xs
xsm
sm
md
lg

ปลัด สธ.เชื่อหมอชูป้าย “หนีคนไข้มาไล่อีปู” ไม่ได้หนีงานมาม็อบ ห่วงชุมนุมเสี่ยงมากขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปลัด สธ.ห่วงชุมนุมการเมืองเสี่ยงอันตรายมากขึ้น เหตุเข้าใกล้วันเลือกตั้ง กำชับเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพดูแลเต็มกำลัง มั่นใจหมอถือป้าย “หนีคนไข้มาไล่ปู” ไม่น่าใช่การหนีงานหรือมาในเวลางาน เชื่อว่ามาหลังเลิกงานทั้งนั้น ชี้ออกมาชุมนุมได้ตามสิทธิแต่ต้องไม่ลืมหน้าที่
แฟ้มภาพ
วันนี้ (21 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีชุมนุมทางการเมือง (ส่วนหน้า) กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) 18 จังหวัด ว่าจากการสรุปรายงานเหตุการณ์เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ขึ้น 2 ครั้ง คือ เวลา 20.00 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณที่ชุมนุมของ กปปส.สีลม และ 23.00 น. เกิดเหตุเสียงดังคล้ายระเบิดที่บริเวณพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ พบเพียงเหตุทะเลาะวิวาทกันเองของผู้ชุมนุม มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน นำส่ง รพ.ราชวิถี อาการไม่สาหัส ทำการรักษาแล้วสามารถกลับบ้านได้ทันที สำหรับผู้บาดเจ็บสะสมตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2556 มีทั้งสิ้น 272 ราย ยังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 25 ราย และเสียชีวิต 4 ราย

นพ.วชิระกล่าวอีกว่า การดูแลผู้ชุมนุมของ สธ.ยังคงใช้ทีมกู้ชีพชั้นสูงจากภูมิภาคสนธิกำลังกับทีมของกรมการแพทย์ รวม 13 ทีม ประจำตามจุดที่ได้รับมอบหมายเช่นเดิม โดยพื้นที่ที่มีความเสี่ยงคือ บริเวณที่ผู้ชุมนุมจะเดินทางไปปิดหน่วยราชการ เช่น ทีโอที สีลม ตรอกจันทร์ ส่วนในภูมิภาคคือ จ.ภูเก็ต ซึ่งจะมีการเคลื่อนศพของนายประคอง ชูจันทร์ กลับไปสวดอภิธรรมศพ ทั้งนี้ได้รับรายงานจากภูมิภาคว่า พื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ไม่มีเหตุรุนแรง มีเพียงการปิดสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จ.นครศรีธรรมราช แต่เป็นเพียงการปิดเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น คือเจ้าหน้าที่ยังคงทำงานได้ ส่วนหน่วยบริการสุขภาพไม่มีการปิดแต่อย่างใด ยังคงให้บริการประชาชนตามปกติ รวมถึงเตรียมความพร้อมด้านฉุกเฉินและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนอีก 4 จังหวัดที่มีความเสี่ยงพบว่า จ.นนทบุรี ไม่มีการชุมนุม ไม่มีเหตุรุนแรง จ.ราชบุรี มีการปิดล้อมศาลากลางจังหวัด แต่เจ้าหน้าที่ยังคงทำงานตามปกติ จ.บุรีรัมย์ ไม่มีการปิดส่วนราชการ แต่มีการรวมกลุ่มของ กปปส.ทุกเย็น และ จ.พิจิตร มีการล้อม สสจ. และศาลากลางจังหวัด ซึ่งแต่ละจังหวัดยังคงเตรียมพร้อมรับมือเหตุการณ์ต่างๆ ตามปกติ

“สธ.ยังคงยืนยันข้อสั่งการในการจัดตั้งวอร์รูมเหตุการณ์ 18 จังหวัด โดยให้เตรียมความพร้อมฉุกเฉินและดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง ส่วนการรายงานเหตุการณ์ในแต่ละพื้นที่ให้รายงานวันละครั้ง แต่หากมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นให้รีบรายงานทันที นอกจากนี้ จะยกระดับสื่อสารทางวิทยุด้วย” รองปลัด สธ.กล่าว

นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ.กล่าวว่า ทุกหน่วยบริการจะต้องบริการประชาชนอย่างเต็มกำลัง ซึ่งแน่ชัดว่า สธ.จะต้องทำงานหนักขึ้นก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกจังหวัด ที่ส่งแพทย์มาประกอบทีมร่วมกับศูนย์ส่วนหน้า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การชุมนุมมีความเสี่ยงสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นช่วงใกล้ก่อนวันเลือกตั้งโอกาสเสี่ยงต่างๆ จึงมีสูง ก็ขอให้ทุกคนทำงานอย่างเต็มกำลัง

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีบุคลากรสาธารณสุข เช่น แพทย์ พยาบาล ออกมาชุมนุมร่วมกับ กปปส.โดยเดินรณรงค์ให้ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ตั้งแตจ่แยกปทุมวันจนถึงแยกอโศก แต่มีการชูป้าย “หนีคนไข้มาไล่ปู” ซึ่งดูเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพ จะมีการตักเตือนหรือสอบถามหรือไม่ นพ.ณรงค์กล่าวว่า การออกมาชุมนุมก็ถือว่าเป็นสิทธิที่พึงมี แต่ต้องไม่ลืมว่าสิทธิต้องควบคู่กับหน้าที่ด้วย แต่ตนเชื่อว่าผู้ที่มาร่วมชุมนุมต่างก็มาในเวลาเลิกงานแล้ว ไม่น่าจะเป็นการหนีงาน หรือหนีผู้ป่วยมาชุมนุมแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม อยากให้บุคลากรที่มาร่วมชุมนุมระมัดระวังในการเขียนป้ายด้วย

ด้าน พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากการสำรวจความเครียดเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองพบว่าค่อยๆ ไต่ระดับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตัวปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุตึงเครียด คือ 1. อยู่ใกล้ที่ชุมนุมทำให้ไม่สามารถดำเนินชีวิตตามปกติได้ เช่น การเดินทาง 2. ได้รับข่าวสารมากกว่าปกติที่ผ่านมา และ 3. เรื่องของความรุนแรง ทั้งนี้ระบบครอบครัวเป็นหน่วยที่ใกล้ชิดที่สุด แม้จะมีการเห็นต่าง แต่หากครอบครัวมีการดูแลซึ่งกันและกัน สามารถรักษาความสัมพันธ์ไว้ได้ ก็จะรักษาความสัมพันธ์ในระบบที่ใหญ่กว่าครอบครัวได้

นพ.นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้เฝ้าระวังการระบาดของโรคต่างๆ จากการชุมนุมซึ่งมีคนมาอยู่รวมกันเยอะๆ และยังมีสภาพอากาศที่หนาวเย็น แต่พบว่าไม่มีการระบาดใดๆ เกิดขึ้น ทั้งไข้หวัด อาหารเป็นพิษ ซึ่งคาดว่าอาจเป็นเพราะมีหน่วยแพทย์เข้าไปประจำตามจุดต่างๆ สามารถดูแลแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี


กำลังโหลดความคิดเห็น