รายงานการเมือง
แม้จะรอดตัวไปได้อย่างหวุดหวิด สำหรับ พล.ต.ต.กริช กิติลือ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ หลังจากกองทัพภาคที่ 3 โดยพลโท ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 น้องชายพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หน.คสช. ขอให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ย้าย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่
เพราะเห็นว่าปฏิบัติหน้าที่ไม่เหมาะสม แต่คำสั่งก็มาโดนยกเลิกกะทันหันจาก พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ รักษาการ ผบช.ภ.5 แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าถัดจากนี้อีกไม่นานไม่รอด!
เช่นเดียวกับ วิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าฯเชียงใหม่ ที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ เจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ดันจากผู้ว่าฯนนทบุรี มาเป็นผู้ว่าฯเชียงใหม่ ก็คงหนาวๆ ร้อนๆ เหมือนกัน จะได้อยู่เชียงใหม่หรือจะย้ายไปไหน
เมื่อรัฐบาล คสช. เข้าบริหารประเทศเต็มตัว และหลังจาก คสช. คงเอาเวลาไปทำงานใหญ่ๆ อย่างการเตรียมตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาปฏิรูป เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การรับมือกับกลุ่มต้านรัฐประหาร ตั้งรัฐบาลเสร็จคงจะถึงเวลาจัดทัพข้าราชการระดับบิ๊กในทุกกระทรวง
หากลงไปเล่นในห้วงนี้คงไม่ดีแน่ เพราะจะทำให้สร้างศัตรูมากเกินความจำเป็น ก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมเร็วเกินไปเอาไว้ให้ฟอร์มรัฐบาลให้เสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วค่อยว่ากันไป
เว้นแต่บางรายไม่ไหวจริงๆ หากปล่อยไว้คงไม่เป็นผลดี เพราะหน้าที่การงานที่นั่งอยู่ อาจขัดขวางการทำงานของ คสช. หรือจะเป็น “ไส้ศึก” ให้กับฝ่ายทักษิณเพื่อคอยวางแผนทำลาย คสช. หรือทำตัวเกียร์ว่าง ดื้อแพ่ง คิดแข็งข้อ แบบนี้ เชื่อว่า คสช. คงไม่ปล่อยไว้
อาจมีการออกคำสั่งย้ายตามมาเป็นระลอก ผ่านคำสั่ง คสช. และคำสั่งภายในหน่วยงานนั้นๆ เอง
ตอนนี้ ที่เก็งกันไว้ก็มีเช่น “ธงทอง จันทรางศุ”ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มติ ครม. ก่อนหน้า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นตำแหน่งแค่วันเดียวเห็นชอบให้ไปเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม และโยก พลโท ภราดร พัฒนถาบุตร มาเป็นปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีแทน แต่ดูแล้วก็มีโอกาสที่ทั้ง ธงทอง และ พลโท ภราดร คงอาจได้เข้ากรุสำนักนายกรัฐมนตรี ในเร็ววันนี้
โดยเฉพาะรายของ ธงทอง ติดรายชื่อเป็นข้าราชการที่ถูก คสช. เรียกไปรายงานตัวด้วยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาพร้อมกับ คู่หู อำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นแค่ข้าราชการเพียงสองคนเท่านั้นในเวลานี้ ที่ถูก คสช. เรียกไปรายงานตัว ทั้งสองรายดูแล้วมีปัญหามากพอกัน เพราะทำงานรับใช้ระบอบทักษิณชนิดขายวิญญาณเลย
ขณะที่อีกหนึ่งตำแหน่งที่หลายคนจับตามองคือ “วิบูลย์ สงวนพงศ์”ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ทำงานเข้ากันดีแบบรัฐบาลเพื่อไทย เพราะเป็นคนซึ่งรัฐบาลนี้ตั้งขึ้นมาเอง
เนื่องจาก วิบูลย์ ก็คือ อดีต ผวจ.เชียงใหม่ ที่สนิทหมดกับคนในตระกูลชินวัตร-ดามาพงศ์ โดยยังเหลืออายุราชการถึงปี 58 อีกทั้งก็ทำงานเข้าขาอย่างมากกับ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีต รมว.มหาดไทย ที่ยังท้าทายอำนาจ คสช. อยู่ พวกสิงห์คลองหลอดเลยเชื่อว่า วิบูลย์ ก็ไม่น่ารอดเพียงแต่จะไปช่วงนี้เลยหรือช่วงตั้งรัฐบาลเสร็จเท่านั้น
คนที่น่าจะมาเสียบแทน เก็งกันไว้ว่า ให้จับตามอง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุลหรือ “คุณเหลน” รองปลัดกระทรวงมหาดไทย-อดีต ผวจ.เชียงใหม่ นั่นเองไม่ใช่ใครอื่นซึ่งเหมาะด้วยประการทั้งปวง เว้นแต่พลเอก ประยุทธ์ มีชื่ออื่น กระนั้น ม.ล.ปนัดดา ก็อาจได้ตำแหน่งใหญ่กับอธิบดีกรมใดกรมหนึ่ง
ในกระทรวงมหาดไทย รายชื่ออธิบดีหลายกรม ต้องมีการปรับเปลี่ยนแน่นอนเมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จ โดยเฉพาะกรมใหญ่ๆ อย่าง “กรมการปกครอง” ที่ ศิริพงษ์ ห่านตระกูล นั่งเป็นอธิบดีกรมการปกครอง หาก วิบูลย์ ไม่รอด ศิริพงษ์ ก็คงต้องกระเด็นตามไปด้วย เว้นแต่เคลียร์ใครบางคนในสาย คสช. ได้
เช่นเดียวกับ “พินิจ หาญพาณิชย์” อธิบดีกรมที่ดิน น้องเขย “อนันต์ อัศวโภคิน” บิ๊กบอสแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ซึ่งแนบแน่นกับ ทักษิณ ชินวัตร และเพื่อไทย ที่ถูก คสช. เรียกไปรายงานตัวล็อตเดียวกับ เศรษฐา ทวีสิน ป่านนี้คงรู้ชะตากรรมตัวเองแล้วว่า รอเก็บของได้เลยหลังมีรัฐบาล คสช. เกิดขึ้น
ส่วนกระทรวงอื่นๆ คงมีการปรับเปลี่ยนกันหลายส่วนแน่นอน แต่ประเมินแล้ว คสช. ก็คงไม่ถึงกับใช้วิธีล้างบาง แค่ปรับบางตำแหน่งให้เหมาะสม เพื่อจะไปทำใหญ่กันเลยทีเดียวในช่วงแต่งตั้งโยกย้ายปลายปี
ช่วงนี้หากใครเดินไปตามกระทรวง-กรม-สำนักงานอะไรต่างๆ แล้วเห็นบิ๊กข้าราชการบางคน เน้นใส่สีเขียว แสดงออกถึงความรักต่อทหาร พูดชมเชยทหารมาช่วยแก้วิกฤตชาติ แถมพูดจา โชว์วิสัยทัศน์ ต้องปฏิรูปประเทศต้องปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ตามนโยบาย คสช. เหมือนกินยาผิดซอง
เพราะก่อนหน้านี้เห็นแดงแจ๋ทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า วันนี้กลับมาเน้นเขียวสีกองทัพบก เขาเรียกว่า ทำตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง กะล่อนไปตามสถานการณ์ ไม่งั้นก็ตกกระป๋อง