“สุเทพ” เปิดแผนสุดท้ายยึดคืนอำนาจให้ประชาชน เสนอที่ประชุม กปปส. ทั่วประเทศเห็นชอบ เริ่มปฏิบัติการพรุ่งนี้ เชิญอดีตปลัดกระทรวง-ผู้ว่าฯ หารือแบ่งงาน ปลุกข้าราชการแข็งข้อระบอบทักษิณ ยื่นคำขาด 24 รมต. รักษาการยื่นใบลาออกต่อประชาชน ขีดเส้นรู้แพ้-ชนะภายใน 26 พ.ค. หากแพ้พร้อมมอบตัววันรุ่งขึ้น
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (17 พ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้เรียกประชุมแกนนำ กปปส. ต่างจังหวัดพร้อมด้วยเครือยข่ายแนวร่วม กปปส. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือถึงทิศทางการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในการขับไล่รัฐบาล โดย นายสุเทพ กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ประเทศไทยไม่มีนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี (ครม.) และที่เหลืออยู่ก็ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้ ที่พูดไม่ใช่ฝ่าย กปปส. พูดเอง แต่สมาชิกวุฒิสภาเป็นคนนำความเรื่องนี้รายงานต่อที่ประชุมในการประชุมคณะกฤษฎีกา และมีผลสรุปว่า ครม. ที่เหลืออยู่ไม่มีอำนาจทำงานได้
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า การแถลงของนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่ประธานวุฒิสภาเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา ก็ยืนยันชัดเจนว่าสมาชิกวุฒิสภามีอำนาจและหน้าที่เลือกนายกฯ คนใหม่ ซึ่งรายละเอียดเรื่องดังกล่าว การที่วุฒิสภาจะเลือกนายกฯ คนใหม่ได้ เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 132, 172, 173, 180 และมาตรา 7 ความในข้อนี้วุฒิสภาประกาศเองหลังปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ประการสอง วุฒิสภามีความเห็นเหมือนกันกับ กปปส. ที่ต้องการปฏิรูปประเทศทันที ประการสาม วุฒิสภาเห็นว่านายกฯ ที่ ส.ว. เลือกไม่ใช่นายกฯชั่วคราวหรือนายกฯ รักษาการชั่วระยะเวลาสั้นๆ แต่เป็นนายกฯ ที่มีอำนาจเต็มจริงๆ เพื่อแก้ปัญหาประเทศ ประชาชน และปฏิรูปประเทศ สาระสำคัญ 3 ข้อนี้ ไม่ต้องถกเถียง เห็นเหมือนกันโดยไม่มีข้อโต้แย้ง แต่ประเด็นปัญหา คือ บ้านเมืองไม่มีนายกฯ และรัฐบาล นานไปยิ่งเสียหายต่อประเทศเท่านั้น ดังนั้น ต้องดำเนินการให้มีนายกฯ โดยเร็ว จึงเกิดคำถามว่าโดยเร็วเมื่อไหร่ และทำอย่างไร
“น่าเสียดายคำแถลงของ ส.ว. ไม่สามารถกำหนดชี้ชัดได้ว่ากี่วัน เมื่อไหร่ การเปิดกว้างจึงไม่สามารถตอบคำถามประชาชนทั้งประเทศได้ ดังนั้น มวลมหาประชาชนได้ลุกขึ้นต่อสู้ เพื่อที่จะกวาดล้างระบอบทักษิณ จัดให้มีรัฐบาลประชาชน ปฏิรูปประเทศ เราได้ต่อสู้มายาวนานมาก มากที่สุดในการต่อสู้ของประชาชนในประเทศนี้” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีข้อกำหนดให้ชัดว่า จะทำให้สำเร็จเสร็จสิ้นได้เมื่อไหร่ วันนี้ (17พ.ค.) จึงมีความจำเป็นต้องหารือกับบรรดาแกนนำทุกเครือข่ายที่ร่วมกันต่อสู้กัน เพราะเป็นประเด็นสำคัญ ถ้ากำหนดเวลาของการต่อสู้จบเมื่อไหร่ ประชาชนทั้งประเทศจะได้กำหนดและตัดสินใจได้ในการร่วมต่อสู้ถึงวันที่เท่าไหร่
นายสุเทพ กล่าวว่า จากการประชุมแกนนำได้กำหนดเวลาต่อสู้คร่าวๆ รวมถึงวิธีปฏิบัติการต่อสู้ครั้งสุดท้าย เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมได้พิจารณาร่วมกัน ประการแรก จะเริ่มปฏิบัติแต่วันพรุ่งนี้ (18 พ.ค.) แล้วกำหนดวันสุดท้ายการปฏิบัติต้องจบในวันที่ 26 พ.ค. โดยวันพรุ่งนี้จะเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่เวลา 10.00 น. ซึ่งจะเชิญคณะกรรมการของสมาพันธ์รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ทุกเครือข่ายมาร่วมประชุมที่ทำเนียบในเวลาดังกล่าว เพื่อตกลงมอบหมายแบ่งภารกิจกันว่าแต่ละ สรส. ต้องทำอะไรร่วมกัน และต้องแยกปฏิบัติตามเหมาะสมของ สรส. เมื่อได้ข้อสรุป ในวันที่ 19 พ.ค. จึงเริ่มลงมือ
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า วันเดียวกันเวลา 14.00 น. จะเชิญอดีตข้าราชการผู้ใหญ่ อาทิ ปลัด รองปลัดกระทรวง ที่เกษียณอายุมาประชุมร่วมกัน รวมถึงอดีตผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัด เพื่อร่วมกันกำหนดแผนปฏิบัติของส่วนราชการ โดยจะได้ปรึกษาหารือกับข้าราชการ หากเห็นด้วยจะได้แบ่งงานไปปฏิบัติ และแบ่งงานกันทำวันที่ 19 พ.ค. นี้
ส่วนมวลมหาประชาชนจะแยกย้ายทวงคืนอำนาจอธิปไตยจาก ครม. เพื่อให้ ครม. ส่งใบลาออกมา หากอยู่กระทรวงหรือบ้านอยู่ไหนก็จะตาม หรือตามท้องถนนหรือสนามบิน เพื่อเรียกร้องส่งมอบอำนาจคืนกับประชาชนโดยดี เพราะขวางทางเจริญของประเทศ และอาจจะต้องตามหากัน 3 วัน ตั้งแต่ จันทร์ อังคาร พุธ
“หากประชาชนรู้เบาะแส 24 คนอยู่ที่ไหน ขอให้แจ้งมาที่ กปปส. เพื่อจะได้ตามทวงคืนอำนาจ ใครเป็นเพื่อนบ้าน หรืออยู่คอนโดเดียวกัน หากรู้มาหลบอยู่ เช่น เซฟเฮาส์ ของนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล หรือนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ขอให้แจ้งมา” นายสุเทพ กล่าว
สำหรับข้าราชการในวันที่ 19 พ.ค. ขอให้ กปปส. ซึ่งอยู่ตามกระทรวง ทบวง กรม ลุกขึ้นปฏิเสธคำสั่ง ครม. ซึ่งไม่มีอำนาจ เพราะสั่งไปอาจทำให้เกิดปัญหาข้อกฎหมาย และต้องขอให้แต่ละกระทรวงทำชัดเจน เปิดเผย เหมือนข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข
นอกจากนี้ วันที่ 22 พ.ค. จะจัดประชุมหัวหน้าส่วนราชการ อาทิ ปลัด อธิบดี อัยการสูงสุด รวมถึงผู้ว่าฯ หากไม่มาหรือมาไม่ได้ ก็ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุม เพื่อช่วยกันล้างอิทธิพลระบอบทักษิณในกระทรวง ทบวง กรม ให้หมดสิ้น เพราะบางกระทรวง เช่น มหาดไทย ลงลึกมาก
นายสุเทพ กล่าวว่า อย่างไรก็ดี ในวันที่ 23-25 พ.ค. จะเป็นการลุกฮือครั้งใหญ่ของประชาชนทั้งประเทศ และจะจบวันที่ 26 พ.ค. แพ้ชนะรู้กันวันนั้น ถ้าไม่ชนะในวันที่ 27 พ.ค. จะเข้ามอบตัว สลายการต่อสู้ เพราะสู้มากกว่านี้ไม่ไหว เนื่องจากเสียหายต่อประเทศ อีกทั้ง ประชาชนต้องกลับไปหากิน แพ้ชนะต้องทำใจ เพราะทำถึงที่สุด
“ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ถึงวันที่ 26 พ.ค. จะทุ่มเทกำลังทั้งหมด ทำภารกิจอย่างเต็มที่ เพราะหนังเรื่องนี้ฉายนานแล้ว จะจบแบบแฮปปี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับประชาชน” เลขาธิการ กปปส. กล่าว