ป.ป.ช. เล็งชี้มูลคดีอาญาอดีตนายกฯ ปมจำนำข้าวอีก 2 เดือน จ่อชี้มูล “บุญทรง” ปมจีทูจีเก๊ภายใน 4 เดือน ขณะเดียวกัน เตรียมสรุปสำนวนไต่สวนปมระบายข้าวสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ภายใน 1 เดือน และเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาปมสร้างโรงพักทดแทน-แฟลตตำรวจร่วมกับ “สุเทพ” ขณะที่สำนวนคดีสลายการชุมนุมปี 53 เตรียมสรุปสำนวน มิ.ย. นี้ ด้านคดีสลายการชุมนุมพันธมิตรฯปี 51 เตรียมยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาฯ เอง
วันนี้ (15 พ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวนคดีอาญา กรณีกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ละเลยเพิกเฉยไม่ระงับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว แถลงถึงความคืบหน้าในการไต่สวนกรณีดังกล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ไต่สวนเพิ่มเติมคดีอาญาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งขณะนี้อนุกรรมการไต่สวนกำลังเตรียมพิจารณาในสัปดาห์หน้าว่าจะอนุญาตให้มีการสอบพยานบุคคลจำนวน 6 ปาก ที่มีการร้องขอมาเพิ่มเติมหรือไม่ ทั้งนี้ คาดว่าคดีดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายใน 2 เดือนนี้
ด้าน นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า สำหรับการไต่สวนในคดีอาญากรณีละเลยเพิกเฉยไม่ระงับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด ป.ป.ช. จึงไม่ชี้มูลพร้อมกับสำนวนถอดถอนนั้น อยากชี้แจงว่า การถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ป.ป.ช. เองมีหน้าที่วินิจฉัยว่ามีเหตุอันควรว่าจะนำ น.ส.ยิ่งลักษณ์ สู่กระบวนการถอดถอนในชั้นวุฒิสภาได้หรือไม่ แต่คดีอาญานั้นมีเกณฑ์มาตรฐานเรื่องพยานหลักฐานที่แตกต่างกัน มีรายละเอียดมากกว่า ยืนยันว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังเร่งดำเนินการอยู่ เรื่องดึงเวลาไม่มีแน่นอน
นายวิชา ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนกรณีทุจริตการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กล่าวถึงความคืบหน้าคืบหน้าการไต่สวน ว่า สำหรับการไต่สวน นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ สมัยดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล สมัยดำรงตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ และบริษัทเอกชน ทุจริตการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีนั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 - 4 เดือน เนื่องจากมีผู้ถูกกล่าวหาบางส่วนอยู่ต่างประเทศ อาทิ บริษัทรัฐวิสาหกิจของประเทศจีน ซึ่งไม่สามารถเดินทางมาแก้ข้อกล่าวหาได้
ขณะเดียวกัน ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนโครงการประกันราคาข้าวสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายวิชา ได้กล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนว่า สำหรับคดีของนายอภิสิทธิ์มีการร้องมายังป.ป.ช. 2 เรื่อง คือ 1. คดีระบายข้าว ที่มีการกล่าวหานายอภิสิทธิ์ สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และ นางพรทิวา นาคาศัย สมัยดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนการไต่สวนได้ภายใน 1 เดือน และ 2. กรณีที่มีการร้องเรียนโครงการประกันราคาข้าว และกล่าวหานายอภิสิทธิ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการกระบวนการไต่สวนอย่างเร่งด่วน คาดว่า จะเสร็จสิ้นได้ภายในปีนี้แน่นอน เพราะมีแนวทางไต่สวนเช่นเดียวกับคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ส่วนความคืบหน้าในการไต่สวนกรณีสำนวนกรณีถอดถอน 308 ส.ส. และ ส.ว. ที่ร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. มิชอบ ว่า ขณะนี้ได้มีการเรียกอดีต ส.ส. มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา และได้มีการสอบพยานที่มีการอ้างอิงมาทุกวัน ไม่มีวันหยุด คาดว่าจะเสร็จสิ้นและส่งให้วุฒิสภาพิจารณาลงมติถอดถอนได้ภายในเดือน มิ.ย. 57 นี้ ส่วนกรณีทุจริตโครงการจัดสร้างแฟลตตำรวจและโรงพักทดแทน 396 แห่ง มีการกล่าวหานายอภิสิทธิ์ สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ สมัยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดย ป.ป.ช. มีการไต่สวนทุกวัน โดยได้สอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องในกรณีสร้างแฟลตตำรวจจำนวน 9 ปาก ส่วนกรณีสร้างโรงพักทดแทน ได้มีการสอบพยานบุคคลไปแล้วจำนวน 27 ปาก ซึ่งอนุกรรมการไต่สวนจะลงไปตรวจสอบโรงพักในพื้นที่ต่างๆ คาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นานน่าจะแจ้งข้อกล่าวหาได้
นอกจากนี้ ในการไต่สวนกรณีสลายการชุมนุมทางการเมืองเดือน เม.ย. - พ.ค. ปี 53 นายวิชา กล่าวว่า ได้มีการกล่าวหา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ สมัยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ซึ่งทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ได้มีการชี้มูล เนื่องจากต้องรอคดีที่มีการไต่สวนชันสูตรพลิกศพในชั้นศาล ขณะนี้อนุกรรมการไต่สวนได้มาในบางคดีแล้ว โดยกำลังเร่งให้สรุปสำนวนเพื่อรายงานต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเดือน มิ.ย. 57 นี้
ส่วนความคืบหน้ากรณีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ปี 51 นั้น หลังจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมัยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว สมัยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และได้ส่งสำนวนไปให้อัยการสั่งฟ้อง แต่ปรากฏว่าอัยการมีความเห็นไม่สั่งฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าพยานหลักฐานไม่สมบูรณ์ ซึ่งทางคณะกรรมการป.ป.ช. เห็นสมควรให้ฟ้องเอง ขณะนี้ทางทนายความได้ส่งสำนวนคำฟ้องมาให้ นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสำนวนอยู่ ดังนั้น ที่มีการกล่าวหาว่ามีการทิ้งให้อายุความขาดนั้น ไม่ต้องห่วง เพราะมีอายุความถึง 20 ปี คดีจะขาดอายุความได้ในปี 2571