xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” จี้สื่อรัฐเป็นกลาง ขู่ใช้ กม.เล่น นสพ.ปูดถูกซื้อ ไม่สบายใจผู้นำท้องถิ่นอยากใช้กำลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (แฟ้มภาพ)
ผบ.ทบ.หวังทุกฝ่ายลดจ้อให้แตกแยก เชื่อผู้ใหญ่หวังดีแต่อาจสื่อสารคลาดเคลื่อน ขอให้มองที่เจตนา รับเงื่อนไขจุดเริ่มปมขัดแย้งยังอยู่ยังเดินไปไหนได้ไม่มาก ต้องไปดูอยู่จุดไหน แก้ที่ปลายทางไม่จบ เตือนอย่าพาดพิงทหาร แนะลดราวาศอก อย่าโยงสถาบัน ติงสื่อของรัฐเสนอข่าวให้เป็นกลาง ถ้าเกิดเหตุรัฐต้องรับผิด ถาม ศอ.รส.ลดกำลังทหารแล้วสถานการณ์จะลดลงหรือไม่ ตร.ดูแลเต็มที่หรือไม่ โยน “เฉลิม” จัดการแดงฝึกกำลัง ไม่สบายใจผู้นำท้องถิ่นอยากใช้กำลัง ถามกวีแดงถูกขึ้นบัญชีอะไร ขู่ใช้ กม.เล่น นสพ.บางฉบับ เย้ยเตรียมตกงานได้



วันนี้ (29 เม.ย.) ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) เมื่อเวลา 08.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ กทม.ว่า การรักษาความมั่นคงภายใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีสถานการณ์ความขัดแย้ง อยากให้ทุกฝ่ายลดการพูดจาในเชิงที่ทำให้เกิดความแตกแยกมากกว่านี้ สำหรับผู้ใหญ่ของบ้านเมืองทุกท่านมีความหวังดี แต่อาจจะมีการสื่อสารที่ทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน แต่ขอให้มองที่เจตนาเป็นหลัก ส่วนจะทำได้หรือไม่เป็นเรื่องของกลไกต่างๆ ที่ต้องดำเนินการ ไม่ใช่ว่าใครคิด หรือพูด หรือทำอะไรแล้วจะทำได้ทั้งหมด วันนี้ปัญหาติดขัดที่ข้อกฎหมาย รัฐธรรมนูญ และเรื่องต่างๆ อะไรมากมาย ดังนั้นเราต้องรักษาสภาพแวดล้อมให้เกิดความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม

“ในส่วนของเหล่าทัพได้มีการพูดคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ ผบ.เหล่าทัพมาโดยตลอด ท่านพยายามควบคุมกำลังพลให้อยู่ในระเบียบวินัย ทำหน้าที่ตามกฎหมาย ดูแลทุกฝ่ายให้เกิดความเท่าเทียม ผมเป็นห่วงในเรื่องการพูดจาในปัจจุบัน มีหลายพวกที่พูดจามุ่งเน้นไปสู่ความรุนแรง คงทราบดีว่าเป็นฝ่ายใด ถ้าตราบใดที่ความขัดแย้งยังมีอยู่ เงื่อนไขที่เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความขัดแย้งยังคงอยู่ มันยังเดินไปไหนได้ไม่มากนัก ดังนั้นต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหา ต้องย้อนกลับไปดูเงื่อนไขว่าอยู่ที่ไหน ถ้านำปลายทางมาแก้กันก็ไม่มีทางมาจบ เพราะต้องมีฝ่ายยอมและไม่ยอม ดังนั้นต้องไปหาทางออกกันให้ได้ และอย่าพาดพิงทหารให้มากนัก ทหารทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย การกระทำใดๆ ที่จะมุ่งไปสู่ความขัดแย้งมากขึ้นเราก็ระมัดระวังเต็มที่ แน่นอนว่าย่อมมีฝ่ายหนึ่งพอใจและอีกฝ่ายไม่พอใจ แต่จะทำอย่างไรที่สองฝ่ายจะมุ่งไปสู่ผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก ทำให้บ้านเมืองปลอดภัย และหาหนทางในการแก้ไขปัญหาให้ได้ ตราบใดที่ทุกฝ่ายยังอ้างความชอบธรรม และความถูกต้อง จะแก้อะไรไม่ได้ จึงเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายต้องแก้ปัญหากัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในกระบวนการบริหารราชการแผ่นดินในปัจจุบัน ไม่ใช่ทหาร ตำรวจ พลเรือนอย่างเดียว ฝ่ายการเมือง ฝ่ายที่เห็นต่างทั้งหมดต้องมีส่วนร่วมทั้งสิ้น ถ้าเหตุการณ์บานปลาย มีการบาดเจ็บ สูญเสีย ทั้งหมดต้องร่วมรับผิดชอบ เพราะมีทางออกอีกหลายทาง ดังนั้นทุกคนต้องหลีกเลี่ยง ลดราวาศอกกัน ลดความขัดแย้ง ลดเงื่อนไข ซึ่งการปะทะกันด้วยกำลังจะทำให้เกิดความสูญเสีย ขอร้องทุกฝ่ายลดการพูดจาเชิงท้าทาย ข่มขู่ หรือการใช้อาวุธสงครามต่อสถานที่ราชการและสถานที่สำคัญต่างๆ สิ่งที่สำคัญอีกประการ คือ เรื่องของสื่อ ต้องระมัดระวังในการเสนอข่าว สื่อต้องดำรงความเป็นกลางทางการเมืองให้ได้ หาทางที่จะลดความรุนแรง ไม่ใช่นำความเห็นต่างเหล่านั้นมาขยายออกไปจนกระทั่งไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ มิเช่นนั้นทุกอย่างจะนำไปสู่ทางตันทุกเรื่อง

“จะบอกว่าแก้ไขไม่ได้คงไม่ใช่ เพราะทุกเรื่องมีทางแก้ไข ถ้าจะแก้จริงๆ ควรนำความเห็นของทุกพวก ทุกฝ่ายมาแก้ไขกัน ทหารมีหน้าที่ดูแลทุกฝ่ายไม่ให้ใช้ความรุนแรงต่อกัน ใครจะผิดหรือถูกก็มาต่อสู้กันในกระบวนการยุติธรรม อย่าใช้มวลชนมาต่อสู้กัน ส่วนของคู่ขัดแย้งหลักๆ คือรัฐบาลกับผู้ที่เห็นต่าง ส่วนคนอื่นๆ ก็ถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ประเด็นสำคัญ คือ ไม่อยากให้ดึงสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องในทุกเรื่อง สถานการณ์ปัจจุบันแตกต่างจากในอดีตเพราะมีมวลชนหลายฝ่ายและ แต่ละฝ่ายคิดว่าตัวเองถูก ซึ่งมันมีทั้งผิดและถูก แต่จะทำอย่างไรให้ส่วนที่ผิดมาเจอกันได้ การสู้กันไปมาไม่มีทางแก้ สุดท้ายประเทศชาติไม่มีทางออก ปัญหาทุกอย่างอยู่ที่เงื่อนไขแรก และเงื่อนไขเดิม ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าถูกหรือผิดอย่างไร ชอบธรรมหรือไม่อย่างไร” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อยากขอร้องสื่อให้ช่วยรักษาทรัพยากรของชาติไว้ ไม่ว่าจะเป็นบุคลากร บุคคลสำคัญ สถาบัน องค์กร ทหาร ตำรวจ ให้เขาได้มีสิทธิ เสรีภาพในการทำงานตามกรอบหน้าที่ ถ้าไปกดดันเขามากๆ เขาจะไม่สามารถทำงานได้สะดวก หากทำให้เกิดความเข้าใจผิดและขยายวงไปเรื่อยๆ แล้วจะแก้ด้วยการรบราฆ่าฟันไปตลอดหรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อของรัฐที่จะต้องรักษาความเป็นกลางให้ได้ หากสื่อของรัฐยังนำปัญหา หรือข้อขัดแย้งต่างๆ ขยายไปเรื่อยๆ ทำให้คนเป็นหลายฝ่าย ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมารัฐก็ต้องรับผิดชอบ สุดท้ายไม่มีใครชนะ

เมื่อถามถึงกรณีที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) จะปรับลดกำลังทหาร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้ คิดว่าต้องมีการหารือกันใน ศอ.รส. ทางกองทัพบกได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าประชุม ชี้แจง เสนอแนะมาตลอด และได้จัดกำลังไปสนับสนุน ต้องตั้งสมมติฐานว่าเมื่อลดกำลังลงแล้วสถานการณ์จะลดลงหรือไม่ วันนี้มีกำลังทหารเพื่อป้องกันและลดเหตุการณ์รุนแรง อาจทำให้สถานการณ์เบาบางลงแต่ยังไม่จบสิ้นเพราะเงื่อนไขมีอยู่ เมื่อลดกำลังทหารแล้วคนที่รับหน้าที่คือตำรวจ ก็ต้องไปหาคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสามารถดูแลได้เต็มที่หรือไม่ จะทำให้เกิดความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้หรือไม่ ตนไม่มีปัญหากับใครในเรื่องการทำงาน แค่ต้องการให้บ้านเมืองปลอดภัย แต่ทุกฝ่ายต้องหันมามองว่าจะทำอย่างไร อย่าไปทำลายทุกกระบวนการ สถาบันและองค์กรเพื่อชนะกัน แต่มันไม่ใช่การชนะที่ดีเพราะชนะด้วยกำลัง ตราบใดที่มีคนเห็นต่าง ไม่ยอมรับก็ไม่มีวันจบ ไม่ว่าจะมีการเลือกตั้ง มีรัฐบาลหรือไม่ ปัญหายังไม่จบ ปัญหาต้องจบให้ได้โดยเร็วด้วยวิธีการที่ถูกต้อง อย่านำพาประเทศให้เสียหายมากกว่านี้ ทุกพวกต้องรับผิดชอบ

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี มีการฝึกกองกำลังในพื้นที่ จ.นครราชสีมา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ติดตามอยู่ ทาง กอ.รมน.ได้รายงานว่าได้ฝึกอะไรกันบ้าง บอก ศอ.รส.ไปว่ากลุ่มไหนที่ตั้งกองกำลังขึ้นมา ใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องไปดูว่าถูกหรือผิดกฎหมาย เป็นเรื่องของ ศอ.รส.และฝ่ายกฎหมายจะต้องพิจารณา ไม่ใช่เรื่องของตน ขณะนี้ข้อมูลด้านการข่าวมีการสรุปว่า มีการตั้งหลายพวก ตนรู้สึกไม่สบายใจที่เห็นผู้นำท้องถิ่น ผู้นำหน่วยงานออกมาพูดเพื่อให้เกิดความรุนแรงด้วยการใช้กำลัง เพราะมองว่าการใช้กำลังไม่ทำให้ทุกอย่างจบได้ แต่จะเพิ่มความขัดแย้งให้มากขึ้น

เมื่อถามถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาเปิดเผยว่า ไม้หนึ่ง ก.กุนที ที่ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ในแบล็กลิสต์กองทัพ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องไปหาหลักฐานว่ากองทัพขึ้นบัญชีอะไร ต้องไปถามเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม้หนึ่ง ก.กุนที เกี่ยวข้องอะไรบ้างหรือไม่ ส่วนการใช้กำลังต่างๆ หรือแกนนำต่างๆ ของทุกพวกทุกฝ่าย เกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรงทั้งสิ้น แต่อย่ามาโยงใยทหารเข้าไปทำร้าย ตนประกาศอยู่เสมอว่ากองทัพดูแลประชาชนทุกฝ่าย ถึงจะชอบหรือไม่ก็ต้องทำตามหน้าที่ อย่าบอกว่าทหารไปเข้าข้างใคร

“ที่บอกว่าผมไม่ดำเนินการอะไรในขณะนี้เพราะรับผลประโยชน์ ผมคงต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อหนังสือพิมพ์บางฉบับที่เขียนเช่นนี้ ถ้ายังปล่อยให้เขียนแบบนี้ก็เตรียมตัวตกงานกันให้หมด หนังสือพิมพ์อะไรก็รู้อยู่ ไม่เคยเขียนให้เกียรติมนุษย์โลก คิดว่าทุกคนเป็นเหมือนตัวเองหรือยังไง ผมไม่เข้าใจ ไม่มีใครจะมาซื้อกองทัพได้ ไม่ว่าจะนำผลประโยชน์อะไรมาแลกเปลี่ยน เพราะกองทัพไม่ได้ต้องการอะไร ต้องการให้บ้านเมืองปลอดภัยอย่างเดียว ไม่ได้มีใครต้องการเข้าไปสู่อำนาจถึงจะต้องตกลงรับผลประโยชน์ เราทำงานด้วยข้อมูล และสติปัญญาและกฎหมาย ส่วนที่จะต้องดำเนินการต่อไปในวันข้างหน้าก็เป็นเรื่องของสถานการณ์ ถ้าไม่หยุด หรือสงบก็ต้องมีทางอื่นอย่างอื่น ประเทศชาติไม่เคยสิ้นคนดี ทั้งนี้ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ก็พยายามพูดหาทางออกให้ทุกอย่างแล้ว ถ้าท่านไม่เลือกกันก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรเหมือนกัน” ผบ.ทบ.กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น