เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวนคดีอาญา กรณีกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ละเลยเพิกเฉย ไม่ระงับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว แถลงถึงความคืบหน้าในการไต่สวนกรณีดังกล่าวว่า คณะกรรมการป.ป.ช. มีมติให้ไต่สวนเพิ่มเติมคดีอาญาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งขณะนี้อนุกรรมการไต่สวนกำลังเตรียมพิจารณาในสัปดาห์หน้า ว่าจะอนุญาตให้มีการสอบพยานบุคคลจำนวน 6 ปากที่มีการร้องขอมาเพิ่มเติมหรือไม่ ทั้งนี้ คาดว่าคดีดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายใน 2 เดือนนี้
ด้านนายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป.ป.ช.กล่าวว่า สำหรับการไต่สวนในคดีอาญา กรณีละเลยเพิกเฉยไม่ระงับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดป.ป.ช.จึงไม่ชี้มูลพร้อมกับสำนวนถอดถอนนั้น อยากชี้แจงว่า การถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ป.ป.ช.เองมีหน้าที่วินิจฉัยว่ามีเหตุอันควรว่า จะนำน.ส.ยิ่งลักษณ์ สู่กระบวนการถอดถอนในชั้นวุฒิสภาได้หรือไม่ แต่คดีอาญานั้นมีเกณฑ์มาตรฐาน เรื่องพยานหลักฐานที่แตกต่างกัน มีรายละเอียดมากกว่า ยืนยันว่า เราไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังเร่งดำเนินการอยู่ เรื่องดึงเวลาไม่มีแน่นอน
**ชี้มูล "บุญทรง"ปมจีทูจีเก๊ใน 4 เดือน
นายวิชา ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวน กรณีทุจริตการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ และ บริษัทเอกชน ที่ถูกกล่าวหา ทุจริตการซื้อขายข้าวแบบจีทูจี ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา คาดจะใช้เวลาประมาณ 3 - 4 เดือน เนื่องจากมีผู้ถูกกล่าวหาบางส่วนอยู่ต่างประเทศ อาทิ บริษัทรัฐวิสาหกิจของประเทศจีน ซึ่งไม่สามารถเดินทางมาแก้ข้อกล่าวหาได้
**สรุปปมระบายข้าวยุค“มาร์ค”ใน 1 เดือน
นอกจากนี้ นายวิชา ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนโครงการประกันราคาข้าวสมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการไต่สวนว่า สำหรับคดีของนายอภิสิทธิ์ มีการร้องมายัง ป.ป.ช. 2 เรื่องคือ 1. คดีระบายข้าว ที่มีการกล่าวหานายอภิสิทธิ์ สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และนางพรทิวา นาคาศัย สมัยดำรงตำแหน่งรมว.พาณิชย์ คาดว่า จะสามารถสามารถสรุปสำนวนการไต่สวนได้ภายใน 1 เดือน และ 2 .กรณีที่มีการร้องเรียนโครงการประกันราคาข้าว และกล่าวหานายอภิสิทธิ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการกระบวนการไต่สวนอย่างเร่งด่วน คาดว่าจะเสร็จสิ้นได้ภายในปีนี้แน่นอน เพราะมีแนวทางไต่สวนเช่นเดียวกับคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
**ฟันอดีตส.ส.ปมแก้รธน.เดือนมิ.ย.นี้
นายวิชา มหาคุณ ในฐานะกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวนกรณีถอดถอน 308 ส.ส.และ ส.ว.ที่ร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.มิชอบ กล่าวถึงความคืบหน้าในการไต่สวนว่า ขณะนี้ได้มีการเรียกอดีตส.ส.มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา และได้มีการสอบพยานที่มีการอ้างอิงมาทุกวัน ไม่มีวันหยุด คาดว่าจะเสร็จสิ้นและส่งให้วุฒิสภาพิจารณาลงมติถอดถอนได้ภายในเดือนมิ.ย.57 นี้
นายวิชา ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนกรณีทุจริตโครงการจัดสร้างแฟลตตำรวจและโรงพักทดแทน 396 แห่ง กล่าวถึงความคืบหน้าในการไต่สวนว่า สำหรับกรณีทุจริตโครงการจัดสร้างแฟลตตำรวจและโรงพักทดแทน 396 แห่ง มีการกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ สมัยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยป.ป.ช.มีการไต่สวนทุกวัน โดยได้สอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องในกรณีสร้างแฟลตตำรวจจำนวน 9 ปาก ส่วนกรณีสร้างโรงพักทดแทน ได้มีการสอบพยานบุคคลไปแล้วจำนวน 27 ปาก ซึ่งอนุกรรมการไต่สวนจะลงไปตรวจสอบโรงพักในพื้นที่ต่างๆ คาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นานน่าจะแจ้งข้อกล่าวหาได้
**สรุปคดีสลายการชุมนุมปี 53 มิ.ย.นี้
นายวิชา ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวน กรณีสลายการชุมนุมทางการเมืองเดือนเม.ย.-พ.ค.ปี 53 ว่า กรณีดังกล่าวได้มีการกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชีชาวะ สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ สมัยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ซึ่งทางคณะกรรมการป.ป.ช.ยังไม่ได้มีการชี้มูล เนื่องจากต้องรอคดีที่มีการไต่สวนชันสูตรพลิกศพในชั้นศาล ขณะนี้อนุกรรมการไต่สวนได้มาในบางคดีแล้ว โดยกำลังเร่งให้สรุปสำนวนเพื่อรายงานต่อคณะกรรมการป.ป.ช.ภายในเดือนมิ.ย.57 นี้
ส่วนความคืบหน้ากรณีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ปี 51นั้น หลังจากคณะกรรมการป.ป.ช.มีมติชี้มูลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมัยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว สมัยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และได้ส่งสำนวนไปให้อัยการสั่งฟ้อง แต่ปรากฎว่าอัยการมีความเห็นไม่สั่งฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าพยานหลักฐานไม่สมบูรณ์ ซึ่งทางคณะกรรมการป.ป.ช.เห็นสมควรให้ฟ้องเอง ขณะนี้ทางทนายความได้ส่งสำนวนคำฟ้องมาให้นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป.ป.ช.ตรวจสำนวนอยู่ ดังนั้น ที่มีการกล่าวหาว่ามีการทิ้งให้อายุความขาดนั้น ไม่ต้องห่วง เพราะมีอายุความถึง 20 ปี คดีจะขาดอายุความได้ในปี 2571
ด้านนายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป.ป.ช.กล่าวว่า สำหรับการไต่สวนในคดีอาญา กรณีละเลยเพิกเฉยไม่ระงับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดป.ป.ช.จึงไม่ชี้มูลพร้อมกับสำนวนถอดถอนนั้น อยากชี้แจงว่า การถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ป.ป.ช.เองมีหน้าที่วินิจฉัยว่ามีเหตุอันควรว่า จะนำน.ส.ยิ่งลักษณ์ สู่กระบวนการถอดถอนในชั้นวุฒิสภาได้หรือไม่ แต่คดีอาญานั้นมีเกณฑ์มาตรฐาน เรื่องพยานหลักฐานที่แตกต่างกัน มีรายละเอียดมากกว่า ยืนยันว่า เราไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังเร่งดำเนินการอยู่ เรื่องดึงเวลาไม่มีแน่นอน
**ชี้มูล "บุญทรง"ปมจีทูจีเก๊ใน 4 เดือน
นายวิชา ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวน กรณีทุจริตการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ และ บริษัทเอกชน ที่ถูกกล่าวหา ทุจริตการซื้อขายข้าวแบบจีทูจี ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา คาดจะใช้เวลาประมาณ 3 - 4 เดือน เนื่องจากมีผู้ถูกกล่าวหาบางส่วนอยู่ต่างประเทศ อาทิ บริษัทรัฐวิสาหกิจของประเทศจีน ซึ่งไม่สามารถเดินทางมาแก้ข้อกล่าวหาได้
**สรุปปมระบายข้าวยุค“มาร์ค”ใน 1 เดือน
นอกจากนี้ นายวิชา ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนโครงการประกันราคาข้าวสมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการไต่สวนว่า สำหรับคดีของนายอภิสิทธิ์ มีการร้องมายัง ป.ป.ช. 2 เรื่องคือ 1. คดีระบายข้าว ที่มีการกล่าวหานายอภิสิทธิ์ สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และนางพรทิวา นาคาศัย สมัยดำรงตำแหน่งรมว.พาณิชย์ คาดว่า จะสามารถสามารถสรุปสำนวนการไต่สวนได้ภายใน 1 เดือน และ 2 .กรณีที่มีการร้องเรียนโครงการประกันราคาข้าว และกล่าวหานายอภิสิทธิ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการกระบวนการไต่สวนอย่างเร่งด่วน คาดว่าจะเสร็จสิ้นได้ภายในปีนี้แน่นอน เพราะมีแนวทางไต่สวนเช่นเดียวกับคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
**ฟันอดีตส.ส.ปมแก้รธน.เดือนมิ.ย.นี้
นายวิชา มหาคุณ ในฐานะกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวนกรณีถอดถอน 308 ส.ส.และ ส.ว.ที่ร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.มิชอบ กล่าวถึงความคืบหน้าในการไต่สวนว่า ขณะนี้ได้มีการเรียกอดีตส.ส.มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา และได้มีการสอบพยานที่มีการอ้างอิงมาทุกวัน ไม่มีวันหยุด คาดว่าจะเสร็จสิ้นและส่งให้วุฒิสภาพิจารณาลงมติถอดถอนได้ภายในเดือนมิ.ย.57 นี้
นายวิชา ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนกรณีทุจริตโครงการจัดสร้างแฟลตตำรวจและโรงพักทดแทน 396 แห่ง กล่าวถึงความคืบหน้าในการไต่สวนว่า สำหรับกรณีทุจริตโครงการจัดสร้างแฟลตตำรวจและโรงพักทดแทน 396 แห่ง มีการกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ สมัยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยป.ป.ช.มีการไต่สวนทุกวัน โดยได้สอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องในกรณีสร้างแฟลตตำรวจจำนวน 9 ปาก ส่วนกรณีสร้างโรงพักทดแทน ได้มีการสอบพยานบุคคลไปแล้วจำนวน 27 ปาก ซึ่งอนุกรรมการไต่สวนจะลงไปตรวจสอบโรงพักในพื้นที่ต่างๆ คาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นานน่าจะแจ้งข้อกล่าวหาได้
**สรุปคดีสลายการชุมนุมปี 53 มิ.ย.นี้
นายวิชา ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวน กรณีสลายการชุมนุมทางการเมืองเดือนเม.ย.-พ.ค.ปี 53 ว่า กรณีดังกล่าวได้มีการกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชีชาวะ สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ สมัยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ซึ่งทางคณะกรรมการป.ป.ช.ยังไม่ได้มีการชี้มูล เนื่องจากต้องรอคดีที่มีการไต่สวนชันสูตรพลิกศพในชั้นศาล ขณะนี้อนุกรรมการไต่สวนได้มาในบางคดีแล้ว โดยกำลังเร่งให้สรุปสำนวนเพื่อรายงานต่อคณะกรรมการป.ป.ช.ภายในเดือนมิ.ย.57 นี้
ส่วนความคืบหน้ากรณีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ปี 51นั้น หลังจากคณะกรรมการป.ป.ช.มีมติชี้มูลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมัยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว สมัยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และได้ส่งสำนวนไปให้อัยการสั่งฟ้อง แต่ปรากฎว่าอัยการมีความเห็นไม่สั่งฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าพยานหลักฐานไม่สมบูรณ์ ซึ่งทางคณะกรรมการป.ป.ช.เห็นสมควรให้ฟ้องเอง ขณะนี้ทางทนายความได้ส่งสำนวนคำฟ้องมาให้นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป.ป.ช.ตรวจสำนวนอยู่ ดังนั้น ที่มีการกล่าวหาว่ามีการทิ้งให้อายุความขาดนั้น ไม่ต้องห่วง เพราะมีอายุความถึง 20 ปี คดีจะขาดอายุความได้ในปี 2571