“สุรชัย” เอือมคนจ้องฟ้องฐานนำ ส.ว.ใหม่ กล่าวปฏิญาณตนนอกกรอบ พ.ร.ฎ. ลั่นพร้อมรับผิดเต็มที่ ยันทำเพื่อบ้านเมือง สมาชิกถกเดือดปมเลือก-ไม่เลือก ปธ.วุฒิฯ ก่อนเบรกพักกินข้าวเย็น
เมื่อเวลา 16.20 น. วันนี้ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 รักษาการประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุมได้แจ้งที่ประชุมรับทราบว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และคณะ ได้ยื่นหนังสือต่อตนและ ส.ว. ทุกคนให้รับทราบถึงสถานการณ์ของประเทศ และขอให้ ส.ว. ผู้ใช้อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติออกมาร่วมกับองค์กรต่างๆ แสวงหาทางออกกับประเทศ
ต่อมาที่ประชุมได้พิจารณาญัตติเรื่องเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเลือกประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา และแต่งตั้งคณะกรรมาธิการสามัญทั้ง 22 คณะ โดยนายสุรชัยได้เปิดโอกาสให้สมาชิกได้อภิปราย
นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.สรรหา ได้กล่าวว่า ขณะนี้มีบางกลุ่มกำลังเตรียมยื่นฟ้องประธานที่นำ ส.ว.ชุดใหม่ ปฏิญาณตน ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในพระราชกฤษฎีกา ถือว่าการปฏิญาณตนครั้งนั้นขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 132 ไม่ทราบว่าประธานทราบหรือยัง นายสุรชัย กล่าวว่า ก็เพราะอย่างนี้บ้านเมืองถึงได้วุ่นวาย ในเมื่อสมาชิกได้มีการกล่าวปฏิญาณตนแล้ว มีเหตุผลอะไรที่บอกว่าไม่มีสิทธิ์ทำหน้าที่ บางเรื่องในฐานะที่ตนรักษาการประธาน ตนต้องตัดสินใจบนพื้นฐานความมีวุฒิภาวะผู้นำ มิเช่นนั้นจะนำองค์กรไม่ได้ ตนพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อการตัดสินใจนำสมาชิกปฏิญาณตน และยื่นยันว่าตนทำเพื่อบ้านเมือง
ทั้งนี้ สมาชิกได้แสดงความเห็นหลากหลาย โดยมีทั้งเห็นควรให้เดินหน้าเลือกประธานวุฒิสภาและรองประธานไปเลยเพราะวุฒิสภามีสิทธิอำนาจหน้าที่ ไม่จำเป็นต้องยึดตามกรอบพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญที่รัฐบาลกำหนดไว้ อาทิ กลุ่ม 40 ส.ว. ได้สนับสนุนว่า สามารถดำเนินการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภาได้ เพราะถือเป็นกิจการภายในวุฒิสภา ไม่ได้มีผลเสียต่อประเทศ แต่ทำเพื่อให้แก้ปัญหาของประเทศได้ และไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 132
ส่วน นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา อภิปรายว่า จำเป็นต้องเลือกประธานวุฒิสภา และผู้ทำหน้าที่กรรมาธิการสามัญแต่ละคณะ ส่วนการออกพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมีความใจแคบและแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งนักกฎหมายระดับผู้ใหญ่ของประเทศหลายคนได้ยืนยันว่าสามารถเลือกประธานวุฒิสภาได้ อย่าไปกลัวคนขู่ เพราะคนที่เตรียมจะไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเป็นพวกมีอาชีพรับจ้างร้องเรียน
ขณะที่เสียงอีกฝ่ายกลับโต้แย้งว่าไม่สามารถทำนอกเหนือกรอบที่กำหนดให้ได้ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การตีความว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญได้ เช่น นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ส.ว.สรรหา อภิปรายไม่เห็นด้วยกับการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา เพราะไม่มีความจำเป็น และอาจขัดกับพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ รวมถึงจะขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 132 จึงกังวลว่าถ้ามีการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา จะมีผู้นำไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าเป็นการกระทำที่ขัดพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว
ระหว่างการประชุม นายสุเทพ และตัวแทนกลุ่ม ยังคงนั่งฟังอยู่ในห้องรับรองรัฐสภา ที่ชั้น 1 อาคารรัฐสภา 1 เพื่อรอฟังผลการเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ และได้เชิญ นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา เข้าหารือด้วย จนกระทั่ง เวลา 17.50 น. แกนนำ กปปส. ได้เดินออกจากรัฐสภา ไปรวมกับมวลชนที่อยู่ด้านนอก หลังจากเปิดโอกาสให้สมาชิกอภิปรายแสดงความเห็นมาจนกระทั่งเวลา 18.05 น. นายสุรชัย ได้สั่งพักการประชุม 30 นาที เพื่อให้สมาชิกได้รับประทานอาหาร