กปปส. เล็งใช้เสาร์ 5 ทำพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปปางพิชิตมาร ถือฤกษ์เที่ยงวัน ด้าน “ถาวร” ชี้ไร้เหตุผล “ยิ่งลักษณ์” เลื่อนแจงศาลรัฐธรรมนูญ ชี้แค่ประวิงเวลาให้วินิจฉัยล่าช้า แนะยอมรับความผิด จวก ศอ.รส. เป็นกระบอกเสียง “ทักษิณ” ซัด “ชัยเกษม” เสนอเรื่องที่ฆ่าตัวตายกระทำมิบังควร จาบจ้วงมาก
วันนี้ (17 เม.ย.) ที่เวทีสวนลุมพินี บรรยากาศการชุมนุมกลุ่ม กปปส. เป็นไปอย่างเงียบเหงา เนื่องจากผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เดินทางออกไปชุมนุมที่องค์การเภสัชกรรมกับแกนนำ กปปส. ขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วนที่ปักหลักอยู่ภายในพื้นที่การชุมนุมก็พากันพักผ่อนอยู่ภายในเต็นท์ที่พักและใต้ร่มไม้ กระทั่งช่วงบ่ายที่ผู้ชุมนุมเดินทางกลับจากองค์การเภสัชกรรม ทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้นมา โดยบนเวทีปราศรัยมีการแสดงดนตรีสร้างความครึกครื้นให้ผู้ชุมนุมอย่างมาก โดยผู้ชุมนุมบางคนได้มาปักหลักหน้าเวทีเพื่อติดตามกิจกรรมที่มีอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในวันที่ 19 เม.ย. นี้ ตรงกับวันเสาร์ แรม 5 ค่ำ เดือน 5 หรือที่เรียกว่าวันเสาร์ 5 ถือเป็นวันพิเศษ วันแรง วันแข็งตามคติโบราณ ที่ให้คุณทางด้านความสำเร็จสมประสงค์ ถือเป็นฤกษ์มงคลเป็นวันโชคชัย หรือเรียกว่าวันแข็ง หรือวันขลัง ทางแกนนำ กปปส. จะทำพิธีพุทธาภิเษก “พระพุทธรูปปางพิชิตมาร” ภายในสวนลุมพินี โดยพิธีจะเริ่มตั้งแต่เวลา 12.00 น. และดับเทียนชัยมงคลเวลา 18.00 น. เพื่อความเป็นสิริมงคลของผู้ชุมนุม โดยพระพุทธรูปดังกล่าวจะประดิษฐานไว้ภายในสวนลุมพินี
ด้าน นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยื่นหนังสือขอขยายเวลาเข้าชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ 15 วัน กรณีการแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช. โดยมิชอบว่า ข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวอยู่ในมือของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทั้งหมดแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ก็มีการต่อสู้คดีตั้งแต่คณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม จนถึงศาลปกครอง ระยะเวลากว่า 2 ปี ข้อเท็จจริงจึงอยู่ในครอบครองของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทั้งหมดไม่มีเหตุผลจำเป็นต้องขอขยายเวลา และการดำเนินการนี้เป็นเพียงการประวิงเวลาให้การวินิจคดีของศาลรัฐธรรมนูญล่าช้าออกไป ถ้าตนเป็นศาลรัฐธรรมนูญจะไม่อนุญาตให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขยายเวลา ซึ่งขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยอมรับความผิดที่ตัวเองกระทำไว้โดยไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้แล้ว
ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. นายถาวร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ออกแถลงการเรียกร้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และศาลรัฐธรรมนูญ ชี้มูลและวินิจฉัยคดีที่เกี่ยวข้องกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ด้วยความเป็นธรรมว่า การที่เรียกร้องให้ ป.ป.ช. ชี้มูลคดีทุจริตคดีโครงการรับจำนำข้าวเป็นธรรม ทั้งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เป็นผู้อนุมัติงบประมาณ แต่ตอบคำถามไม่ได้ว่าเงินในโครงการหายไปเท่าไหร่ ถือว่าทุจริตบกพร่องต่อหน้าที่ ความเป็นธรรมของ ป.ป.ช. เกิดขึ้นได้ ไม่ได้แกล้งใคร แต่ตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชี้แจงไม่ได้ว่าตัวเองสุจริตหรือไม่ ส่วนการขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เป็นธรรมนั้น กรณีจะวินิจฉัยการแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช. ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี มิชอบนั้น เรื่องนี้นายถวิลไม่ได้ทำผิดก็เป็นการกลั่นแกล้ง ทั้งนี้ ศอ.รส. ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเองที่ต้องดูแลความสงบเรียบร้อย แต่กลับเป็นกระบอกเสียงให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งหากต้องการอะไรก็ใช้ศอ.รส. ออกมาแถลงดึงเกมไว้ อย่างไรก็ตามการทำงานขององค์กรอิสระต้องมีประสิทธิภาพคือ ความถูกต้องและรวดเร็ว เพราะหากให้คนชั่วอยู่แค่วินาทีเดียวก็จะทำร้ายประเทศ
นายถาวร กล่าวต่อว่า การที่นายชัยเกษม นิติศิริ รมว.ยุติธรรม เสนอว่าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรีพ้นสภาพ คณะรัฐมนตรีจะนำขึ้นทูลเกล้าฯขอพระบรมราชานุญาตขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยว่า นายชัยเกษม เป็นนักกฎหมายเช่นกัน เหตุใดเสนอเรื่องที่ฆ่าตัวตายเพื่อรับใช้ระบอบทักษิณ เพราะรู้ว่าผิดอยู่แล้วจึงไม่น่าให้อภัย การจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถือเป็นการกระทำมิบังควรและรบกวนเบื้องพระยุคลบาท จาบจ้วงอย่างมาก ถ้าสมัยก่อนต้องประหารชีวิต 7 ชั่วโครต เรื่องดังกล่าวฝ่ายตุลาการตรวจสอบฝ่ายบริหาร เมื่อพบว่าฝ่ายบริหารทำผิดก็มีอำนาจดำเนินการแน่นอน อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวเป็นการร่วมมือกันกับนักกฎหมายคนหนึ่งที่เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
