“ม.ล.ปนัดดา” กำชับส่วนราชการยึดธรรมาภิบาล ขอกลั่นกรองหนังสืองบประมาณก่อนถึงมือ “ประยุทธ์”

รองปลัด มท.ทำหน้าที่ปลัดสำนักนายกฯ เรียกหัวหน้าส่วนราชการประชุมซักซ้อมเสนอหนังสืองบประมาณของส่วนราชการทุกกระทรวง เผยขอทำหน้าที่กลั่นกรองเรื่องต่างๆ ก่อนส่งไปยังหัวหน้าคณะ คสช. ย้ำข้าราชการทุกส่วนยึดธรรมาภิบาล ความถูกต้อง ความสามัคคี

วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่ห้อง 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.00 น. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมซักซ้อมความเข้าใจในการเสนอหนังสืองบประมาณของส่วนราชการทุกกระทรวงต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

โดย ม.ล.ปนัดดากล่าวตอนหนึ่งว่า ระบบราชการไทยมีการปฏิรูปมาอย่างยาวนาน มีการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในหลายมิติ แต่เป็นในลักษณะต่างคนต่างคิดต่างทำ ขาดความเชื่อมโยง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) จึงให้ทุกส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสากิจ ดำเนินการ 8 มาตรการอย่างเคร่งครัด ดังนี้ 1. สร้างความเชื่อมั่นและยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางการบริการมีคุณภาพและสร้างวัฒนธรรมที่เป็นเลิศ 2. พัฒนาองค์กรให้มีสมรรถนะสูง ข้าราชการมีความเป็นมืออาชีพ มีโครงสร้างกะทัดรัด เรียบง่าย รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม 3. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารทรัพยากรของภาครัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุด 4. วางระบบการบริหารงานราชการแบบบูรณาการ พัฒนาประสานความร่วมมือระหว่างราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น

5. ส่งเสริมระบบการบริหารกิจการบ้านเมืองบนความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน 6. ยกระดับความโปร่งใสบนพื้นฐานระเบียบกฎหมายและยึดหลักธรรมาภิบาล 7. ขยายผลโครงการภายใต้ร่มพระบารมีและ 8. สร้างความพร้อมของระบบราชการไทย เพื่อเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน

ต่อมาเวลา 13.00 น. ม.ล.ปนัดดาเปิดเผยภายหลังการประชุมส่วนราชการว่า เป็นการประชุมเพื่อซักซ้อมให้การประสานงานของหน่วยราชการต่างๆ เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นในช่วงที่ยังไม่มีรัฐบาล โดยตนเองจะทำหน้าที่เปรียบเสมือนเป็นรัฐมนตรี ซึ่งจะกลั่นกรองเรื่องต่างๆ ก่อนที่จะส่งเรื่องไปยัง หัวหน้า คสช.ส่วนจะมีการเรียกประชุมเหมือนประชุมคณะรัฐมนตรีหรือไม่นั้นอาจจะพิจารณาอีกที

ม.ล.ปนัดดากล่าวอีกว่า ระหว่างนี้ทางสำนักนายกรัฐมนตรีจะดูงานทั้ง 3 ส่วน คือ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ซึ่งจะต้องคุยกันในเรื่องของการปฏิบัติราชการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด กลั่นกรองงานต่างๆ

ทั้งนี้ จากนี้ไปอยากให้ข้าราชการยึดหลักธรรมาภิบาลซึ่งจะทำได้มากหรือน้อย อยู่ที่ความสำนึกของแต่ละหน่วยงาน ที่ผ่านมาเราห่างเหินหลักธรรมาภิบาลไปมาก จึงอยากให้เป็นข้อเตือนใจว่าเราทำงานกับประชาชนต้องยึดหลักความถูกต้อง ความสามัคคี ไมมีพวก ไม่มีฝ่ายมีสีอีกต่อไป