xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” สำคัญตัวเองผิด-ฮีโร่ผิดคิวดับอนาถ!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ผ่าประเด็นร้อน

นาทีนี้ความหมายเป็นอย่างนั้นจริงๆ ขณะเดียวกันหลายคนก็ยังงงไม่หายว่าทำไมจู่ๆ นักเรียนเก่าออกซฟอร์ดที่พยายามสร้างภาพลักษณ์ทางการเมืองแบบตรงกันข้ามกับคนในพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะย่างยิ่งกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตัวแทนของ ทักษิณ ชินวัตร ทั้งในเรื่องของสติปัญญา แนวความคิดทางการเมือง ที่ผ่านมาอิงแอบความเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ เป็นความคาดหวังของประชาชนอีกจำนวนไม่น้อย แม้ว่าที่ผ่านมาจะพิสูจน์ให้เห็นถึงความล้มเหลวในระหว่างที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรีกว่า 2 ปี เนื่องจากได้เห็นจากการปฏิบัติจริงมาแล้วว่า “ยังไม่ถึง” แต่ก็นั่นแหละถึงอย่างไรชาวบ้านก็ยังให้โอกาส ยังคิดในแง่ดีว่าสาเหตุที่มีการค่อนแคะกันว่า “ดีแต่พูด” นั้นเพราะมัปัญหาอุปสรรคมากมาย เป็นพรรครัฐบาลที่มีเสียงปริ่มน้ำ มีการต่อรองผลประโยชน์ที่ตัวเองควบคุมคุมอะไรไม่ได้มาก

ทำให้ชาวบ้านและบรรดาแม่ยกทั้งหลายยังให้โอกาส แม้ว่าที่ผ่านมาจะได้เห็นถึงความไม่ชัดเจน ไม่สามารถสะสมบารมีเพิ่มขึ้นได้ด้วยตัวเองเลยก็ตาม

มาวันนี้ความเป็นตัวตนของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ได้สะท้อนออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนแทบจะเรียกว่าหมดเปลือกกันเลยทีเดียว

การเสนอตัวออกมาในครั้งนี้ แม้ว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะพยายามปฏิเสธว่าเขา“ไม่ใช่คนกลาง” หลังจากถูกรุมตำหนิอย่างรุนแรงจากมวลชน กปปส.รวมถึง กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่กังยืนหยัดต่อสู้เพื่อขับไล่ระบอบทักษิณ มานานร่วม 6 เดือนแล้ว รวมทั้งคนที่เคยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ สนับสนุนตัวเขามาอย่างยาวนาน หลายคนถึงกับช็อกอึ้งพูดไม่ออกกับท่าทีล่าสุดของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการแตะมือขอเจรจากับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมทั้งกับ ทักษิณ ชินวัตร เพื่ออ้างว่า “นี่คือทางออกประเทศ” ทั้งที่ในความหมายที่มองเห็นก็คือเป็นทางออกของพวก “นักการเมืองน้ำเน่าและขี้โกง” เท่านั้น และ อภิสิทธิ์ ก็อยู่ร่วมอยู่ในขบวนนั้นแบบเต็มตัวแล้ว

ดังนั้น หากพิจารณาจากท่าทีที่สะท้อนออกมาจากรอบข้าง โดยเฉพาะจากมวลชน กปปส.ซึ่งเป็นมวลชนหลักที่พร้อมสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และท่าทีปฏิเสธอย่างชัดเจนจาก สุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะคนเคยใกล้ชิดกันมานาน ทำให้ความหวังของเขาต้องล้มเหลวไปในทันที กลายสภาพเป็น “ตัวตลกทางการเมือง” ในชั่วข้ามคืน ขณะเดียวกันทำให้อนาคตทางการเมืองดับวูบลงไปทันที เพราะต้องไม่ลืมว่าในท่ามกลางของมวลชนที่ “ตื่นรู้” ชนิดที่เรียกว่ามีข้อมูลทางการเมืองสูง สูงมากกว่านักการเมืองทั่วไปแบบนี้มันถึงเป็นเรื่องยากที่จะ “สร้างภาพ” หลอกต้มกันได้ง่ายอีกต่อไป

การที่อ้างว่าตัวเองไม่ใช่คนกลาง และต้องการหาทางออกให้กับประเทศนั้น ถือว่าเป็นคำพูดที่สะท้อนบุคลิกของ เขามาตลอดนั่นคือจะ “พลิ้ว” ไปได้เรื่อยไม่เคยยอมรับแบบตรงไปตรงมาสักครั้งเดียว มีแต่วาทะสวยหรู คำพูดเท่ๆ ในแบบทางวิชาการออกมาให้เห็นเสมอ แต่ไม่เคยจับต้องได้เลย การที่เขาเที่ยวเดินสายไปพบปะคนนั้นคนนี้ เริ่มจากไปพบกับ ปลัดกระทรวงยุติธรรม แล้วมาถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุด และเป้าหมายต่อไปจะไปหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง รวมทั้งตัวแทนรัฐบาลโดยมีเป้าหมายที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ ทักษิณ ชินวัตร มาร่วมวงสนทนาด้วย ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวนี่แหละที่ทำให้ชาวบ้านที่เป็นมวลชน กปปส.รับไม่ได้ เพราะมันเหมือนกับการ “ทรยศ”

แน่นอนว่าเสียงตำหนิที่ออกมาดังเซ็งแซ่ มันไม่ใช่ “แผนเสี้ยม” มาทำลายกันเองระหว่างผู้สนับสนุนไม่ว่าจะเป็น กปปส.มวลชนประชาธิปัตย์ อย่างที่คนใกล้ชิดของอภิสิทธิ์ และอยู่ในเกมเดียวกันพยายามกล่าวหาแก้เกี้ยว เมื่อแผนการถูกปฏิเสธ และถูกตำหนิอย่างรุนแรง

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณากันตามความเป็นจริงแล้วความพยายามในการเคลื่อนไหวของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในคราวนี้ก็ไม่มีทางสำเร็จ เพราะคนที่เดินไปหาล้วนไม่มีศักยภาพที่จะชี้นำสังคมได้ ไม่ว่าจะเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ขณะที่หากมีการเปิดโอกาสให้มีการพูดคุยกับ ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ เกิดขึ้นจริง คำถามก็คือแล้วมวลชนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามอย่าง กปปส. ที่มองทักษิณเป็นโจรชั่วทำลายบ้านเมือง แล้ว อภิสิทธิ์ ไปนั่งพูดคุย ภาพที่ออกมามันน่าทุเรศเพียงใด

เอาเป็นว่าปรากฏการณ์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เที่ยวนี้ล้มเหลวตั้งแต่เริ่มต้น และดับอนาคตทางการเมืองของเขาลงแบบสิ้นเชิง เพราะเสียงสะท้อนที่ออกมามีแต่ผลลบ เนื่องจากมวลชนที่เคยสนับสนุนต่างก็ไม่เอาด้วยแล้ว ขณะที่มวลชนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยแม้ว่า ทักษิณ จะกดปุ่มได้ แต่เมื่อเห็นว่าเดินต่อไปไม่ได้เจรจาไม่สำเร็จ แม้ว่าจะมีความเข้าใจว่าจะมีการต่อรองในทางลับกันมาก่อนเรื่อง “สมประโยชน์ทางการเมือง” ก็ตาม แต่นาทีนี้มันจบเห่แล้ว โดยเฉพาะอนาคตของคนที่สำคัญผิดคิดว่าเป็นฮีโร่แต่ดันผิดคิวจึงต้องดับอนาถไงล่ะ!!
สุเทพ เทือสุบรรณ
ทักษิณ ชินวัตร
กำลังโหลดความคิดเห็น