาทำหน้าที่พลเมือง จะทำให้รากหญ้าตื่นตัวการเลือกตั้งมากขึ้น
นายประวิชกล่าวว่า สำหรับด้านกิจการการมีส่วนร่วมและการออกเสียงประชามติ การปฏิรูปในส่วนนี้นั้น ตนได้กำหนดบุคลากรที่จะมารองรับการปฏิรูปไว้ 16 เรื่อง โดยมีจุดประสงค์เดียวกันคือต้องเดินไปข้างหน้า เพราะเราเชื่อว่ากฎหมายอย่างเดียวไม่พอ ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของประชาชนด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวในโอกาสครบรอบสถาปนาสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งครบ 16 ปี โดยมีข้อความว่า “ปีที่ผ่าน งานยิ่งแกร่ง แรงยิ่งเพิ่ม ได้เติบเติม พลังใจ ให้สร้างสรรค์ สิบหกปี เวียนผ่าน ไม่นานวัน เป็นไฟฝัน ฝากไว้ ให้จดจาร จากองค์กร อ่อนใหม่ ได้เริ่มต้น ผลิตผล รัฐธรรมนูญ เป็นแก่นสาร ภารกิจ จัดเลือกตั้ง ครั้งก่อการ เป็นตำนาน ใบเหลืองแดง แกร่งเหลือทน ว่ามุ่งมั่น สุจริต และเที่ยงธรรมเป็นธงนำ น้อมให้ ไม่สับสน ขึ้นชื่อว่า กกต. ประกาศตน รับใช้ชน รับใช้ชาติ องอาจนาม”
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต.เปิดเผยถึงกรณีที่เดินทางไปร่วมประชุมองค์กรจัดการเลือกตั้งโลกที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมี 54 องค์กรเข้าร่วมว่า ผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 10 ประเทศได้สอบถามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยตนชี้แจงว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา มีความขัดแย้งทางความคิดของสองฝ่ายอย่างรุนแรง จนเกือบจะเกิดการนองเลือด แต่ทหารได้เข้ามายุติสถานการณ์ และประชาชนในประเทศก็พอใจ ทหารยืนยันว่าจะใช้เวลาเพียง 18 เดือนในการคลี่คลายปัญหา ต่างชาติก็พอใจ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไม่ติดใจที่จะสอบถามเพิ่มเติม เรายืนยันว่าแม้ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งระดับประเทศได้ แต่ยังจัดตั้งเลือกตั้งท้องถิ่นได้
ทั้งนี้ นายภุชงค์กล่าวด้วยว่า วันที่ 13 มิ.ย.นี้จะเปิดการเรียนของหลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูงรุ่นที่ 5 อีกครั้ง หลังหยุดไป 2 สัปดาห์ เนื่องจาก คสช.อนุญาตให้ดำเนินการต่อ แต่ได้กำชับให้ระวังเรื่องการเมือง
