xs
xsm
sm
md
lg

จี้ คสช.ฟัน “สุวิจักษณ์” เซ่นปราบทุจริต ชี้ทำงานสนองการเมือง ส่อทุจริตหลายโครงการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รังสิมา รอดรัศมี (แฟ้มภาพ)
อดีต ส.ส. แม่กลอง เรียกร้อง คสช. เชือดไก่ให้ลิงดู เล่นงาน “สุวิจักษณ์” ถ้าต้องการปราบทุจริต คอร์รัปชันจริง ระบุส่อทุจริตใช้งบประมาณหลายโครงการ มีพฤติกรรมสนองการเมืองไม่กลัวถูกลงโทษ

น.ส.รังสิมา รอดรัศมี อดีต ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากข้าราชการดีๆ ในสภาผู้แทนราษฎร หลังจากที่ยุบสภาไปแล้วว่า กรรมาธิการทั้ง 35 คณะ มีงบประมาณเหลือจ่ายจากการศึกษาดูงานจากต่างประเทศ ประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่ง นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ใช้อำนาจโยกงบดังกล่าว และเปิดโครงการเสริมสร้างศักยภาพข้าราชการสำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยได้นำข้าราชการสภาฯและลูกจ้างพนักงานทั้งหมด 2,245 คน ไปดูงานในประเทศกลุ่มอาเซียน ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วรุ่นที่ 1 และ รุ่น 2 เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 57 ส่วนรุ่นที่ 3 และ 4 เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 57

น.ส.รังสิมา กล่าวว่า จนถึงขณะที่มีการยุบสภา และคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) เข้ามากุมอำนาจบริหาร แต่นายสุวิจักษณ์ได้อนุมัติให้ข้าราชการ 211 คนไปดูงาน ที่ประเทศอิโดนีเซีย โดยแบ่งเป็น 6 คณะ คือ คณะที่ 1 ระหว่างวันที่ 3-6 มิ.ย., คณะที่ 2 ระหว่างวันที่ 9-12 มิ.ย., คณะที่ 3 ระหว่างวันที่ 10-13 มิ.ย., คณะที่ 4 ระหว่างวันที่ 16-19 มิ.ย. คณะที่ 5 ระหว่างวันที่ 17-20 มิ.ย. และคณะที่ 6 ระหว่างวันที่ 23-26 มิ.ย. โดยอนุมัติงบเดินทางรวม 11,681,800 บาท และซอยเป็นงบประมาณคณะละ 1,940,000 บาท รวมระยะเวลาดูงานแต่ละชุด 4 วัน

“เป็นที่น่าสังเกตว่าหลังจากที่เริ่มมีข่าวปรากฏในสื่อ ในการดูงานรอบล่าสุดที่จะเดินทางไปอินโดนีเซีย ได้ไปดูงานแล้ว 2 ครั้ง แต่นายสุวิจักขณ์ ได้สั่งยกเลิกโครงการดังกล่าว คณะที่ 4-6 จึงเกิดคำถามว่า ทำไมในการอนุมุติงานจึงซอยงบประมาณอยู่ที่ 1.9 ล้านบาท โดยจำนวนเงินไม่ถึง 2 ล้านบาท ถือเป็นการเลี่ยงการจัดซื้อจัดจ้างไปใช้วิธีพิเศษใช่หรือไม่ เพราะไปอินโดนีเซีย 4 วัน ใช้เวลาเดินทาง 2 วัน ดูงานจริง 2 วัน เฉลี่ยหัวละ 4 หมื่นบาท ถือว่าแพงเกินจริงหรือไม่ และการศึกษาดูงาน ที่จริงแล้วคือไปเที่ยวหรือไม่ ทั้งนี้ หลังการยกเลิกโครงการ ได้มีการสั่งเก็บเอกสารรายละเอียดในโครงการทั้งหมด ซึ่งดิฉันในฐานะอดีตกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎร ได้จับตาการใช้จ่ายงบประมาณมาตลอด แต่ขณะนี้เมื่อไม่ได้เป็นกรรมาธิการแล้ว ก็ต้องขอให้ คสช. ติดตามเรื่องดังกล่าวด้วย”

น.ส.รังสิมา เรียกร้องให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการใช้งบประมาณในสภาฯ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากในยุคที่นายสุวิจักษณ์เข้ามาเป็นเลขาธิการสภาฯ มีข้าราชการสภาฯ เข้ามาร้องเรียนกรรมาธิการชุดต่างๆ ถึงการใช้งบประมาณที่มากกว่าปกติ บางรายการไม่สมควรใช้จ่าย ก็ยังใช้งบประมาณในลักษณะผลาญ หรือใช้ให้หมด เช่น การจัดซื้อชุดเก้าอี้รับแขก ราคาชุดละกว่าล้านบาทหลายชุด และซื้อนาฬิกาเทวดาติดผนัง เรือนละ 7 .5 หมื่นบาท รวม 200 เรือน งบประมาณทั้งสิ้น 15 ล้านบาท

ส่วนการปรับปรุงห้องนักข่าว 5 ล้านบาท สำหรับเครื่องทำน้ำดื่มราคา 7.5 หมื่นบาท จัดซื้อทั้งหมด 13 ล้านบาท และปรับปรุงห้องแลกบัตรบุคคลเข้า-ออกสภา ใช้งบประมาณ 4.8 ล้านบาท ขณะที่การจัดดอกไม้รับรองแขกในสภาครั้งละ 3 แสนบาท

ทั้งนี้ ยังไม่รวมงบสร้างอาคารโรงพักของตำรวจรัฐสภา และงบสร้างห้องยุทธศาสตร์หรือวอร์รูมสภา อีกร่วม 100 ล้านบาท หรืองบติดตั้งกล้องซีซีทีวีในห้องประชุมกรรมาธิการอีกกว่า 30 ล้านบาท ทั้งที่มีโครงการจะก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ สร้างมาไม่กี่ปีก็ต้องทุบทำลายทิ้ง จึงขอถามว่าการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อหวังกินเปอร์เซนต์หรือไม่อย่างไร และทำตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของสำนักนายกรัฐมนตรีหรือไม่

“คสช. ต้องดำเนินการเรื่องนี้ให้เด็ดขาด เพราะเลขาธิการสภาฯ คนนี้กล้าสนองการเมืองโดยไม่เกรงกลัวว่าจะถูกรับโทษหรือไม่ และยังกล้าทุจริตคอร์รัปชันอีก หาก คสช. ระบุว่า จะทำการปราบปรามการทุจริตจริง ก็จำเป็นต้องเชือดไก่ให้ลิงดู ฉะนั้นอย่าบอกว่านักการเมืองขี้โกง เพราะถ้าข้าราชการประจำไม่ชั่ว ไม่ชงงาน รับสนองงานตามคำสั่งให้ นักการเมืองโกง นักการเมืองก็โกงไม่ได้ แต่นี่มันสมรู้ร่วมคิดกันโกงงบแผ่นดิน อย่างน้อยที่สุดต้องย้ายเลขาสภาฯคนนี้ออกจากตำแหน่งไปก่อน เพราะไม่เช่นนั้นสภานิติบัญญัติจะเกิดปัญหาใหญ่แน่นอน พร้อมทำการสอบสวนและลงโทษตามวินัยข้าราชการด้วย หากมีการหมกเม็ด เพื่อให้เซ็นเอกสารบางอย่าง”

น.ส.รังสิมา กล่าวว่า เรื่องนี้ข้าราชการดีๆในสภาอึดอัดใจมาก เพราะไม่ทำก็โดนหัวหน้าฝ่าย หัวหน้ากองขู่ว่าจะถูกลงโทษ แต่ถ้าทำก็ติดคุก เพราะมีการโยกย้ายข้าราชการที่เป็นพวกพ้อง ให้ข้ามหัวระบบอาวุโส ขึ้นมาเป็น ผอ.กอง หรือ ผอ.สำนัก เล่นพรรคเล่นพวก เพื่อสนองงานการเมือง หาก คสช. จะปราบปรามการทุจริตจริง จะต้องล้างบางการทุจริตในสภาให้เสร็จก่อน เพระยังมีงบปี 57 อีกมาก เช่น งบการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ที่เกียกกาย อีกนับหมื่นล้าน และข้อมูลเหล่านี้ก็เคยมีการอภิปรายฯในสภาฯมาแล้ว แต่ฝ่ายการเมืองก็ปกป้อง จึงขอฝากให้ คสช. ดำเนินการเป็นการบ้านด่วน


กำลังโหลดความคิดเห็น