รองโฆษก คสช.ระบุแนวทางการทำงานที่ “ประยุทธ์” แถลง มาจากการฟังความคิดเห็นทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน และกลุ่มที่ปรึกษา พร้อมแก้ปัญหาให้ทุกคนได้รับความเป็นธรรม ขจัดเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เตือนนักการเมือง-แกนนำ-คู่ขัดแย้ง ให้ระวังวิจารณ์ คสช.ในลักษณะไม่ไว้วางใจ ไม่เชื่อมั่น ชี้ปัญหาต่างๆ สะสมมานาน คนที่มีส่วนร่วมในการบริหารประเทศในอดีตต้องรับผิดชอบ
วันนี้ (9 มิ.ย.) พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการแถลงแนวทางการทำงาน ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ว่าทุกเรื่องที่ คสช.ได้คิดและพิจารณาเกิดจากการรับฟังมาจากหลายกลุ่มหลายฝ่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน ประกอบด้วย ประชาชน ข้าราชการ กลุ่มที่ปรึกษา รวมทั้งจากสื่อมวลชน และจากข้อร้องเรียนของประชาชน ทั้งหมดได้ถูกรวบรวมมาแล้วพยายามนำไปดำเนินการแก้ไข อะไรแก้ได้เลยหากไม่มีผลกระทบหรือเป็นปัญหาก็จะดำเนินการทันที บางอย่างเริ่มต้นด้วยการชะลอก็พยายามดำเนินการอยู่แล้ว แต่บางอย่างที่ยังมีเรื่องของกฎหมายและระเบียบควบคุมอยู่ หรือเป็นเรื่องของโครงสร้างทั้งระบบจะรีบดำเนินการโดยไม่ศึกษาผลกระทบก่อนไม่ได้เพราะแก้หนึ่งเรื่องอาจมีผลกระทบไปหลายเรื่อง บางเรื่องอาจมีผลกระทบไปถึงโครงสร้างระบบการเงินการคลังของประเทศ รายได้ของรัฐ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผู้ลงทุน ผู้ถือหุ้น และอีกมากมาย
สำหรับการแก้โครงสร้างระบบเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ไม่ว่าจะเป็นด้านพลังงาน เงินชดเชยต่างๆ เรื่องภาษี และรายได้เกษตรกร ในระยะแรกพยายามผ่อนคลายความเดือดร้อนของประชาชนเป็นลำดับแรก ระยะต่อไปเมื่อมีรัฐบาล มีคณะรัฐมนตรี จะได้นำเข้าไปดำเนินการให้ถูกต้องจนทุกฝ่ายพึงพอใจ ขอให้มั่นใจ คสช.จะบริหารแผนโครงการและงบประมาณภายใต้ความถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ สามารถตรวจสอบได้ จะไม่มีในเรื่องทุจริตหรือผลประโยชน์ทับซ้อน ระบบการจัดซื้อจัดจ้างในทุกโครงการสามารถเข้าแข่งขันกันได้อย่างเป็นธรรม ไม่มีระบบผูกขาดใดๆ
ส่วนเรื่องการศึกษาหรืออะไรก็ตามบางอย่างอาจทำได้ทันที บางอย่างต้องคอยให้ระบบกลไกเดิมได้ทำงาน เพราะที่ผ่านมาระบบอาจทำงานไม่สมบูรณ์ เนื่องจากเรื่องการเมือง ระบบบริหารราชการ ตัวข้าราชการ และกฎหมาย อาจมีปัญหา
“วันนี้ปัญหาหรือความเดือดร้อนและข้อข้องใจได้รับทราบครบถ้วน เพียงแต่ต้องหาวิธีการที่เหมาะสมในการแก้ปัญหา การเร่งรัดมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อประเทศชาติในอนาคต คสช.ต้องการแก้ปัญหาให้ทุกคนได้รับความเป็นธรรม ขจัดเรื่องผลประโยชน์ ธุรกิจทับซ้อนให้หมดไปทันที แต่เนื่องจากปัญหาได้สะสมมานาน มีเรื่องราวหลายอย่างที่ข้อมูลไม่ตรงต่อความจริงทำให้ประชาชนสับสน และไม่เข้าใจ ข้าราชการก็ไม่ดี ไม่แก้ไข ทำให้เกิดความยุ่งยากมาจนถึงปัจจุบัน”
พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ขอให้มั่นใจ คสช.มีความตั้งใจจริง มิได้มุ่งหวังให้เกิดประโยชน์กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างที่หลายกลุ่ม หลายฝ่ายได้กล่าวอ้าง และขอยืนยันว่าจะไม่เริ่มแก้ไขสิ่งที่ผิด สิ่งที่ไม่ถูกต้อง ด้วยการที่จะเริ่มทำความผิดขึ้นใหม่ หรือปล่อยให้มีการทำผิดเสียเอง ความคาดหวัง จากการที่ คสช.ได้พยายามดำเนินการมาหรือที่พยายามดำเนินการอยู่ ยากที่จะใช้คำว่า WIN-WIN น่าจะใช้คำว่าทุกคนได้รับผลประโยชน์ตามสิทธิที่พึงมีพึงได้ โดยที่เงินงบประมาณของประเทศไม่รั่วไหล
“คนไทยหลายคนใจร้อน และรักความยุติธรรม หัวหน้า คสช.เข้าใจ ก็กำลังจะดำเนินการให้อยู่อย่างดีที่สุด เราไม่สามารถแก้ปัญหาที่สะสมมาเป็นสิบสิบปี ได้ด้วยเวลาเพียงไม่กี่วัน เว้นแต่เรื่องที่ติดขัดนั้นไม่ขัดกฎหมาย ซึ่งเดิมถูกละเว้น ถูกบิดเบือน เราต้องทำให้กฎกติกาเหล่านั้นทำงาน และทำให้ทันสมัยขึ้น บรรดากลุ่มการเมือง พรรคการเมือง แกนนำ คู่ขัดแย้ง ที่กล่าวถึงในเรื่องเหล่านี้ ขอให้ระมัดระวัง การกล่าวถึง คสช.ในลักษณะที่ไม่ไว้วางใจ ไม่เชื่อมั่น เรากำลังทำงาน ที่ทุกท่านทำมาหลายสิบปีไม่สำเร็จ ให้เป็นรูปธรรมให้ได้โดยเร็ว ใครที่มีส่วนร่วมในการบริหารราชการในอดีต ถือว่าต้องรับผิดชอบทั้งสิ้น”