xs
xsm
sm
md
lg

ศอ.รส.แถลงการณ์ฉบับที่ 2 ขู่มวลชนร่วมชุมนุม กปปส.อาจเจอข้อหาร่วมกระทำผิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศอ.รส.ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 เปิดผลสอบข้อหากบฏ “สุเทพ” พร้อมแกนนำ กปปส.เสร็จสมบูรณ์แล้ว เตรียมชงอัยการส่งฟ้องศาล พร้อมเตือนมวลชนอย่าหลงเชืร่อแกนนำชักชวนชุมนุมใหญ่ไล่ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” ฝ่าฝืนเจอข้อหาร่วมกันกระทำผิด สั่งเจ้าหน้าที่เร่งจับกุมแกนนำ กปปส.มาดำเนินคดี ยันฟันแกนนำทุกกลุ่มไม่เลือกปฏิบัติ

นายธันว์ พีรวุฒิ คณะทำงานศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) อ่านแถลงการณ์ ศอ.รส.ฉบับที่ 2 เรื่อง “การดำเนินคดีต่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำ กปปส. และแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมชุมนุม”

แถลงการณ์ระบุว่า ศอ.รส.เป็นหน่วยงานพิเศษที่จัดตั้งขึ้น ตาม พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดย ศอ.รส.มีภารกิจสำคัญในการสนธิกำลังทั้งข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ และข้าราชการพลเรือน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงต่างๆ เพื่ออำนวยการและปฏิบัติการให้เกิดความเรียบร้อยในทุกมิติ ทั้งในเขตพื้นที่รับผิดชอบ และสังคมในภาพรวม

ทั้งนี้ ตลอดเวลา 37 วันที่ได้มีการจัดตั้ง ศอ.รส.ให้ทำหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการทั้งปวงให้เกิดความสงบเรียบร้อยได้ตลอดมาในระดับหนึ่งนั้น ศอ.รส.ได้ให้ความสำคัญต่อการดำเนินคดีแกนนำผู้จัดการชุมนุมซึ่งมีการกระทำผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่องตลอดมา โดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.และแกนนำ กปปส.ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นคดีพิเศษ มีการสอบสวนร่วมกัน 3 ฝ่าย คือ พนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และพนักงานอัยการของสำนักงานอัยการสูงสุด ในข้อหาฐานความผิดร่วมกันเป็นกบฏ ร่วมกันก่อเหตุความไม่สงบในบ้านเมือง ร่วมกันยุยงให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย ร่วมกันขัดขวางการเลือกตั้ง ร่วมกันบุกรุกสถานที่ราชการ และในฐานความผิดอื่นๆ

ศาลอาญาได้ออกหมายจับนายสุเทพกับพวกในข้อหาฐานความผิดร่วมกันเป็นกบฏดังกล่าว พร้อมแกนนำอื่นๆ อีกหลายคน ซึ่งขณะนี้มีผู้ต้องหารวมทั้งสิ้นถึง 80 คน เช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ, นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย, นายชุมพล จุลใส, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์, นายอิสสระ สมชัย, นายวิทยา แก้วภราดัย, นายถาวร เสนเนียม, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์, น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายนิติธร ล้ำเหลือ, นายอุทัย ยอดมณี, นายถวิล เปลี่ยนศรี, พระพุทธะอิสระ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาบางคนมีข้อหาฐานความผิดเพิ่มเติมเฉพาะตัวอีกด้วย เช่น นายอิสสระ สมชัย ในข้อหาฐานความผิดพยายามฆ่า เป็นต้น ซึ่งได้มีผู้ต้องหาถูกจับกุมแล้ว 2 คน และเข้ามอบตัวอีกจำนวน 6 คน

บัดนี้ การสอบสวนในคดีพิเศษดังกล่าวได้เสร็จสิ้นแล้ว คณะพนักงานสอบสวนจึงได้มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกคน ตั้งแต่นายสุเทพกับพวกที่เป็นแกนนำ กปปส. ตามข้อหาฐานความผิดดังกล่าว โดยกำหนดส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นดังกล่าวไปยังพนักงานอัยการในวันที่ 1 พ.ค. 2557 นี้ คาดว่าพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษจะได้มีคำสั่งทางคดีและฟ้องผู้กระทำผิดได้ภายในวันที่ 10 พ.ค.อันเป็นวันครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้ายของผู้ต้องหาบางคนโดยหากผู้ต้องหาคนใดที่ยังไม่เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ก็จะได้ขอออกหมายจับหลังจากพนักงานอัยการได้มีคำสั่งควรสั่งฟ้องดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ศอ.รส.จึงเห็นสมควรออกแถลงการณ์เพื่อแจ้งให้ประชาชนได้ทราบ ดังต่อไปนี้ ศอ.รส.ให้ความสำคัญต่อการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำผิดเป็นสำคัญ เพราะจะเป็นผลให้สถานการณ์ความไม่สงบคลี่คลายไปได้ ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา และป้องกันมิให้ประชาชนใช้การแก้แค้นลงโทษกันเอง ซึ่งผลการดำเนินคดีได้คืบหน้าไปตามกฎหมายแล้วดังกล่าวมาข้างต้น

อีกทั้ง ศอ.รส.ขอแจ้งเตือนประชาชนได้โปรดเข้าใจว่า การอภิปราย ชักจูง หรือปราศรัยชวนเชื่อ ของนายสุเทพ และแกนนำ กปปส.อยู่ในขณะนี้ เป็นความพยายามของผู้ต้องหาที่มุ่งหวังกระทำการทั้งหลายทั้งปวง เพื่อตัวเองและพวกพ้อง ที่ต้องหาว่ากระทำความผิด และมีหมายจับในฐานร่วมกันเป็นกบฏจากศาล จึงขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณในการรับฟังข้อมูลของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับแกนนำ กปปส. และไม่หลงเชื่อที่จะมีการชักชวนให้ร่วมเข้าชุมนุมใหญ่ในวันที่ 30 เม.ย.นี้ ซึ่งการเข้าร่วมชุมนุมกับแกนนำ กปปส. นั้น นอกจากอาจเป็นผู้ร่วมกระทำผิดตามกฎหมายแล้ยังอาจได้รับอันตราย ตามที่ได้ปรากฏเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องมาด้วย

ทั้งนี้ ศอ.รส.ยืนยันว่าจะได้เร่งรัดให้มีการจับกุมดำเนินคดีกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณกับพวกอย่างเร่งรีบต่อไป โดยคำนึงถึงความสูญเสียของเจ้าหน้าที่และประชาชนด้วย เพราะนายสุเทพ และแกนนำ กปปส.มีการ์ด กปปส.ห้อมล้อมด้วยอาวุธร้ายแรงต่างๆ ดังเป็นที่ทราบกันอยู่ โดย ศอ.รส.มิได้มุ่งหมายดำเนินคดีต่อแกนนำเฉพาะ กปปส.เท่านั้น แต่ได้กำชับให้มีการดำเนินคดีต่อแกนนำผู้กระทำผิดในทุกๆ กลุ่มที่ได้กระทำผิดขึ้นในบ้านเมืองในพื้นที่รับผิดชอบของ ศอ.รส.

อนึ่ง แถลงการณ์ฉบับนี้เป็นความเห็นของฝ่ายบริหาร ศอ.รส. โดยมิได้ขอให้ฝ่ายทหารร่วมแถลง หรือแสดงความเห็นด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น