รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เผย “นิวัฒน์ธำรง” ไม่มาร่วมหารือ ส่วน “อภิสิทธิ์” ยินดีหารือ 6 โมงเย็น ยันยังไม่ได้เสนอแนวทาง วอนอย่าบิดเบือน ส.ว.เลือกข้าง พ้อพรรคการเมืองบางพรรค แถมพรรคการเมืองบางพรรคจับข้อหากบฎทั้งที่ประชุมวันแรก ระบุอาจถอนตัวหากถูกบั่นทอนกำลังใจมากเกินไป บอกถ้าม่อยากใช้มาตรา 7 ต้องช่วยกันหาทางออก
วันนี้ (13 พ.ค.) นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ว่าที่ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้เชิญนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมแสดงความคิดเห็นต่อแนวทางแก้ปัญหาประเทศ แต่ได้รับการแจ้งจากนายนิวัฒน์ธำรงว่าไม่สามารถมาร่วมหารือได้ ส่วนนายอภิสิทธิ์แจ้งว่ายินดีที่จะมาร่วมแสดงความเห็นในช่วงเวลา 18.00 น.วันนี้ จากนั้นตนจะเชิญสมาชิกทั้งหมดหารือเป็นการภายในเพื่อสรุปข้อมูลทีได้จากการหารือ 2 วัน โดยลงในรายละเอียดและให้เสนอแนวทาง
นายสุรชัยกล่าวย้ำว่า การที่พวกตนออกมาหาทางออกให้แก่ประเทศครั้งนี้เป็นเพราะหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงไม่มีทีท่าว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้ ในฐานะที่เป็นองค์กรนิติบัญญัติที่เหลืออยู่องค์กรเดียวไม่อาจนิ่งเฉยได้ ขณะนี้ตนยังไม่ได้เสนอแนวทางอะไรออกมาเลย กรุณาอย่าบิดเบือนข้อมูลว่า ส.ว.ยืนข้างใคร หรือใช้มาตราใด ตนยังไมได้พูดสักคำ ยืนยันว่ารับทุกสูตรความคิดไว้พิจารณา ที่สุดคำตอบจะออกมาอย่างไร ต้องอยู่บนพื้นฐานประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน
“ถ้าทุกคนไม่อยากเห็นการหยิบมาตรา 7 มาใช้ต้องช่วยกันแสดงความเห็นหาทางออกให้ได้ พวกผมแค่ประชุมวันแรกก็มีพรรคการเมืองหนึ่งออกข่าวแล้วว่าจะแจ้งจับผมในข้อหากบฎ ผมทำงานในนาม ส.ว. เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ถ้ามีพฤติกรรมบั่นทอนการทำงานแบบนี้ หาก ส.ว.ทุกคนท้อแท้หมดกำลังใจที่จะทำเพื่อชาติบ้านเมืองครั้งนี้ ผมและคณะวางมือไปทำงานในฐานะนิติบัญญัติ ที่ตอนนี้แทบจะไม่มีงานอะไรให้ทำกันเลย จะเปิดวิสามัญก็ปัญหารายทางเต็มไปหมด ดังนั้นหากหน่วยงานใดที่พร้อมจะคืนความสงบให้กับประเทศชาติ ผมและคณะพร้อมที่จะถอนตัวทันที ขอให้จับมือกันช่วยพาประเทศชาติก้าวพ้นวิกฤตครั้งนี้ให้ได้ เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนอยากเห็น” นายสุรชัยกล่าว
ส่วนจะมีการเชิญฝ่ายรัฐบาลมาอีกครั้งหรือไม่ นายสุรชัยกล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้เลขาธิการวุฒิสภา ทำหนังสือแจ้งกลับไปยังนายนิวัฒน์ธำรงว่าสะดวกมาได้เมื่อไหร่ แต่ไม่อยากให้ชักช้าเพราะอยากให้งานเสร็จโดยเร็ว นอกจากนี้ยังประสานไปยังแกนนำกลุ่มองค์กรต่างๆ เช่น กลุ่ม นปช.ด้วยว่าหากต้องการจะมาร่วมแสดงความคิดเห็นตนก็ยินดีต้อนรับ โดยไม่ต้องกลัวเรื่องที่มีกลุ่ม กปปส.มาชุมนุมหน้ารัฐสภา เพราะทุกคนสามารถเดินทางเข้าออกได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร
อย่างไรก็ตาม หลังจากได้ข้อสรุปส่วนหนึ่งในวันนี้แล้ว นับจากพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) เป็นต้นไป ตนจะย้ายสถานที่ประชุมไปที่อาคารสุขประพฤติ ซึ่งเป็นสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา โดยจะมีการหารือร่วมกันระหว่าง ส.ว.กับองค์กรอิสระ เริ่มเวลา 12.00 น.
