รองโฆษก พท.ปฏิเสธข่าวแก๊งแดงก่อจลาจลทำร้าย กกต. อ้างแค่ปิดล้อมศาลกลางลำพูน หวังแสดงจุดยืน โยน “สมชัย” ต้นเหตุ โพสต์รายละเอียการเดินทางหมด ดักคอ ปชป.อย่ายกเป็นเหตุเลือกตั้งไม่ได้ บอกแค่คนกลุ่มเล็กๆ การันตี ปชป.ลงสมัครไปหาเสียงเหนือ อีสานได้สบาย หยัน ม็อบ กปปส.แผ่ว เซเลบหาย เหตุ “สุเทพ” เลี้ยงไข้หวังกินเงินบริจาค ประณามมือบึ้มบ้านปลัด สธ.
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเหตุการณ์กลุ่มคนเสื้อแดงปิดล้อมศาลากลาง จ.ลำพูน เพื่อประท้วงการทำหน้าที่ของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า ส่วนตัวได้เดินทางร่วมคณะไปกับ กกต.ในฐานะนักศึกษาหลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูงรุ่นที่ 5 ที่เดินทางไปเข้ารับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการส่งเสริมประชาธิปไตยใน จ.ลำพูน ขอยืนยันว่าพี่น้องคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมในวันนั้นเพียงเพื่อต้องการแสดงเจตนารมณ์ และแสดงจุดยืนการทำหน้าที่ของ กกต. โดยการชุมนุมดังกล่าวห่างไกลกับคำว่าก่อจลาจล ไม่มีการรุมทำร้ายร่างกาย หรือแม้แต่โดนเนื้อโดนตัว และไม่มีการทำร้ายทรัพย์สินของทางราชการแต่อย่างใด พี่น้องกลุ่มนี้เพียงมาบอกว่าประเทศต้องไปข้างหน้า ทุกคนอยากให้มีการเลือกตั้ง และถามไปถึง กกต.ว่าเหตุใดจึงไม่รีบในการจัดการเลือกตั้ง และจะป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาอย่างไร
นายอนุสรณ์กล่าวว่า สาเหตุที่เกิดความวุ่ยวายขึ้นก็เนื่องมาจากนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ที่เป็นผู้โพสต์รายละเอียดทั้งหมดเองว่าจะเดินทางไปที่ไหนอย่างไร ขณะที่นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.ก็ไม่ได้แสดงความวิตก ออกมารับข้อเสนอแนะและรับฟังแถลงการณ์ของกลุ่มคนเสื้อแดงด้วยตัวเอง
ส่วนการที่พรรคประชาธิปัตย์นำเหตุการณ์ที่ จ.ลำพูน มาอ้างว่าความขัดแย้งในประเทศยังสูงอยู่ แสดงว่าไม่พร้อมที่จะมีการเลือกตั้ง ตรงนี้ถือเป็นเป็นการตั้งข้อสังเกต เพื่อประโยชน์แก่ฝ่ายตัวเองเท่านั้น เพราะไม่ควรนำเหตุการณ์เล็กๆ ที่ จ.ลำพูนมาตัดสินภาพรวมทั้งหมด เพราะประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว ทั้งนี้หากมีการจัดเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยขอยืนยันพรรคประชาธิปัตย์สามารถไปหาเสียงได้ทั้งในภาคเหนือและอีสานโดยไม่ถูกคุกคาม ในทางกลับกันพรรคเพื่อไทยต่างหากที่ต้องวิตกในการไปหาเสียงในพื้นที่ภาคใต้ เพราะจากการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่า มีผู้ที่พร้อมก่อจลาจลและทำทุกวิธีทางในการล้มการเลือกตั้ง
นายอนุสรณ์ยังได้กล่าวตั้งข้อสังเกตถึงการปราศรัยของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ในระยะหลังว่า ก่อนหน้านี้นายสุเทพจะอ้างถึงแนวทางการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง แต่มาในระยะหลังๆ ตนสังเกตว่า มักจะประกาศไปในเชิงว่า หาก กปปส.ไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ ประเทศไทยก็อย่าหวังจะมีการเลือกตั้ง ตรงจุดนี้จึงอยากถามไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะสถาบันการเมือง แลพรรคการเมืองเก่าแก่ว่า ได้ยินเช่นนี้แล้วรู้สึกอย่างไรและมีจุดยืนอย่างไร หรือแท้ที่จริงแล้วพรรคประชาธิปัตย์สมคบคิดกับ กปปส.ในการบอยคอตการเลือกตั้ง ให้มวลชนก่อจลาจลให้เกิดสุญญากาศ คล้ายจะยอมยกประเทศทั้งประเทศให้แก่นายสุเทพ อย่างไรก็ตามประชาชนที่ติดตามข่าวสารจะเป็นผู้ตัดสินเอง และเชื่อว่าสังคมไทยไม่ยอมแน่
รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวอีกว่า หากสังเกตุในช่วงหลังๆจะเห็นได้ว่า มวลชนที่สนับสนุนนายสุเทพและ กปปส.เริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด เซเลบริตีผู้มีชื่อเสียงต่างๆ หรือพี่น้องประชาชนเริ่มร่อยหรอลงไปมาก เพราะต่างเห็นว่า นายสุเทพเลี้ยงไข้การชุมนุม ประวิงเวลารับเงินบริจาคซึ่งได้วันละหลายล้านบาทเท่านั้น
ในส่วนเหตุการณ์คนร้ายปาระเบิดใส่บ้านพักของ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา (19 เม.ย.) นั้น นายอนุสรณ์กล่าวว่า ขอประณามผู้ก่อเหตุ ผู้แสวงหาประโยชน์จากเหตุการณ์ครั้งนี้ รวมทั้งขอเรียกร้องให้ไม่ควรมีการกดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ซึ่งควรได้ทำหน้าที่โดยปราศจากซึ่งแรงกดดัน ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยไม่สบายใจที่ขณะนี้มีกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์หลายกลุ่ม ออกมาแถลงสร้างความสับสนให้แก่สังคม อีกทั้งยังเป็นการนำไปสู่ยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้าอีกด้วย ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้บรรดาข้าราชการทุกกระทรวงว่า อย่านำจุดยืนและข้อคิดเห็นทางการเมืองของผู้นำองค์กรมาเป็นที่ตั้งในการเคลื่อนไหวต่างๆ และมากำหนดแนวทางจุดยืนทางการเมืองของข้าราชการทั้งกระทรวง อย่าเพียงต้องการเอาแค่ปลัดกระทรวง แล้วออกมาปกป้องกันเต็มที่ รวมทั้งทึกทักเอาว่า ความเห็นของของผู้นำสูงสุดขององค์กรเป็นจุดยืนของหน่วยงาน