รายงานการเมือง
ไม่เหนือความคาดหมายแต่อย่างใดกับภาพมวลชนคนเสื้อแดงแห่ร่างไร้วิญญาณของ “ไม้หนึ่ง ก.กุนที” หรือ “กมล ดวงผาสุก” กวีคนเสื้อแดง ออกจากโรงพยาบาลตำรวจไปยังที่หมายวัดเสมียนนารี ซึ่งกำหนดเป็นสถานที่ทำพิธีทางศาสนา
ต้องยอมรับว่า การที่ “ไม้หนึ่ง ก.กุนที” ถูกยิงเสียชีวิตที่ลานจอดรถของร้านอาหารย่านลาดปลาเค้า กทม. กลางวันแสกๆ ถือเป็นการสังหารอย่างอุกอาจอย่างมาก
เพียงแต่ปมการสังหารครั้งนี้ยังอึมครึมอยู่ในม่านหมอก
ฟากฝั่งคนเสื้อแดงก็ร้องแรกแหกกระเชอทันทีว่าเกี่ยวข้องกับการเมือง ถือเป็นการรวบรัดตัดตอนโดยไม่รอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่
แม้ระยะหลัง “ไม้หนึ่ง” จะเริ่มมีบทบาทในการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงขึ้นมา โดยเฉพาะกับบทบาทแกนนำ “กลุ่มปฏิญญาหน้าศาล” ที่เรียกร้องให้ปลดปล่อยนักโทษคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ รวมทั้งการรณรงค์ให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ก็ตาม
เอาเข้าจริง “ไม้หนึ่ง” ที่อาจเป็นที่รู้จักกันในนามกวีคนเสื้อแดง แต่หากจัดลำดับความสำคัญในระดับสายบังคับบัญชาของ “คนเสื้อแดง” แล้วเรียกได้ว่าแทบจะโนเนม ไม่มีตัวตนในสนามมากมายอะไรนัก จะมีชื่อเป็นที่ยอมรับในกลุ่มคนเสื้อแดง ก็เพียงผู้ที่มีจุดยืนที่ชัดเจนต่อเรื่อง “สถาบัน”
ถึงนาทีนี้ปมสังหาร “ไม้หนึ่ง” ยังไม่มีข้อสรุปจาก “เจ้าหน้าที่ตำรวจ” แต่หลายคนค่อนข้างสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากปม “ชู้สาว” เสียมากกว่า
เพราะมีข้อมูลเชิงลึกว่า ผู้ตายอุปนิสัยเป็น “คนเจ้าชู้”
สาวคนสนิทรายล่าสุดก็มีชื่อ “อาจารย์หวาน” สุดา รังกุพันธ์ ที่ใกล้ชิดกันจากการทำกิจกรรมของกลุ่มปฏิญญาหน้าศาล โดย “อาจารย์หวาน” ก็เพิ่งตกเป็นข่าวครึกโครมไม่นานนี้ เมื่อถูกเลิกจ้างโดยคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จับอาการ “เป็ดเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้รอบรู้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับ “คนเสื้อแดง” ยังไม่กล้าฟันธงว่าปมสังหารมาจากความขัดแย้งทางการเมือง โดยบอกเพียงว่า “น่าจะเป็นเรื่องการเมืองหรือส่วนตัว ยังฟันธงไม่ได้ ต้องรอรายงานก่อน”
ขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับเสียงเพรียกของคนเสื้อแดงที่พยายามตีปี๊บว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับการเมืองเพียงอย่างเดียว คำพูดของ “เฉลิม” น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะอย่างน้อยก็ต้องมีข้อมูลเชิงลึกจากคนเสื้อแดงบางสายที่รายงานผ่าน “บิ๊กแจ้ด” พล.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. แต่กลับไม่ให้ท้ายมวลชนคนเสื้อแดงเหมือนที่ผ่านๆ มา
ลองถ้าระดับ “ป๋าเหลิม” ลูกพี่ของ “บิ๊กแจ้ด” ไม่ฟันธงแล้วละก็ เรื่องความขัดแย้งทางการเมืองแทบจะตัดทิ้งได้เลย เพราะหากมีมูลเหตุการสังหารมาจากปมการเมืองจริง คนอย่าง “เป็ดเหลิม” มีหรือที่จะปล่อยให้โอกาสหลุดมือ
อย่างน้อยๆ ก็หาเรื่องใส่ร้าย กปปส. ชิงพื้นที่ข่าวไปได้หลายวัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพยายามของ “แดงไซเบอร์” ที่เชื่อมโยงการสังหาร “ไม้หนึ่ง” กับการก่อตั้ง “องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน” ของกลุ่ม พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ ที่ออกตัวมาเป็น “โต้โผ” ในการไล่ล่าพวกเนรคุณหมิ่นสถาบัน
โดยเมื่อไม่กี่วันก่อนมีการอ้างข้อความจากแฟนเพจเฟซบุ๊กของ “องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน” ระบุตอนหนึ่งว่า “...องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน มีความจำเป็นต้องจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธที่มีขีดความสามารถอย่างเพียงพอที่จะรับมือกับอาวุธสงครามจากกองกำลังติดอาวุธของขบวนการก่อการร้ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ...”
กลุ่มคนเสื้อแดงจึงนำเรื่องราวมาจับต้นชนปลายว่า การบุกยิง “ไม้หนึ่ง” เป็นฝีมือของกองกำลังติดอาวุธที่ว่า เพื่อโยงว่าเป็นปมเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองล้านเปอร์เซ็นต์ ทั้งที่ฝ่ายตำรวจเองแม้ว่ายังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง แต่ก็ยอมรับว่าเพิ่มน้ำหนักไปที่ปม “ชู้สาว” มากกว่า
อีกทั้งหากติดตามบรรดา “แกนนำแดง” ก็จะพบว่า หากใครออกมามีบทบาท มีหน้ามีตาเป็นที่ยอมรับสักหน่อย ก็มักจะมี “แฟนคลับ” ที่เป็น “หญิงสาว” มาลุ่มหลงติดพันเป็นเรื่องปกติ
ยิ่งย้อนวีรกรรมของ “แกนนำแดง” บางคน ถึงขั้นที่มีข่าวทางลับหลุดออกมาว่า “แฟนคลับสาว” ตกหลุมรัก จนไปกันสมสู่ไปไหนมาไหนด้วยกันหลายครั้ง จน “เมียที่บ้าน” จับได้ มีการลงโทษกักกันบริเวณก็หลายครั้ง หรือสั่งเปลี่ยนทีม รปภ. ใหม่ยกชุด เพราะสืบสาวราวเรื่องได้ว่า รปภ. หรือการ์ดที่อยู่เคียงข้างตามเงาตลอดเวลา
รู้เห็นเป็นใจให้ “แกนนำแดง” มีบ้านเล็กบ้านน้อยด้วย
ซึ่งระยะหลัง “ไม้หนึ่ง” ก็เป็นหนึ่งในนั้น อีกทั้งด้วยพื้นฐานของกวีเจ้าคารมเป็นทุน เรื่องเจ้าชู้ประตูดินก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ทว่าในขณะที่ปมสังหารยังไม่ชัดเจน ชื่อและร่างไร้วิญญาณของ “ไม้หนึ่ง” กลับถูก “นักฉวยโอกาส” อย่าง “พรรคเพื่อไทย - แกนนำแดง - แดงไซเบอร์” นำไปปั่นกระแสให้เป็นประเด็นการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ที่น่ารังเกียจที่สุดคงหนีไม่พ้น “อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ได้ดิบได้ดีมาจากการเป็น “แดงหากิน” ปั่นกระแสเลยเถิดว่า อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของ “สงครามกลางเมือง”
หรือบรรดานักเลงคีย์บอร์ด “แดงไซเบอร์” ไปไกลจนมีการระบุว่าเป็นฝีมือของ “ทหาร” ที่คอยแอบช่วยเหลือ กปปส. มีการสั่งให้ “แกนนำแดง” ทุกระดับระวังตัวรอบทิศรอบทาง
หนำซ้ำยังปลุกมวลชนให้โกรธ-เกลียด-แค้น “ทหาร” มากขึ้น
คำถามตามมาว่า หาก “ขั้วตรงข้าม” จะสังหาร “คนเสื้อแดง” เหตุใดไม่พุ่งเป้าไปที่ “ขาใหญ่” ให้สะเทือนถึงการเคลื่อนไหว หรือ “พวกปากดี” อย่าง “โกตี๋” เพราะลำพังคนระดับ “ไม้หนึ่ง” คงไม่มีเพาเวอร์หรือมีความสำคัญถึงขนาดสั่งการให้สังหารกลางวันแสกๆ เช่นนี้
มองเหตุผลจูงใจที่ “ขั้วตรงข้าม” จะพุ่งเป้าสังหาร “ไม้หนึ่ง ก.กุนที” มุมไหน ก็มองไม่ออกสักมุม จึงแทบที่จะฟันธงได้เลยว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง อีกทั้ง “แกนนำแดง” แต่ละรายก็ใช่ว่าประวัติจะบริสุทธิ์ผุดผ่อง ปฏิเสธไม่ได้ว่า “บางคน” มีความแค้นส่วนตัว ซึ่งอยู่นอกเหนือปมการเมืองรวมอยู่ด้วย ฉะนั้นหากจะโยนปมสังหารมาเกี่ยวพันกับการเมืองทั้งหมดคงไม่ได้
คงจะมีแต่เพียง “เพื่อน” คนเสื้อแดงที่เห็นดีเห็นงามกับการที่ใช้ “ศพ” เพื่อนร่วมอุดมการณ์ ใส่สีตีไข่ หลังปลุกให้เกิดการแก้แค้น ปลุกระดมสาวกตัวเองออกมา หวังฉุดเรตติ้งที่ตกต่ำดิ่งเหว
หรือฝันหวานไปถึง “สงครามกลางเมือง” อย่างที่ชอบพูดนักพูดหนา
