“นพ.วรงค์” เชื่อ “กิตติรัตน์” ชิ่งไปประชุมเวิลด์แบงก์ เจตนาเตะถ่วงจำนำข้าว ชี้เป็นแค่รักษาการไม่มีอำนาจ ต้องส่งปลัดไป จวกเบี่ยงประเด็น ถามอธิบดีกรมบัญชีกลางโยนหินถามทางคืนตังค์ 2 หมื่นล้านไม่ทันหรือไม่ จี้พาณิชย์แจง แนะ กกต.สอบใช้เงินคงคลังแทนงบกลาง “จุฤทธิ์” เชื่อ “ยิ่งลักษณ์” ไม่พ้นบ่วงกรรม สวน “นพดล” ต้องรู้คุณคน
วันนี้ (8 เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีที่ ป.ป.ช.เชิญพยานสามปากของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเข้าให้ปากคำ แต่เริ่มเห็นความบิดพลิ้วของฝ่ายรัฐบาลในการไม่ให้ความร่วมมือ โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง ขอเลื่อนการชี้แจงโดยอ้างว่ามีภารกิจประชุมเวิล์ดแบงก์ และไอเอ็มเอฟ ทั้งที่ควรให้ปลัดกระทรวงการคลังเป็นหัวหน้าคณะเดินทางไป เพราะนายกิตติรัตน์เป็นรัฐมนตรีรักษาการไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ แต่น่าจะเป็นเจตนาเตะถ่วงเพื่อยืดเวลาคดีมากกว่า จึงเห็นว่าเป็นการเดินทางที่น่าเสียดายเพราะเป็นการเสียงบประมาณโดยสูญเปล่า จึงคิดว่านายกิตติรัตน์ยกเลิกการเดินทางและเข้าชี้แจงต่อ ป.ป.ช.จะเป็นประโยชน์มากกว่า
นพ.วรงค์กล่าวด้วยว่า นายกิตติรัตน์ได้พยายามสร้างความสับสนโดยเปรียบเทียบภาวะขาดทุนโครงการจำนำข้าวกับประกันรายได้ ทั้งที่ประเด็นไม่ได้เกี่ยวกับการขาดทุน แต่อยู่ที่ว่าตัวเลขความเสียหายมากกว่าที่ควรจะเป็น และเงินไม่ถึงมือเกษตรกร อีกทั้งการขาดทุนยังเกิดจากการทุจริตในทุกขั้นตอน ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องชี้แจงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องจีทูจีที่รัฐบาลไม่เคยชี้แจงได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องราคาข้าวตกต่ำ เนื่องจากรัฐบาลระบายข้าวออกมามากซึ่งยังไม่มีการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือรัฐบาลกลายเป็นคู่แข่งกับชาวนา ทั้งนี้ตนเคยเตือนแล้วว่าการระบายข้าวของรัฐบาลจะทำส่งผลกระทบทำให้ราคาข้าวตกต่ำ
อดีต ส.ส.พิษณุโลกพรรคประชาธิปัตย์ ยังแสดงความสงสัยกรณีที่นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง ออกมาระบุว่ามีการยืมเงินคงคลัง 2 หมื่นล้านบาทมาจ่ายจำนำข้าว ซึ่งจะหาเงินมาคืนจากการระบายข้าว หรือจากการกู้เงิน ภายในวันที่ 31 พ.ค. 57 ตามที่ กกต.กำหนด แสดงให้เห็นว่ามีการโยนหินถามทางว่ารัฐบาลจะไม่สามารถหาเงินมาใช้ในวันที่ 31 พ.ค. 57 ใช่หรือไม่ จึงขอเรียกร้องยังกระทรวงพาณิชย์ว่าจะต้องมีความโปร่งใสชี้แจงปริมาณข้าวที่ขายในแต่ละครั้งว่าขายได้เท่าไหร่ ราคาเท่าไหร่ ได้เงินเท่าไหร่ ในทุกครั้งที่มีการประมูล จะได้ประเมินได้ว่ารัฐบาลจะนำเงินมาใช้หนี้เงินคงคลังได้หรือไม่
นพ.วรงค์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ตรวจสอบว่า เหตุใดจึงมีการใช้เงินคงคลังมาจ่ายจำนำข้าวทั้งที่ก่อนหน้านี้ กกต.มีมติให้ใช้งบกลางตามที่ทาง ครม.ได้เสนอเรื่องไป แต่กลับมาเปลี่ยนแปลงประเภทเงินที่ใช้จากงบกลางมาเป็นเงินคงคลัง ซึ่งการใช้เงินคงคลังจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย จึงอยากให้มีการตรวจสอบว่า การใช้เงินคงคลังครั้งนี้ผิดกฎหมายหรือไม่ เป็นการใช้เงินผิดประเภทหรือเปล่า โดย กกต.ควรจะตรวจสอบโดยด่วน เนื่องจากมีการใช้เงินที่ไม่เป็นไปตามที่ กกต.อนุมัติ อีกทั้งต้องพิจารณาด้วยว่ารัฐบาลรักษาการสามารถใช้เงินคงคลังได้หรือไม่
ด้านนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่า ป.ป.ช.มีอคติต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในคดีทุจริตจำนำข้าวว่านายพร้อมพงศ์ไม่มีความน่าเชื่อถือ ทำได้แค่สัมภาษณ์รายวันเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของ ป.ป.ช. เป็นพฤติกรรมลิเกหลงโรง ซึ่งควรจะหยุดพฤติกรรมนี้เพราะถึงที่สุดแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์จะไม่มีทางหลุดพ้นบ่วงกรรมที่ตัวเองทำไว้ การกล่าวอ้างว่า ป.ป.ช.ไม่ดำเนินการคดีประกันรายได้ของรัฐบาลประชาธิปัตย์นั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะ ป.ป.ช.ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ยอมส่งข้อมูลเพิ่มให้ และการกล่าวหาในเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นเพียงเพื่อให้ได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเท่านั้น
นายจุฤทธิ์ยังกล่าวกล่าวตอบโต้นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ออกมาโจมตีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ว่าวิจารณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ แบบแผ่นเสียงตกร่องว่า หัวใจนักการเมืองที่ดี 1. ต้องกตัญญูรู้คุณต่อประชาชน บุคคลและพรรคการเมืองที่ให้โอกาสนายนพดลในทางการเมือง โดยเฉพาะต้องกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด 2. ไม่เป็นทาสคนโฉด และ 3. ไม่นิยมทำดำเป็นขาว ทำผิดเป็นถูก ซึ่งนายนพดลรู้อยู่แก่ใจว่าใครมีพฤติกรรมชอบว่าความให้โจร ที่สำคัญคำพูดของนายชวน หลีกภัย ไม่ใช่แผ่นเสียงตกร่องแต่เป็นวาจาสิทธิ เพราะเคยพูดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรจะไม่มีแผ่นดินอยู่ และสุดท้ายนายนพดลก็เป็นได้แค่สมุนของคนที่ไม่มีแผ่นดินอยู่เท่านั้น