รองโฆษกประชาธิปัตย์ โวหัวหน้าพรรคดึงฟืนออกจากกองไฟแล้ว วอน “ยิ่งลักษณ์” ช่วยเดินหน้าแผน อย่าฟังเสียงบ่างช่างยุ จวกพวกพล่ามขัด รธน.แต่ทำเสียเอง แขวะรักเพื่อรักษาอำนาจ แฉการเมืองล็อบบี้เก้าอี้ประธานวุฒิสภาวุ่น เตือนหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้เริ่มต้นดึงฟืนออกแล้ว แต่ควรดู “นิคม” ตัวอย่าง กุจ่ายทะลุ 7 หลัก คนไกลรั้งหวังไม่ให้คนของตนโดนถอด
วันนี้ (6 พ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายดึงฟืนออกจากกองไฟแห่งความขัดแย้ง คนเดียวไม่สามารถดับไฟได้ จึงขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ดึงฟืนออกจากไฟด้วยการพิจารณาแผนเดินหน้าประเทศไทยของนายอภิสิทธิ์อย่างรอบคอบ อย่าฟังเสียงบ่างช่างยุเพราะเป็นพวกที่รอการเข้าสู่อำนาจ โดยมีขบวนการแสดงความไม่ยอมรับต่อการแก้ปัญหา ทำให้เข้าสู่ปัญหาเดิมไม่สามารถแก้วิกฤตได้ ส่วนที่ระบุว่าข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ขัดรัฐธรรมนูญนั้น ความจริงคือการรักษารัฐธรรมนูญไม่ให้ถูกฉีกจากการปฏิวัติ แต่ที่น่าแปลกใจคือ คนที่บอกว่าขัดรัฐธรรมนูญนั้นตอนมีอำนาจพยายามทำทุกอย่างขัดรัฐธรรมนูญ เช่น ออกกฎหมายนิรโทษกรรม แก้รัฐธรรมนูญ และการออกกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท การแสดงความรักรัฐธรรมนูญเพียงแค่หวังว่าจะรักษาอำนาจเพื่อเป็นรัฐมนตรีในอนาคตเท่านั้น ดังนั้น หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ฟังคนพวกนี้จะเป็นคนเดียวที่ติดคุกส่วนคนอื่นจะผลัดกันมานั่งเก้าอี้ดนตรีมาเป็นรัฐมนตรี
นายจุฤทธิ์ยังกล่าวถึงการเลือกประธานวุฒิสภาที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 พ.ค. 57 ว่ามีความเข้มข้นอย่างรุนแรง โดยมีผู้หวังดีแจ้งว่ามีความพยายามล็อบบี้จากฝ่ายการเมืองที่ต้องเข้าสู่กระบวนการถอดถอนของวุฒิสภา จึงขอให้ดูตัวอย่างจากประวัติศาสตร์ว่าประธานวุฒิสภาที่ถูกสั่งได้ก็หนีไม่พ้นกรรม จึงขอให้คนที่จะเข้ามาทำหน้าที่ประธานวุฒิสภา ดูนายนิคม ไวยรัชพานิช เป็นตัวอย่าง ทั้งนี้ทราบว่ามีการเสนอตัวเลขเกิน 7 หลักตัวหน้าแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการวิ่งตัวเลขอยู่ที่ 6 หลักในช่วงหลังสงกรานต์ และขยับขึ้นมาเรื่อยๆจนปัจจุบันทะลุ 7 หลักไปแล้ว
“คนแดนไกลต้องการตำแหน่งนี้ โดยมีการต่อรองทุกรูปแบบตั้งแต่เรื่องตำแหน่งประธานกรรมาธิการฯ และตัวเลขค่าใช้จ่ายจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาด้วยว่าจะดูแลให้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำให้คนเก่าไม่ยอมถอนตัวเพราะยังไม่ได้เคลียร์กัน แต่มีการสนับสนุนคนใหม่เข้ามา เพราะมีการตั้งความหวังว่าจะได้คนสั่งได้เข้ามาทำหน้าที่เพื่อให้คนของตัวเองไม่ถูกถอดถอนแม้แต่คนเดียว และเป็นเหตุผลที่ทำให้พรรคการเมืองดังกล่าวไม่ต้องการการปฏิรูป ก็เพื่อไม่ถูกถอดถอนและก้าวเข้าสู่อำนาจอีกครั้ง” นายจุฤทธิ์กล่าว
