“สุรชัย” อำลาหน้าที่รับเร็วไปนิด หาทางออกแต่ไม่ยอมกัน-เลขาฯ วุฒิสภาพร้อมฟัง คสช.

วุฒิสภาจัดเลี้ยงอำลา อดีตรอง ปธ.วุฒิฯ เจ้าตัวเผยอยู่ในความทรงจำ รับเร็วไปนิดหลังเพิ่งนั่ง ปธ.วุฒิฯ ลุยหาทางออกชาติ แจงมีข้อมูล 16 พ.ค.ที่ผ่านมามีแผนใช้อาวุธปะทะกัน ฝาก สนง.เลขาฯ วุฒิฯ สานต่อพัฒนา ใช้เทคโนโลยีแทนประชุมแบบเก่า พัฒนานัก กม. ยกคำวินิจฉัยกฤษฎีกา ชี้ฝ่ายบริหารจุ้นนิติบัญญัติไม่ได้ ไม่ช้า ปชต.คืนมา-เลขาฯ วุฒิฯ แจงทำงานค้างก่อน มีคำสั่ง คสช.พร้อมทำตาม

วันนี้ (28 พ.ค.) ที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้จัดงานเลี้ยงอำลาตำแหน่งให้กับนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อดีตรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ที่อาคารสุขประพฤติ ทั้งนี้ นายสุรชัยกล่าวกับข้าราชการวุฒิสภาภายในระหว่างงานว่า วันนี้จะเป็นวันหนึ่งที่จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป แต่มันมาเร็วไปนิดทั้งๆ ที่ได้พยายามอย่างสุดกำลังตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ได้รับเลือกจากที่ประชุมวุฒิสภาให้เป็นประธานวุฒิสภา นับจากนั้นมาก็ได้ทำงานอย่างที่แสดงวิสัยทัศน์เอาไว้ทันที คือ การหาทางออกให้ประเทศ แต่ที่สุดแล้วทุกฝ่ายไม่มีใครยอมกัน

นายสุรชัยกล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ทำงานทั้งในทางที่เปิดเผยและไม่ได้เปิดเผยเพื่อหาทางออกที่ทุกฝ่ายยอมรับกันได้เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะข้อมูลที่ได้มาเมื่อวันที่ 16 พ.ค.พบว่ามีการเคลื่อนย้ายกำลังของมวลชนพร้อมอาวุธที่พร้อมจะใช้ความรุนแรงต่อกัน

“ขอฝากให้ผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ช่วยกันสานต่องานในด้านการพัฒนา โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่จะเอามาทดแทนระบบการประชุมแบบเก่าๆ และการพัฒนานักกฎหมาย ผมเชื่อมั่นว่าวุฒิสภาจะทำเรื่องนี้ให้ประสบความสำเร็จได้” นายสุรชัยกล่าว

นายสุรชัยกล่าวทิ้งท้ายว่า คำวินิจฉัยของที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่าการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภานั้น ถือเป็นบรรทัดฐานว่าฝ่ายบริหารไม่สามารถก้าวก่ายกิจการภายในของฝ่ายนิติบัญญัติได้ ตรงนี้จะเป็นก้าวต่อไปของระบอบประชาธิปไตยในอนาคต

“ผมเชื่อมั่นว่าการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขจะกลับคืนมาในไม่ช้านี้ ท้ายที่สุดขอขอบคุณกำลังใจจากข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกคน” นายสุรชัยกล่าว

ขณะที่ นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ว่า ในระหว่างที่ยังไม่มีคำสั่งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะให้สำนักงานเลขาธิกาวุฒิสภารับผิดชอบงานอะไรเป็นพิเศษระหว่างสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หรือสภาปฎิรูปการเมือง ทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาก็คงต้องทำงานประจำในส่วนที่คั่งค้างไปก่อน เพื่อรับคำสั่งจากคสช.อีกครั้ง

นางนรรัตน์กล่าวว่า ทั้งนี้ไม่ว่า คสช.จะมอบหมายให้รับผิดชอบส่วนงานใดทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาพร้อมจะดำเนินการ เหมือนกับที่ปี 2549 ที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเข้ารับผิดชอบงานในส่วนของ สนช. โดยทั้งหมดต้องรอฟังความชัดเจนจาก คสช.และรัฐธรรมนูญชั่วคราวต่อไป