เป็นที่รู้กันดีว่าสื่อออนไลน์อินเทอร์เน็ตสามารถช่วยทำให้เราเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้ อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ง่ายเพียงใช้มือคลิกเท่านั้น เราสามารถใช้มันอ่านข่าวสารที่อัปเดตเนื้อหาใหม่ๆ ตลอดทั้งวัน ใช้ดูรายการโทรทัศน์ได้ทุกช่อง ใช้สืบค้นข้อมูลต่างๆ ที่อยากรู้ หรือติดต่อสื่อสารกับคนอื่นซึ่งไม่ว่าคนเหล่านั้นจะอยู่กันไกลกันคนละมุมโลก ก็ยังสามารถพูดคุยกันได้แบบทันใจ ซึ่งด้วยความที่สื่อออนไลน์และอินเทอร์เน็ตสามารถตอบสนองต่อการใช้ชีวิต ประจำวันที่ทำให้ชีวิตแสนสะดวกสบาย ง่ายดายและสนุกสนานแบบนี้ จึงทำให้คนมากมายติดอยู่ในวังวนของสังคมแบบใหม่ ที่เรียกว่า “สังคมออนไลน์” นี่เอง
สังคมออนไลน์มีทั้งด้านดีและด้านร้าย ด้านดีก็คือการช่วยย่อโลกของเราให้เล็กลงในการรู้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ การค้นคว้าหาข้อมูลความรู้ในทุกศาสตร์ทุกแขนงได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งช่วยให้ผู้คนติดต่อสื่อสารกันได้รวดเร็วขึ้น ส่วนด้านร้ายของสังคมออนไลน์ก็มีมากมายเช่นเดียวกัน เช่น การใช้เป็นช่องทางในการกระทำผิดทางกฎหมาย การทำลามกอนาจาร การทำผิดศีลธรรม การแสดงความก้าวร้าวผ่านตัวอักษรและรูปภาพ การทำลายชื่อเสียงด้วยการด่าว่า ใส่ความหรือประจานให้ผู้อื่นได้รับความอับอายและเสียหาย ซึ่งพฤติกรรมด้านร้ายยิ่งนับวันยิ่งจะมีความรุนแรงและควบคุมได้ยากมากขึ้น โดยเรามักจะเรียกกลุ่มบุคคลที่กระทำความเสียหายและความรุนแรงผ่านทางสังคม สื่อออนไลน์นี้ว่า “นักเลงอินเทอร์เน็ต” บ้าง “นักเลงคีย์บอร์ด” บ้าง หรือพวก “เกรียนอินเทอร์เน็ต” บ้าง
คุณเป็นเกรียนอินเทอร์เน็ตหรือเปล่า? / ดร.แพง ชินพงศ์
สาเหตุของคนที่เป็นพวกเกรียนอินเตอร์เน็ต มีดังนี้
1. เกรียน เพราะเสพติดสังคมออนไลน์ แน่นอนว่าบุคคลที่มีพฤติกรรมเป็นเกรียนอินเทอร์เน็ตมักจะเป็นผู้ที่เสพติด สังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และชอบท่องเว็บเพจต่างๆ เป็นอย่างมาก ซึ่งคนที่เสพติดสังคมออนไลน์จะมีอาการทุรนทุรายมากถ้าไม่ได้เข้าอินเทอร์เน็ต และมักจะใช้เวลาอยู่กับสื่อออนไลน์เกินวันละ 5 ชั่วโมง เป็นอาการที่เสพติดเหมือนกับคนติดสารเสพติดประเภทต่างๆ คนประเภทนี้จะชอบเข้าเวปเพจที่สามารถโพสต์กระทู้ต่างๆ หรือแสดงความคิดเห็นได้ ยิ่งถ้ามีคนมากด like มา share หรือมาตอบโต้ความคิดเห็นของตนเอง ก็จะรู้สึกภูมิใจและมีความสุขมาก ดังนั้นจึงต้องพยายามตั้งกระทู้หรือมาแสดงความคิดเห็นที่จะกระตุ้นให้ผู้อ่านเกิดความสนใจ โดยไม่แคร์ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และไม่สนใจว่ามันจะเป็นเรื่องที่ทำให้คนอื่นเสียหายหรือเปล่า เพราะเขาเหล่านี้ต้องการแค่ให้คนอื่นสนใจตนเองเท่านั้นก็พอแล้ว
2. เกรียน เพราะเก็บกด กลุ่มเกรียนอินเทอร์เน็ตกลุ่มนี้มีตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ที่ต้องการหาพื้นที่ในการปลดปล่อยความเครียดจากการเรียน การทำงานหรือจากปัญหาส่วนตัว โดยการเข้ามาแสวงหาความสนุกสะใจ ยิ่งถ้าได้แชตโต้ตอบหรือปั่นหัวผู้อื่นได้ ยิ่งรู้สึกว่าได้รับอิสระและได้ปลดปล่อยอารมณ์เครียดได้อย่างดี ซึ่งบางคนในกลุ่มนี้อาจจะมีพฤติกรรมก้าวร้าวร่วมด้วย ยิ่งถ้าได้พิมพ์ถ้อยคำที่เย้าแหย่ให้คนอื่นได้อาย ยิ่งรู้สึกสนุกและสะใจ เกรียนอินเทอร์เน็ตประเภทนี้มีอยู่เยอะมากทีเดียว
3. เกรียน เพราะอยากเป็นที่ยอมรับและเป็นผู้ชนะ มีผู้คนมากมายที่ในโลกของความเป็นจริงนั้นล้มเหลว พ่ายแพ้ รู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอ ถูกรังแก ไม่มีคุณค่าและไม่ได้รับการยอมรับจากผู้คน บางคนอาจมีปัญหาเรื่องหน้าตาและบุคลิกภาพร่วมด้วย ดังนั้น คนเหล่านี้จึงแสวงหาพื้นที่ในการที่จะแสดงออกให้เป็นที่ยอมรับในสังคม ซึ่งสังคมที่คนเหล่านี้เลือกก็คงไม่พ้นสังคมออนไลน์นั่นเอง เพราะว่าเป็นสังคมที่ไม่ต้องเปิดเผยตัวจริง ไม่ต้องเห็นหน้าตา ไม่ต้องรับรู้ว่าเป็นใครมาจากไหน จึงสามารถแสดงอารมณ์ ความคิดเห็นส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ไม่มีเบรก ซึ่งเราจะเห็นบุคคลประเภทนี้มีอยู่จำนวนมากตามเว็บบอร์ดต่างๆ ที่เปิดให้แสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะในโพสต์หรือกระทู้ที่นำเสนอเรื่องราวที่มีการถกเถียงกัน เราจะเห็นเกรียนอินเทอร์เน็ตประเภทนี้เข้ามาแสดงตัวโดยการโต้แย้งกับคนที่มีความคิดเห็นแตกต่างแบบหัวชนฝา ถึงพริกถึงขิง ชนิดที่ไม่ยอมลดราวาศอก โดยไม่สนใจว่าความคิดเห็นของตนจะถูกหรือผิด ขอแค่เอาชนะไว้ก่อน บางทีอาจรุนแรงถึงขนาดใช้ถ้อยคำหยาบคายเลยก็มี
4.เกรียนเพราะมีจุดประสงค์ กลุ่มเกรียนอินเทอร์เน็ตกลุ่มนี้ถือว่ามีอันตรายมากที่สุด โดยมักมีจุดประสงค์ไม่ดีแอบแฝง เช่น แชตหลอกหญิงสาวหรือชายหนุ่มให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย หรือได้รับการว่าจ้างจากคนบางกลุ่มให้เขียนถ้อยคำหรือลงรูปภาพที่บิดเบือน ความจริงในการใส่ร้ายป้ายสีให้ผู้อื่นอับอายเสื่อมเสียชื่อเสียง เช่น กล่าวหาว่าเป็นชู้กับคนนี้หรือเป็นเมียน้อยกับคนนั้น หรือบางครั้งกลุ่มเกรียนอินเทอร์เน็ตกลุ่มนี้จะทำการร้ายขนาดลงเรื่องราว รูปภาพและคลิปที่หมิ่นสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งนับว่าเป็นการกระทำที่สมควรได้รับการลงโทษทั้งจากทางกฎหมายและจากทาง สังคมอย่างหนักหน่วงที่สุด
ผู้เขียนได้รับโอกาสในการเขียนบทความ ใน manager online ปีนี้เป็นปีที่ 6 แล้ว รู้สึกชอบมากเวลาที่มีผู้อ่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความ แม้ว่าในบางครั้งจะมีนักเลงคีย์บอร์ด หรือเกรียนอินเทอร์เน็ตเข้ามาแวะเวียน ทักทายบ้าง ผู้เขียนก็ไม่ได้โกรธหรือไม่เคยรู้สึกไม่ดีแต่อย่างใด เพราะอย่างน้อยก็ยังรู้สึกขอบคุณที่เขาได้คลิกเข้ามาในบทความของเราและได้ อ่านบทความที่เราพยายามจะเขียนอย่างดีที่สุดเพื่อเป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่าน ไม่มากก็น้อย แต่อย่างไรก็ตาม ข้อความที่สร้างสรรค์ในสังคมออนไลน์ก็นำความชื่นบานมาให้กับทุกคนเสมอ