ที่ประชุมวุฒิสภายังไมได้ข้อสรุป นัดหารือต่อพรุ่งนี้ (13 พ.ค.) เวลา 13.30 น. เตรียมตั้งคณะทำงานร่วมเดินสายหาทางออก ด้าน “สุรชัย” เผยสมาชิกวุฒิสภาปวารณาตัวจะแก้ไขปัญหาชาติอย่างสุดความสามารถ วอนทุกฝ่ายรอฟังคำตอบอย่าใช้ความรุนแรง ยันรีบทำงานให้เร็วที่สุด ตั้งเป้าได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้
วันนี้ (12 พ.ค.) เมื่อเวลา 20.35 น. นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ว่าที่ประธานวุฒิสภา ได้เปิดประชุมวุฒิสภานัดพิเศษอีกครั้งหลังจากพักการประชุมไป และเปิดโอกาสให้สมาชิกอภิปรายต่อไป โดย พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว. อภิปรายว่า ในตอนนี้ที่มีปัญหาที่รัฐบาลไม่สามารถใช้อำนาจได้ตามปกติ เพราะเป็นรัฐบาลรักษาการ และยังมีปมปัญหาข้อกฎหมายรวมทั้งที่ได้มาซึ่งนายกฯตาม รธน. 172, 173 เพราะไม่มีสภา รัฐบาลควรจะหารือว่าข้อขัดข้องเกี่ยวกับการบริหารราชการควรจะทำอย่างไร เช่น ขณะนี้ไม่มีรัฐมนตรีกลาโหม ปฏิบัติหน้าที่ ในส่วนของกระกรวงกลาโหมมีข้อขัดข้องอะไรบ้าง และอำนาจของรัฐบาลตอนนี้ก็ควรนำปัญหาไปปรึกษาคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าควรปฏิบัติเช่นใด รวมถึงอำนาจการทูลเกล้าฯขอเปิดสภาสมัยวิสามัญว่าทำได้หรือไม่ ซึ่งเป็นปัญหาของฝ่ายบริหารก็ควรให้รัฐบาลไปตรวจสอบเอง ขณะที่วุฒิสภาก็ไม่สามารถใช้แนวทางตามมาตรา 7 เพราะวุฒิสภาไม่เป็นผู้กำหนดให้ว่าใครจะทำอย่างไร แต่ควรจะเป็นผู้มีหน้าที่เชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่เชี่ยวชาญ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาหาหรือร่วมกันหาทางออกร่วมกัน โดยที่วุฒิสภาเป็นผู้นัดประสานการหารือ
น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ส.ว.สมุทรสงคราม อภิปรายว่า การเสนอนายกฯมาตรา 7 ได้หรือไม่ ไม่สำคัญเท่าชื่อนั้นได้รับการยอมรับหรือไม่ และจะเป็นทางออกได้จริงหรือเปล่า เพราะขณะนี้ปัญหาวิกฤตไปหมด หัวใจสำคัญคือฝ่ายรัฐบาลต้องยอมด้วย ไม่ใช่จะเรียกร้องให้แต่ฝ่าย กปปส. ยอมอย่างเดียว จึงไม่ใช่เรื่องง่ายหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยอมรับ และอาจส่งผลกระทบต่อตำแหน่งของประธานวุฒิสภาโดยตรง เพราะปัญหาตอนนี้คือไม่มีผู้บริหารประเทศ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเร่งหาผู้นำ ส่วนวิธีการที่จะได้มานั้นไม่สามารถชี้แนะได้ เป็นหน้าที่ของประธานวุฒิสภาต้องแสวงหา
นายศักดา ศรีวิริยะไพบูลย์ ส.ว.ระนอง กล่าวว่า เท่าที่ประเมินสถานการณ์ความขัดแย้งจากสองฝ่าย จะเห็นว่าทั้งสองต่างต้องการให้มีการเลือกตั้ง เพียงแต่ฝ่ายหนึ่งอยากให้เดินหน้าเลือกตั้งทันที แต่อีกฝ่ายต้องการให้มีการปฏิรูปก่อนถึงค่อยมีการเลือกตั้ง จึงเป็นไปได้หรือไม่ถ้ามีการพูดคุยเจรจาหาทางอย่างหนึ่งอย่างใดที่วุฒิสภาจะทำหน้าที่กำหนดเงื่อนไขของการไปสู่กระบวนการเลือกตั้งที่ยอมรับได้ทั้งสองฝ่าย กำหนดกติกาในระดับหนึ่งเพื่อให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นมาเพื่อให้รัฐบาลไปทำหน้าที่ปฏิรูปที่กำหนดไว้จากนั้นกลับเข้าสู่การเลือกตั้งที่สมบูรณ์อีกครั้ง
ขณะที่ นายวรชาติ ทนังผล ส.ว.พังงา เสนอให้วุฒิสภาตั้งคณะทำงานเพื่อเป็นคนกลางทำหน้าที่พบปะกับทุกฝ่ายเพื่อหาแนวทางออกของปัญหา ส่วนกรณีที่จะมีการเสนอใช้นายกรัฐมนตรี ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 หากมีความจำเป็นต้องทำควรจะใช้มติของวุฒิสภา เพื่อให้เกิดการยอมรับ
นายพีระศักดิ์ พอจิต ส.ว.อุตรดิตถ์ เห็นว่าปัญหาในขณะนี้ใช้กระบวนการตามปกติไม่สำเร็จแน่นอน มีความชอบธรรมที่จะเสนอตัวเข้าไปคลี่คลายปัญหาครั้งนี้ เชื่อว่าประธานจะเก็บรวบรวมทั้งหลายไปสู่การปฏิบัติ ต้องแสดงความกล้าหาญ อย่าเก็บไว้กับเรานาน 2-3 วันให้จบ จะได้ไม่ต้องแบกไว้ที่สภานานเกินไป หากประธานมีแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาเชื่อว่ามีเหตุผลและกฎหมายรองรับ ตนพร้อมสมาชิกส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันกับแนวทางนั้น ขอให้มีข้อเท็จจริงมีคำอธิบายชัดเจน พวกตนจะได้อธิบายให้ประชาชนแต่ละจังหวัดให้รับทราบ
นายจองชัย เที่ยงธรรม ส.ว.สุพรรณบุรี แสดงความเห็นสั้นๆ ว่าปัญหาส่วนใหญ่เราจะแก้กันด้วยกฎหมาย แต่ปัญหาพิเศษแบบนี้แก้ด้วยกฎหมายไม่ได้ ต้องเจรจาให้รู้เรื่อง หากเริ่มต้นที่ข้อกฎหมายไม่จบแน่นอน
นานมณเฑียร สงค์ประชา ส.ว.ชัยนาท เสนอให้ประธานสรุปในที่ประชุมให้เป็นมติยกเรื่องทั้งหมดให้ประธานไปหารือกับองค์กรต่างๆ ที่ขัดแย้ง เพื่อให้ได้ข้อสรุปและมาเสนอที่ประชุม ถ้าอันไหนที่ทำแล้วบ้านเมืองจะผ่านวิกฤตไปได้เชื่อว่าเราทุกคนเอาด้วยแน่นอน เพราะทุกคนมีความมั่นใจ ไม่อย่างนั้นไม่จบ
หลังจากสมาชิกได้อภิปรายกันอย่างกว้างขวาง นายสุรชัยหารือที่ประชุมว่ามีสมาชิกเสนอให้ขอมติที่ประชุมตั้งคณะทำงานไปพูดคุยกับองค์กรอิสระหรือไม่ แต่ นายวันชัย แย้งว่าไม่ควรขอมติที่ประชุม แต่ประธานควรเป็นคนคัดเลือกคณะทำงานด้วยตนเองว่าใครเหมาะสม
นายสุรชัย ถามสมาชิกว่ามีใครสมัครใจที่จะอาสาตัวเป็นคณะทำงานบ้าง เพราะถือเป็นภารกิจเร่งด่วน คนที่มาทำงานต้องพร้อมให้ตนเรียกตัวได้ตลอดเวลา
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา เห็นด้วยว่ากับการตั้งคณะทำงาน โดยต้องเร่งทำงานตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ตลอด 24 ชั่วโมงก็ต้องทำ และเสนอว่าควรตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดกับนายสุวิจักษณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภา ที่ขัดขวางการทำหน้าที่ของวุฒิสภาในการทำงานให้บ้านเมือง สั่งปิดวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา มีเจตนาทำร้าย ส.ว. เพราะหากมีการบุกเข้ามาทำร้ายจะทำอย่างไร เคยขัดขวางการประชุมสมัยวิสามัญมาแล้วครั้งหนึ่ง ตนว่าทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย อย่างนี้จะทำงานอย่างไร
จากนั้น นายสุรชัย ได้นัดสมาชิกวุฒิสภามาประชุมอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (13 พ.ค.) เวลา 13.30 น. เพื่อหารือถึงการตั้งคณะทำงานชุดดังกล่าว ก่อนสั่งปิดประชุมเวลา 22.35 น.
หลังจากนั้น เมื่อเวลา 22.45 น. นายสุรชัย แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ขอให้แกนนำผู้ชุมนุมแต่ละฝ่ายอย่าปลุกระดมมวลชนให้ทะเลาะกัน โดยในวันพรุ่งนี้จะมีการนัดประชุมอีกครั้ง และเชิญตัวแทนจากรัฐบาลเข้ามาหารือ และในวันถัดไปก็จะนัดตัวแทนองค์กรอิสระและตัวแทน 3 ศาลมาหารือเช่นกัน สมาชิกวุฒิสภาทุกท่านวันนี้ได้ปวารณาตัวแล้วว่าจะร่วมกันแก้ไขปัญหาชาติครั้งนี้อย่างสุดความสามารถ ขอให้ทุกฝ่ายรอฟังคำตอบ เราจะเร่งรีบทำให้เร็วที่สุด
โดยพรุ่งนี้ (13 พ.ค.) หลังจากเสร็จจากห้องประชุมใหญ่ เราจะปิดห้องคุยกันที่ห้องประชุมเล็ก เพื่อหารือเชิงลึกกับสมาชิกวุฒิสภา ว่าระดับของข้อมูลที่ฟังมา 2 วัน พร้อมที่จะลงรายละเอียดได้หรือยัง กระบวนการจบจะได้ระดับหนึ่งในวันพรุ่งนี้ ส่วนเรื่องสูตรอย่าถามว่าเป็นนายกฯมาตรา 7 หรือ 8 ทุกสูตรยังไม่ถูกตัดออก เรารับข้อเสนอทางออกไว้ทั้งหมด โดยตั้งเป้าในสัปดาห์นี้ต้องเสร็จ