ปชป.ให้กำลังใจวุฒิสภาหาทางออกให้ประเทศ แนะหลัก 3 ประการ ยืนอยู่บนหลัก กล้าหาญ อดทน อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ และคำนึงถึงเสียงส่วนใหญ่ ขณะที่กลุ่มวุฒิฯ เดินหน้าฟังความเห็น ซัดรัฐบาลใช้ 5 ยุทธศาสตร์รักษาอำนาจตัวเอง เรียกร้อง “นิวัฒน์ธำรง” เสียสละถกร่วมวุฒิสภา หาทางออกให้ประเทศ
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอให้กำลังใจ ส.ว.ที่พยายามช่วยหาทางออกให้แก่ประเทศ แต่การดำเนินการของ ส.ว.ต้องยืนอยู่บนหลัก 3 ประการ คือ 1.ต้องกล้าหาญ อดทน โดยต้องคำนึงถึงรัฐธรรมนูญมาตรา 122 ที่บัญญัติว่า ส.ว.เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่อยู่ในอาณัติของใคร 2.การหาทางออกต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ 3.ต้องคำนึงถึงเสียงข้างมากที่กลุ่ม ส.ว.เดินสายรับฟังความเห็นจากคณะบุคคลและองค์กรต่างๆ โดยนำผลการหารือมาสรุป ยึดประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นหลัก
แต่สถานการณ์ขณะนี้รัฐบาลยังไม่คำนึงถึงการเดินหน้าหาทางออก กลับใช้ยุทธศาสตร์เพื่อรักษาอำนาจตัวเองไว้ใน 5 ประการ คือ1.เดินหน้าเลือกตั้งก่อนการปฏิรูป 2.ใช้มวลชนคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวกดดันฝ่ายตรงข้ามทุกรูปแบบ 3.ใช้มวลชนสนับสนุนรัฐบาลสายฮาร์ดคอร์ออกมาคุกคามประกาศว่าจะใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น 4. ใช้กลไกของรัฐจัดการข้าราชการระดับกลาง ที่ไม่ยอมสยบให้แก่อำนาจรัฐ และ 5.ใช้ข้าราชการระดับสูงที่ได้ดีจากระบอบทักษิณ ไล่บี้นักธุรกิจเอกชนที่สนับสนุนฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล แต่ยุทธศาสตร์นี้คงไม่สามารถยับยั้งการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองได้
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า แม้แนวทางของวุฒิสภาที่แถลงการณ์ทางออกของประเทศ 3 ข้อจะไม่เป็นที่ถูกใจของทุกฝ่าย และมวลมหาประชาชน เพราะ ส.ว.ไม่สามารถดำเนินการให้สุดซอย โดยไม่สามารถเสนอนายกฯ คนใหม่ หรือทูลเกล้าฯ ชื่อนายกฯ คนใหม่ได้ แต่พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้กำลังใจกลุ่ม ส.ว. เพราะเป็นการทำงานบนพื้นที่ฐานที่เห็นตรงกันว่าเราจำเป็นต้องปฏิรูป ต้องมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มเข้ามาบริหารประเทศ แต่การปฏิรูปประเทศไม่สามารถเดินหน้าได้ มีเพียงสาเหตุเดียวคือ รัฐบาลรักษาการ
โดยนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ไม่ยอมเข้าหารือกับวุฒิสภา โดยอ้างว่าติดภารกิจดูแลปัญหาแผ่นดินไหวทางภาคเหนือ ทั้งที่ปัญหาเกิดมาเป็นสัปดาห์แล้ว แต่นายนิวัฒน์ธำรง ไม่เคยสนใจ พอวันนี้ในเมืองหลวงมีเรื่องสำคัญต้องตัดสินใจ กลับเอาปัญหาของประชาชนมาอ้าง จึงขอเรียกร้องให้นายนิวัฒน์ธำรง เสียสละเข้าหารือกับวุฒิสภาโดยไม่ต้องรอให้ถึงวันที่ 19 พ.ค.เพราะการเสนอชื่อนายกฯ ไม่ได้เสนอตามมาตรา 7 แต่ทำตามรัฐธรรมนูญมาตรา 180 ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้ เมื่อนายนิวัฒน์ธำรงให้ความร่วมมือ ถ้าได้รัฐบาลใหม่ก็จะแก้ปัญหาประชาชนได้ทุกเรื่อง
