“สุรพงษ์” ราวีปลัดสาธารณสุขไม่เลิก อ้างฝ่าฝืนคำสั่งไม่ร่วมประชุม ศอ.รส. ไล่ให้ลาออก สั่งปลัดจัดทำงบฯ ปี 58 ไม่ต้องรอ ครม.ใหม่ บอกช้าประเทศเสียหาย เหิมยันข้อเสนอให้ ครม.ทูลเกล้าฯ ขอพระบรมราชวินิจฉัยหลังเกิดสุญญากาศทางการเมือง ไม่ก้าวล่วงพระราชอำนาจแต่เป็นสิทธิ อ้างต่างชาติจับตามองกระบวนการยุติธรรมของไทยไม่เป็นธรรม ระบุ “ยิ่งลักษณ์” ไม่ว่าแถลงการณ์ ศอ.รส. ให้อิสระเต็มที่
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักาาการรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ในฐานประธานที่ปรึกษาศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวถึงผลการเรียกประชุมปลัดกระทรวงเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า สืบเนื่องจากข้อเรียกร้องการจัดตั้งรัฏฐาธิปัตย์ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ไม่ได้อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ หากข้าราชการจะไปมีส่วนร่วมอาจจะมีความผิดทางวินัย เชื่อว่าปลัดทุกกระทรวงจะนำข้อความที่ ศอ.รส.แจ้งไปเล่าให้ข้าราชการแต่ละกระทรวงได้รับทราบ
“น่าเสียดายที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้มารวม ผมได้ให้ฝ่ายเลขานุการ ศอ.รส.ตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่าปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ ศอ.รส.แต่ไม่เคยมาร่วมประชุมเลย ถือเป็นการขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาโดยตรง และการเชิญมาในฐานะปลัดกระทรวงก็ถือเป็นการฝ่ายฝืนคำสั่งของ ศอ.รส.ที่เชิญมาร่วมประชุม และก่อนหน้านี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขถูกตั้งกรรมการตรวจสอบวินัย อันนี้อีก 2 เรื่องรวมเป็น 3 เรื่อง ปลัดกระทรวงสาธารณสุขต้องรับสิ่งที่ตั้งใจฝ่าฝืนอย่างปฏิเสธไม่ได้ ดังนั้นปลัดคงต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง อาจจะลาออกก็ได้ เพราะก็ใกล้เกษียณอยู่แล้ว เพราะหากถูกลงโทษผิดวินัยก็จะเป็นตราบาป ส่วนปลัดกระทรวงยุติธรรมได้ชี้แจงชัดเจนถึงเหตุที่นายสุเทพและพวกเดินทางไปถึงกระทรวง เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาจึงเปิดห้องประชุมพูดคุยกัน ถือเป็นสิ่งที่รับฟังได้ ทาง ศอ.รส.เข้าใจถึงความตั้งใจดังกล่าว”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปลัดกระทรวงไหนเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาต่อ ศอ.รส.เป็นพิเศษหรือไม่ นายสุรพงษ์กล่าวว่า ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ได้พูดถึงความเสียหายจากการประท้วงของ กปปส.ทำให้การจัดทำงบประมาณไม่สามารถทำได้ ส่งผลกระทบต่องบประมาณปี 2558 ซึ่งตนได้ขอให้ปลัดเตรียมจัดทำงบประมาณปี 2558 เพราะจะรอให้คณะรัฐมนตรีเข้ามาดำเนินการคงไม่ทัน เพราะงบประมาณปี 2558 จะต้องเริ่มประมาณเดือนตุลาคม ซึ่งจากการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศเดือนกรกฎคมจะเลือกตั้งเสร็จและกว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ตามที่นายสมชัย ศรีสุทธยากร กกต.พูดไว้นั้นจะเข้าสู่ปีงบประมาณใหม่แล้วซึ่งจะเป็นปัญหาของประเทศ จึงได้กำชับฝ่ายข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่และรู้ขั้นตอนการจัดทำงบประมาณอยู่แล้วให้รีบดำเนินการ
สำหรับแถลงการณ์ของ ศอ.รส.ที่ทาง กปปส.ระบุว่า ศอ.รส.มีความพยายามก้าวล่วงพระราชอำนาจนั้น นายสุรพงษ์กล่าวว่า กปปส.หรือฝ่ายต่างๆ ที่ไม่เข้าใจการทำหน้าที่ของ ศอ.รส.จึงอยากฝากว่า ศอ.รส.ได้ติดตามสถานการณ์การชุมนุมของแต่ละฝ่ายมาในระยะเวลา 6 เดือนเข้าใจปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นและพยายามหาทางแก้ไขไม่ให้เกิดการะปะ เกิดความวุ่นวาย เกิดการสูญเสียชีวิตของทั้งสองฝ่าย และรู้ว่าฝ่ายไหนมีอาวุธ ไม่มีอาวุธ เราเห็นภาพทั้งหมด ดังนั้นแถลงการณ์ ทั้ง 7 ข้อของ ศอ.รส. ต้องการเรียกร้องให้สัมคมไทยหันหน้าเข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหา เราไม่ต้องการเห็นความแตกแยกในประเทศไทย เราต้องการให้ยุติการชุมนุมที่สร้างความเสียหายให้ต่อระบบเศรษฐกิจต่อบ้านเมือง การที่เราจะนำเสนอขอพระบรมราชวินิจฉัยในกรณีที่เกิดสูญญากาศทางการเมือง เราก็มีสิทธิ์ที่จะกราบขอพระบรมราชวินิจฉัย เป็นสิ่งที่เราคิดกันไว้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อประเทศชาติ แต่ฝ่ายนายสุเทพกับพวกทำสิ่งใดเขาก็ไม่เห็นด้วยตลอดเวลา นายสุเทพไม่เคยเคารพความคิดคนอื่น เอาความคิดตนเป็นใหญ่ อาจจะคิดไปว่าตัวเองเป็นประธานาธิบดี ประกาศจัดตั้งรัฏฐาธิปัตย์ วันนี้สังคมไทยต้องคิดให้หนัก ถ้ามีนายสุเทพเป็นผู้นำทางความคิดประเทศชาติไปไม่ถึงไหน วันนี้ประเทศชาติเสียหายกว่าการปะท้วงใดๆ ที่เกิดขึ้นในไทย
ส่วนที่นายกรัฐมนตรียื่นขอขยายเวลาการชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้น ถือเป็นสิทธิของนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องเตรียมหลักฐานต่างๆ ในการชี้แจง ไม่เกี่ยวกับ ศอ.รส. แต่ ศอ.รส.ทำหน้าที่เพื่อให้เกิดความสงบในไทย เราไม่ได้ทำเหมือนสมัย ศอฉ. ที่คิดแต่จะยึดคืนพื้นที่ให้การชุมนุมยุติโดยเร็วโดยใช้กำลังทหาร ตำรวจ เข้าปฏิบัติการ ยืนยัน ศอ.รส.ไม่คิดอย่างนั้น แต่ต้องการเห็นความสงบ ไม่ให้เกิดการปะทะกัน ทำงานด้วยความอดทนอดกลั้น ไม่ได้เรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญต้องพิพากษาอย่างนั้นอย่างนี้ เราต้องการเห็นคำพิพากษาขององค์กรอิสระ ของศาล มีความเป็นธรรม ให้ความยุติธรรม เรียกร้องเท่านั้นเอง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสังคมประชาชนส่วนหนึ่งเกิดข้อสงสัยในการทำงานขององค์กรอิสระ และกระบวนการยุติธรรมในไทย
“วันนี้หากกระบวนการยุติธรรมต่างๆ ในไทยไม่เป็นธรรม ต่างชาติเขาจับตามอง วันหลังเขาก็ไม่คบค้าสมาคมกับไทย เพราะเกรงมาทำธุรกิจแล้วเกิดข้อขัดแย้ง หากศาลไทยเข้าข้างไทยต่างชาติเขาเสียเปรียบ อันนี้จะเป็นผลเสียหายต่อประเทศชาติในอนาคต ดังนั้นอยาากให้เข้าใจกระบวนการยุติธรรมจะต้องเดินไปอย่างเที่ยงธรรม ประเทศชาติถึงจะเดินไปได้”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ศอ.รส.คิดว่าการเสนอให้ ครม.นำเรื่องทูลเกล้าฯในกรณีที่เห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกินขอบเขตอำนาจนั้น เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วใช่หรือไม่ นายสุรพงษ์กล่าวว่า น่าจะเป็นทางออกหนึ่งที่จะช่วยให้สัมคมไทยเดินต่อไปได้ เพราะสิ่งใดที่ศาลวินิจฉัยนอกเหนือจากที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ก็เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เราต้องเรียกร้องผ่านกระบวบการที่เหนือกว่าเพื่อให้ความเป็นธรรมเท่านั้นเอง เราไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่น เพียงต้องการแก้ไขปัญหาประเทศชาติให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่คิดว่าจะเป็นการก้าวล่วงหรือไม่ นายสุรพงษ์กล่าวว่า การทำเช่นนี้กับสิ่งที่นายสุเทพประกาศไม่เลวร้ายยิ่งกว่าเราหรือ และกลุ่มรัฐบุคคลที่ประกาศมาตรา 7 ไม่เลวร้ายกว่าหรือรวมถึงการไปดึงประธานองคมนตรีลงมาด้วย ตรงนี้ต้องคิดเปรียบเทียบว่าสื่งไหนเหมาะสมหรือไม่ สิ่งไหนควรหรือมิบังควร อย่าเอาความคิดตนเองเป็นใหญ่
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีมีความเห็นอย่างไรต่อแถลงการณ์ของ ศอ.รส.ในเรื่องดังกล่าว นายสุรพงษ์กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ติดตามข่าว ศอ.รส. แต่ไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ เพราะให้อิสระ ผอ.ศอ.รส.และพวกตนที่เป็นทีมที่ปรึกษาทำงานที่นี้ นายกฯ ไม่เคยก้าวล่วง ปล่อยอิสระ เพราะเข้าใจการทำงานของ ศอ.รส.ที่ต้องติดตามเหตุการณ์อย่างรอบด้าน ทั้งนี้ข้อเสนอของ ศอ.รส.ดังกล่าวต้องผ่านความเห็นและเป็นการตัดสินใจของ ครม.ในกรณีที่ศาลตัดสินมานอกเหนือรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ เชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูท่าแล้วการเลือกตั้งจะยังไม่เกิดขึ้นใช่หรือไม่ นายสุรพงษ์กล่าวว่า นายสมชัยบอกชัดเจนจะจัดการเลือกตั้งเดือนกรกรกฎาคม โดยรองประธาน กกต.ก็ออกมาขานรับแล้วและคาดจะตั้งรัฐบาลได้เดือนตุลาคม ทั้งนี้เห็นว่าอำนาจอยู่ที่ท่านที่สามารถกำหนดประเทศไทยได้หมด ไม่ใช่คนธรรมดา อยากให้รัฐบาลออกพระราชกฤษฏีกาก็สั่งมา ทำหนังสือมาให้ชัดเจน รัฐบาลก็จะทำหน้าที่ตามอำนาจที่ทำได้ตามกฎหมายกำหนด วันนี้ กกต.อย่ามาอ้างโน้นอ้างนี่ เพราะประเทศชาติเสียหายไปเยอะแล้ว