“สาธิต” ตอก “ชัยเกษม” ขู่ศาล เล็งชง ม.7 หากนายกฯ ถูกชี้พ้นตำแหน่ง ฉะห่วงอำนาจ ป้องศาลไม่ได้ลุ่อำนาจ ตบปาก “อ๋อย-วราเทพ” จ้อตัดสินไม่ถูกใจมีนองเลือด ไม่ได้แก้ปัญหา “ชวนนท์” จี้เลิกระคายเคืองเบื้องสูง ชี้ พท.ส่งแกนนำถก กกต. หน.ปชป.พร้อมร่วม แนะที่ประชุมหาข้อสรุปพฤติกรรมสร้างวิกฤต หนุนถ่ายสด “จุฤทธิ์” บีบ ครม.เร่งทูลเกล้าฯ เปิดประชุมวุฒิฯ ชี้ดึงเชงหวังช่วย 2 ปธ.ขี้ข้าแม้ว จับตามีล็อบบี้ตั้ง ปธ.วุฒิฯ
วันนี้ (14 เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม ระบุว่ารัฐบาลจะเสนอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใช้พระบรมราชวินิจฉัยเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 หากเกิดสุญญากาศทางการเมือง จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญชี้ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีสิ้นสภาพรัฐมนตรีว่า เป็นการข่มขู่ศาลรัฐธรรมนูญล่วงหน้า ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 214 ไม่ได้ทำเกินอำนาจอย่างที่มีการกล่าวหา อีกทั้งเมื่อตัดสินแล้วยังมีผลผูกพันทุกองค์กรด้วย จึงขอให้ทุกฝ่ายรอคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากนั้นหากไม่พอใจคำตัดสินก็ค่อยวิจารณ์ เพราะศาลรัฐธรรมนูญเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ในการยุติธรรมตามกฎหมาย หมายความว่ามีสิทธิถูกดำเนินคดีอาญาหรือถอดถอนได้ตามที่ดำเนินการตามกฎหมายและบทบัญญัติที่รัฐธรรมนูญกำหนด
นายสาธิตกล่าวต่อว่า หากเห็นว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือมีการกลั่นแกล้งให้ใครได้รับความเสียหาย ก็ควรจะดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ แต่พฤติกรรมของนายชัยเกษมและรัฐบาลเป็นการหวงอำนาจหวังช่วยฝ่ายตัวเองเพื่อให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ในอำนาจต่อ แม้ประเทศชาติเสียหาย เพราะมีการดิสเครดิตบิดเบือนอำนาจศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ จึงขอฝากไปยังคนในรัฐบาลทั้งนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาข่มขู่ว่าหากตัดสินไม่ถูกใจจะมีการฆ่ากันตายเพราะศาลทำหน้าที่ตามกฎหมาย การพูดดังกล่าวไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาแต่ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้นจึงขอให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวด้วย
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เห็นเจตนาที่ไม่สุจริตของนายชัยเกษม เพราะเป็นการพูดเพื่อข่มขู่ คุกคามศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยการอ้างมาตรา 7 เพื่อเอามันทางการเมืองและขู่ศาลรัฐธรรมนูญว่า หากตัดสินไม่เป็นคุณกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รัฐบาลจะดำเนินการเองทั้งที่ไม่สามารถทำได้ จึงขอให้เลิกกระทำการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทเพื่อหาทางออกทางการเมือง ให้ตัวเองเพราะเป็นเรื่องที่ผิดทั้งสาระและหลักการ
นายชวนนท์กล่าวต่อว่า ขอให้พรรคเพื่อไทยส่งแกนนำระดับหัวหน้าพรรคเข้าร่วมหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันที่ 22 เม.ย. เพื่อหาทางออกในการจัดการเลือกตั้งรอบใหม่ โดยหากพรรคเพื่อไทยส่งแกนนำเข้าร่วม ทาง ปชป.โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค จะเข้าร่วมการหารือด้วย นอกจากนี้ขอเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำรัฐบาลรับผิดชอบต่อพฤติกรรมต่างๆที่เป็นต้นเหตุของวิกฤตในประเทศ ได้แก่ การปล่อยให้มีการหมิ่นสถาบัน, การละเลยให้มีการทุจริตคอร์รัปชันในประเทศ, การไม่ยอมรับการตรวจสอบตามกระบวนการยุติธรรม และ การใช้มวลชนกลุ่มเสื้อแดงคุกคามบุคคลที่มีความเห็นแตกต่างกับรัฐบาล
“ขอเสนอให้ที่ประชุม กกต.ควรหาข้อสรุปเพื่อยุติปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรมด้วย โดยเฉพาะหากพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลอีกในอนาคตจะต้องไม่ทำพฤติกรรมดังกล่าวซ้ำอีก” นายชวนนท์กล่าว
นายชวนนท์กล่าวอีกว่า เห็นด้วยกับความเห็นของนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานการเลือกตั้ง ที่ระบุว่าหากรัฐบาลรักษาการไม่ยอมรับข้อเสนอของ กกต.การเลือกตั้งรอบใหม่จะไม่เกิดขึ้น โดยรัฐบาลชุดปัจจุบันต้องยึดกติกาและรักษาผลประโยชน์ของประเทศ และลดเงื่อนไขที่เป็นวิกฤต ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้วพรรคประชาธิปัตย์พร้อมให้ความร่วมมือ นอกจากนี้ เห็นว่าการหารือกับพรรคการเมืองของ กกต.ควรจัดการถ่ายทอดสดให้ประชาชนได้รับทราบถึงแนวคิดของแต่ละพรรคการเมืองด้วย
ขณะที่นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เร่งดำเนินการทูลเกล้าฯ ถวายพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ขอเปิดประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 132 เพราะถือว่าการขอเปิดประชุมดังกล่าว เพื่อให้วุฒิสภาพิจารณาแต่งตั้งและถอดถอนบุคคลสามารถทำได้ ทั้งนี้ตนขอตั้งข้อสังเกตว่าเหตุที่รัฐบาลดึงเรื่องดังกล่าวเอาไว้ เพื่อต้องการช่วยพวกพ้องของตนเอง คือ นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา
ดังนั้น หากไม่เร่งดำเนินการ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อาจจะถูกฟ้องร้องข้อหาไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญได้ ทั้งนี้ตนขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เชื่อตน แทนเชื่อคำแนะนำของนายวราเทพ รัตนากร รักษาการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพราะหากจำได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ กรณีไม่ประกาศราคากลางเพื่อดำเนินการประชาสัมพันธ์โครงการในร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน มูลค่า 2 ล้านล้านบาท ตามกฎหมาย ป.ป.ช.ว่าด้วยการประกาศราคากลาง เนื่องจากรับฟังคำแนะนำของนายวราเทพ
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์แถลงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายจับตาการเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ ภายหลังจากนี้ เนื่องจากเชื่อว่าภายหลังสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์จะมีกลุ่มการเมืองล็อบบี้ให้ ส.ว.เลือกบุคคลที่พรรคการเมืองสนับสนุนเข้าไปทำหน้าที่ดังกล่าว ขอเตือนไปยังพรรคการเมืองว่าหากพบพฤติกรรมเข้าไปก้าวก่าย หรือแทรกแซงการดำเนินการของวุฒิสภาเสี่ยงที่จะถูกฟ้องร้องให้ดำเนินการเอาผิดพรรคการเมือง และมีโทษสูงสุดถึงยุบพรรคได้
“ขอเตือนประธานวุฒิสภาคนต่อไปให้ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ทำงานอย่างตรงไปตรงมา โดยขอให้ดูนายนิคม ไวยรัชพานิช ที่สูญเสียทั้งชื่อเสียงเกียรติยศจากพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องในการปฏิบัติหน้าที่เป็นตัวอย่าง เพราะสุดท้ายก็ต้องรับผลกรรมถูกยื่นถอดถอน ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ แสดงให้เห็นว่ากฎหมายเป็นกฎหมาย ดังนั้นหากประธานวุฒิสภาคนใหม่ไม่ทำหน้าที่อย่างเป็นกลางก็จะเป็นการซ้ำเติมวิกฤตของชาติให้รุนแรงขึ้น รวมทั้งขอร้องไปยังสื่อมวลชนให้ช่วยกันนำเสนอข้อเท็จจริงต่อประชาชนอย่างตรงไปตรงมา” นายจุฤทธิ์กล่าว