“ชำนิ” พร้อมแกนนำ ปชป.เข้าพรรคเกาะติดสถานการณ์ แจงถูกคุมตัวแยก กปปส.-นปช. “เด็จพี่” อยู่ร่วมแดง พท.-ปชป.ร่วมกัน ก่อนปล่อยไร้ข้อแม้ ยัน ปชป.ต้องเดินต่อ ยังไม่เรียกประชุม “นิพิฏฐ์” ป้องอย่าโทษทหาร ชี้ต้องหยุดนองเลือด เหตุพรรคการเมืองทำทางตัน มีรุนแรง ซ่อนอาวุธ คาดอยู่อำนาจไม่นาน เว้นแต่ พท.ไม่ปลดแอก “แม้ว” ยกเผด็จการทหารไม่เลวร้ายเท่าทุนสามานย์
วันนี้ (23 พ.ค.) บรรยากาศที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค หนึ่งในแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ที่ถูกควบคุมตัวไปเมื่อวันที่ 22 พ.ค.และได้รับการปล่อยตัว ได้เดินทางมาติดตามสถานการณ์ที่พรรคประชาธิปัตย์พร้อมกับแกนนำและอดีต ส.ส.พรรคบางส่วน เช่น คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรค นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค นายเทพไท เสนพงศ์ รองเลขาธิการพรรค และนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรค
นายชำนิเปิดเผยว่า ตัวแทนของพรรคทั้ง 5 คนถูกควบคุมในฐานะผู้ไปเข้าร่วมประชุม แต่เมื่อสถานการณ์เรียบร้อยก็ได้รับการปล่อยตัวมา โดยไม่ได้มีการให้เซ็นชื่อหรือต้องรายงานตัวแต่อย่างใด ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นองค์กรที่ยังอยู่ตามรัฐธรรมนูญก็ยังทำหน้าที่ต่อไป แต่ขณะนี้ขอติดตามดูสถานการณ์ก่อน ยังไม่ได้มีการเรียกประชุมแต่อย่างใด เพราะมีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห้ามชุมนุมทางการเมือง
นายชำนิกล่าวอีกว่า ตอนที่ถูกควบคุมตัวนั้นในช่วงแรกทหารได้แยกกลุ่ม กปปส., นปช. และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย รวมไปกับกลุ่ม นปช.ด้วย ส่วนตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 5 คนอยู่รวมกับตัวแทนพรรคเพื่อไทยอีก 4 คน จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น.ได้ถูกย้ายไปควบคุมตัวที่ ร.1 รอ. จนกระทั่งเวลาประมาณ 24.00 น.ก็ได้รับการปล่อยตัวออกมาโดยทหารไม่ได้ชี้แจงใดๆ
ส่วนนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าขออย่าโทษทหารที่ออกมายึดอำนาจ และขอให้ความเป็นธรรมกับทหาร เพราะพรรคการเมืองเล่นบนกระดานแล้วทำให้บ้านเมืองไปถึงทางตัน เกิดปัญหาการใช้ความรุนแรง ซ่องสุมอาวุธส่อว่าจะมีการนองเลือด ทหารจึงจำเป็นต้องยุติการนองเลือด ความจริงทหารไม่ต้องออกมาทำก็ได้ และเมื่อมาถึงจุดนี้เพื่อให้บ้านเมืองได้หายใจ นำสู่ความสงบ ถ้าทุกฝ่ายให้ความร่วมมือกับทหารคาดว่าทหารจะอยู่ในอำนาจไม่นาน และร่างกติกากันใหม่ แต่ถ้าเราปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างที่ผ่านมา เชื่อว่าการรัฐประหารครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย และจะเกิดเร็วกว่าที่ผ่านมา ภายใน 3-4 ปี ขณะที่หลายคนมองว่าปัจจัยสำคัญอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่เราไม่ควรถือ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเกมส์ใหญ่ และหากพรรคเพื่อไทยปลดแอกจาก พ.ต.ท.ทักษิณได้ บ้านเมืองก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่ยอมปลดแอกจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ทหารจะอยู่นานอย่างแน่นอน
นายนิพิฏฐ์กล่าวต่อว่า การที่มีบางฝ่ายเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์แสดงท่าทีต่อต้านรัฐประหารนั้น อยากบอกว่าเผด็จการทหารไม่เลวร้ายเท่าเผด็จการทุนสามานย์ จึงขอให้ทุกฝ่ายให้โอกาสทหารได้กวาดล้างบ้านเมือง ถ้าไม่ดีขึ้นแล้วค่อยมาว่ากัน