“มาร์ค” สั่งทีม กม.จี้รัฐสอบ “โกตี๋” พาดพิงในหลวง แจ้ง ป.ฟัน ส่ง “มัลลิกา” กระทุ้ง “บิ๊กตู่” พรุ่งนี้

โฆษกประชาธิปัตย์เผย “อภิสิทธิ์” สั่งฝ่ายกฎหมายทำคำร้องจี้ “ยิ่งลักษณ์-เฉลิม-ธาริต” สอบ “โกตี๋” พาดพิงในหลวง พร้อมแจ้งความกองปราบฯ ชี้สะท้อนแนวคิดหมื่นสถาบัน เป็นภัยต่อความมั่นคงต้องจัดการ ส่ง “มัลลิกา” ทวงถาม “ประยุทธ์” พรุ่งนี้ ด้าน รอง หน.ปชป.เตรียมนำคำปราศรัย “ตู่-อำมาตย์เต้น” ชงศาลบีบโจกแดงพูดให้ชัดอำมาตย์เฒ่าหมายถึงใคร ขู่ฟ้องอธิบดีดีเอสไอทำเฉยคดี



วันนี้่ (9 เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคทำคำร้องไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงานและ ผอ.ศอ.รส. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ให้ตรวจสอบกรณีที่นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศพาดพิงถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และให้แจ้งความดำเนินคดีที่กองบังคับการกองปราบปราม รวมทั้งกำลังพิจารณาดำเนินคดีทั่วประเทศด้วย เนื่องจากเป็นการสะท้อนแนวคิดหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่มีการกระทำมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มแกนนำคนเสื้อแดง นักวิชาการเสื้อแดง จนมาถึงนายโกตี๋ ซึ่งเป็นภัยความมั่นคงที่เจ้าหน้าที่รัฐต้องเร่งจัดการ เพราะหากปล่อยให้มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ ประเทศไทยจะอยู่ในภาวะไม่มั่นคงทางการเมืองและการปกครอง เพราะเป็นสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนมีการนำข้อมูลเท็จมาให้ร้ายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในวันพรุ่งนี้ (10 เม.ย. 57) น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางไปยื่นคำร้องถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เพื่อให้เอาจริงเอาจังต่อการให้ร้ายและดูหมิ่นสถาบันด้วย

ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ได้รับหมายเรียกจากศาลอาญากรณีที่ยื่นให้ถอนประกันนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และเลขาธิการ นปช. กับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.ไปให้ถ้อยคำในวันที่ 18 เมษายน 2557 เวลา 09.00 น. ตนจะได้นำคำปราศรัยที่ปลุกปั่นประชาชนโดยอ้างถึงระบอบอำมาตยาธิปไตย อำมาตย์เฒ่า เพื่อนำเสนอต่อศาลให้แกนนำเสื้อแดงพูดให้ชัดว่าหมายถึงอะไรเกี่ยวกับการปกครองในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีความเชื่อมโยงระหว่างการกระทำของนายโกตี๋ด้วย

“จึงขอฝากไปถึงนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ที่เคยตรวจสอบผังล้มเจ้าน่าจะนำมาเปรียบเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้สามารถสืบสวนขยายผลไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการนี้ได้ เพราะเริ่มมีภาพที่ชัดเจนมากขึ้นตามลำดับแล้ว ดังนั้นนอกจากนายธาริตจะรับคดีสงครามน้ำลายเรื่อง รัฏฐาธิปัตย์แล้ว ก็ควรจะรับคดีล้มเจ้าเป็นคดีพิเศษด้วย เพราะมีหลักฐานคำพูด การกระทำที่ชัดเจน หากไม่ดำเนินการจะถูกฟ้องในคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่” นายสาธิตกล่าว