โฆษก ปชป.ตอก รัฐสร้างภาพจับ “โกตี๋” ปล่อยข่าวไป ตปท. ยันอยู่ไทย บี้นายกฯ เอาจริงตะครุบไม่ยาก รวม “ตั้ง อาชีวะ” ยกเหตุซี้ พท.-แดงถึงกล้า โดยเฉพาะ ผบช.น. แถมมีหน้าบินฝังเข็มนายใหญ่ จี้บริสุทธิ์ใจจับน้องรัก ท้า “เด็จพี่” ฟ้องกล่าวหา พท.หมิ่นสถาบัน ยันหลายคนเกี่ยว ชี้ไทยไม่พ้นวิกฤตเหตุนายกฯ ไม่เคารพ กม. ติงเลิกทำน่ารังเกียจใส่ร้ายศาล ปลุกแดงเลิกให้จ่าฝูงหลอก แขวะไม่คิดหาความจริงเหตุสลาย มุ่งแต่นิรโทษกรรม
วันนี้ (11 เม.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายจับนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ ว่าเป็นการสร้างภาพของรัฐบาลที่ทำเสมือนว่าเอาจริงเอาจัง แต่ตนทราบว่าขณะนี้นายโกตี๋ยังอยู่ในประเทศไทย แต่มีการปล่อยข่าวว่าเดินทางไปต่างประเทศแล้ว หากมีการดำเนินการอย่างจริงจังก็ไม่เกินความสามารถของตำรวจไทยที่จะจับกุมตัวได้ ขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความจริงใจดำเนินการเรื่องนี้ด้วยการสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนายโกตี๋ รวมทั้งนายเอกภาพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ มาดำเนินคดีโดยเร็ว สาเหตุที่ทำให้คนเหล่านี้กล้าทำผิดเพราะสนิทสนมกับนักการเมืองพรรคเพื่อไทย เกี่ยวพันกับคนเสื้อแดง สะท้อนว่าคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยสนับสนุนการจาบจ้วงมาโดยตลอด โดยกรณีโกตี๋ที่กล้าทำผิดส่วนหนึ่งเพราะมีความสนิทสนมกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.
ทั้งนี้ การที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เดินทางที่ไปฝังเข็มให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จึงขอให้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ด้วยการจับกุมโกตี๋มาดำเนินคดีโดยเร็ว และยินดีให้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ดำเนินการฟ้องร้องตนที่กล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทยเกี่ยวข้องกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยหลายคนมีการพาดพิงถึงสถาบันอย่างเป็นระบบ ทั้งนายก่อแก้ว พิกุลทอง ที่ขอให้ปลดรูปที่มีทุกบ้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ กรณีกระสุนพระราชทาน ดังนั้นคงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการล้มเจ้า ตนจึงขอท้าให้ฟ้องเพื่อจะได้สะสางพฤติกรรมคนเหล่านี้โดยเร็ว
นายชวนนท์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีออกมาโจมตีกระบวนการยุติธรรมในส่วนของศาลรัฐธรรมนูญว่า ประเทศไทยไม่สามารถก้าวพ้นวิกฤตได้เพราะรักษาการผู้นำไม่เคารพกระบวนการตรวจสอบ การถ่วงดุล และกระบวนการยุติธรรม เป็นยุทธศาสตร์ที่ผิด เพราะประชาชนไม่ยอมรับการทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ทั้งนี้ยืนยันว่าศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจหน้าที่ในการวินิจฉัยพฤติกรรมที่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังคงเป็นนายกรัฐมนตรี รับเงินเดือน มีอำนาจ จึงนำมาเทียบกับกรณีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ เนื่องจากพ้นจากความเป็น ส.ส.แล้ว จึงขอให้หยุดพฤติกรรมกล่าวโทษองค์กรอื่นเพื่อเอาตัวรอด เพราะเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของนักการเมืองเห็นแก่ตัวที่พร้อมเอาตัวรอดด้วยการทำลายกระบวนการยุติธรรม
ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงจัดงานรำลึกความสูญเสียในวันที่ 10 เม.ย. 53 โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.เรียกร้องให้ประเทศไทยยอมรับอำนาจศาลโลกนั้น นายชวนนท์กล่าวว่า เป็นสิ่งที่มัดว่าแกนนำเสื้อแดงและรัฐบาลไม่เคยดำเนินการใดๆ เพื่อคืนความเป็นธรรมและค้นหาความจริงว่าใครฆ่าประชาชน เพราะเรื่องนี้มีการเรียกร้องมา 4 ปีแล้ว แต่ไม่เคยมีความคืบหน้า และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ยังมีความพยายามที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรมด้วย คนที่คัดค้านคือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นจำเลยจนทำให้กฎหมายดังกล่าวถูกระงับไป จึงขอให้คนเสื้อแดงได้คิดว่าตกเป็นเครื่องมือของแกนนำและพรรคเพื่อไทยในการก้าวสู่อำนาจ ทั้งนี้เชื่อว่ายังมีความพยายามที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรมอยู่ คนไทยจึงต้องก้าวข้ามพรรคเพื่อไทยเพื่อขจัดนักการเมืองที่มีพฤติกรรมไม่ถูกต้องออกไป และขอเรียกร้องให้ข้าราชการออกมาปฏิรูปประเทศไทย
