สะเก็ดไฟ
พลันที่ “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ” (ป.ป.ช.) มีมติฟันทิ้ง 36 ส.ว.ที่ร่วมลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา ส.ว.และได้พิจารณารับหลักการในวาระที่ 1 และลงมติในวาระที่ 2
โดยเฉพาะมาตรา 6 กรณีให้ ส.ว.ที่พ้นวาระแล้วลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ว.ได้โดยไม่ต้องเว้นวรรค เพราะเป็นการกระทำที่เล็งเห็นได้ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน ซ่อนอยู่ข้างหลัง
ส่วน ส.ว.อีก 14 คนรอดตายอย่างหวุดหวิด เพราะ “ป.ป.ช.” เห็นว่าไม่ได้ลงมติวาระ 2 ในมาตรา 6 จึงไม่เข้าข่ายการรกระทำที่อาจจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน
เมื่อนับยอดผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.310 คน “ป.ป.ช.” ลงมติในส่วน 50 ส.ว.ไปแล้ว รวมกับก่อนหน้านี้ลงมติฟัน “สมศักดิ์ เกียรติสรานนท์” ประธานรัฐสภา และ “นิคม ไวยรัชพานิช” ประธานวุฒิสภาไปแล้ว ทำให้เหลือ 258 ส.ส.ที่ต้องรอลุ้นกันตัวโก่งว่า “ป.ป.ช.” จะลงดาบฟันหรือไม่ และนับยอดกันแล้วมี “ส.ส.เพื่อไทย” อยู่หลายร้อยคน งานนี้หาก “ป.ป.ช.” มีมติฟันทิ้ง มีหวัง “ส.ส.เครือชินวัตร” ต้องตายยกเข่งอีกตามเคย
ก่อนหน้านี้ “เพื่อไทย” ค่อนข้างมั่นใจว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ส.จะโดน “ป.ป.ช.” ฟันแค่ 4 คนเท่านั้น ประกอบด้วย “สมศักดิ์” - “นิคม” - “อดุมเดช รัตนเสถียร” - “นริศร ทองราช” (เสียบบัตรแทน) หลายคน “เพื่อไทย” จึงค่อนข้างโล่งอกโล่งใจหวังว่า “ป.ป.ช.” จะมีความปรานี
แต่เมื่ออ่านทิศทางจากการที่ “ป.ป.ช.” ฟัน 36 ส.ว.แล้ว “พลพรรคเพื่อแม้ว” ถึงกับออกอาการหวั่นไหวหนาวๆ ร้อนๆ กันทั้งพรรค
ปมที่ “ป.ป.ช.” ใช้ฟัน 36 ส.ว.มีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่สามารถนำมาใช้กับ 258 ส.ส.ได้ จึงรอลุ้นว่า “ป.ป.ช.” จะวินิจฉัยความผิดของ 258 ส.ส.อย่างไร
ปมนี้น่าจะทำให้ 258 ส.ส.เดือดร้อนมากที่สุดคงหนีไม่พ้น “การปลอมร่างรัฐธรรมนูญ” เพราะร่างที่ “อุดมเดช” ยื่นต่อ “สมศักดิ์” เป็นคนละร่างกับที่ “รัฐสภา” ใช้พิจารณาในวาระ 1 ซึ่ง “ศาลรัฐธรรมนูญ” ได้วินิจฉัยไว้ค่อนข้างชัดเจนว่าการที่ “รัฐสภา” ไม่ได้นำร่างฉบับที่ “อุดมเดช” เสนอต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2556 มาใช้ในการพิจารณาวาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ โดยได้มีการนำร่างที่จัดทำขึ้นใหม่ ซึ่งมีหลักการแตกต่างจากร่างเดิมเสนอ เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
กรณีนี้อาจจะทำให้ 258 ส.ส.ตายยกพวงได้ง่ายเลย “ทั้ง ส.ส.เสื้อแดง-ส.ส.เหนือ-ส.ส.อีสาน” โดนกราวรูด
แต่หากดูการตัดสินของ “ป.ป.ช.” ในการใช้หลักการพิจารณาความผิดของ 50 ส.ว.แล้ว อาจจะมี ส.ส.บางคนที่รอดพ้นจากความผิดได้
แต่มีเงื่อนไขว่าใน 258 ส.ส.ที่ร่วมลงชื่อยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. ต้องมีมติไม่เห็นชอบในร่างรับหลักการวาระ 1 เท่านั้น ฟันธงกันง่ายๆ หาก 258 ส.ส. ใครที่ลงมติรับหลักการวาระ 1 ทำใจรอล่วงหน้าได้เลยว่า “ป.ป.ช.” จัดการฟันทิ้งอย่างแน่นอน
คำถามจึงอยู่ที่ว่าจะมี “ส.ส.เพื่อไทย” หน้าไหนที่กล้าแหกมติพรรค โหวตสวนในขั้นรับหลักการวาระ 1 บ้าง ตรวจแถวดูกันแล้วแทบจะไม่มีให้เห็น ตอนนี้มีข่าวว่าใน “เพื่อไทย” ไล่เช็คกันรายคนว่า จะมีใครบางที่อาจจะรอดเงื้อมมือของ “ป.ป.ช.”
ส่วนประเด็นการเสียบบัตรแทนของ “นริศร” อาจจะโดนความผิดรายบุคคลทั้งตัว “นริศร” และ ส.ส.ที่ฝากเสียบบัตรแทน ประเด็นนี้ตายเดี่ยว ซึ่งมีไม่กี่คน ไม่โดนยกเข่ง
ในภาวะที่ยังไม่มีอะไรแน่นอน “รัฐบาล” ดูเหมือนอยากจัดการเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อย แต่สถานะของ “ส.ส.เพื่อไทย” เกินครึ่งอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะโดน “ป.ป.ช.” สอย ซึ่งมีบทลงโทษตามหลังมาแน่นอน ดังนั้นเลือกตั้งไป “ส.ส.เพื่อไทย” จะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
ชั่วโมงนี้ “พรรคเพื่อไทย” มีแต่คำว่า “แพ้” กับ “แพ้” อยู่ที่ว่าจะยอมรับว่า “แพ้” ตอนไหน