โจกแดงสักการะพระประธานพุทธมณฑลเอาฤกษ์ “จตุพร” อ้างชุมนุมต้านคนเบื้องหลัง “สุเทพ” บอกวันนี้แค่ซ้อม หลังสงกรานต์เอาจริง ลั่นมาด้วยความแค้น เชื่อจุดหมายหวังรัฐประหาร โวสาวกพรึ่บ ถ.อักษะ ชูบัตรประชาชนยันไม่มีต่างด้าวร่วม ลั่นพอกันที 82ปีไม่เป็นประชาธิปไตย “วีระกานต์” เย้ย กปปส.โดนหลอกใช้ ดูพวกตนเป็นนักคิด เชื่อจุดจบใกล้เต็มที หยันสวนลุมแค่ฝ่ามือเดียว อ้างรู้สึกได้ถ้าแก้ไม่ได้ต้องแยกประเทศ ยันนายกฯ มาตรา 7 ไม่ใช่ทางออก ขู่สร้างนิติรัฐเอง “เมียเหวง” สับฝ่ายตรงข้ามทำบาปกรรม
วันนี้ (5 เม.ย.) ที่ถนนอักษะ พุทธมณฑล เมื่อเวลา 10.00 น. การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีประชาชนเดินทางมาร่วมการชุมนุมอย่างต่อเรื่องตั้งแต่ช่วงเช้า ทำให้เกิดการจราจรติดขัดบริเวณที่จัดการชุมนุมที่ถนนอักษะ และถนนพุทธมนฑลสาย 4 สำหรับบรรยากาศด้านการรักษาความปลอดภัยของตำรวจนั้นได้การตั้งด่านที่ถนนเพชรเกษม ด้วยการวางกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชนจำนวน 5 กองร้อย ในบริเวณถนนเพรชเกษม ทั้งนี้ยังทีตำรวจตั้งด่านบริเวณโดยรอบรัศมีที่กระสุนสามารถยิงได้รอบพื้นที่การชุมนุมเพื่อรักษาความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันเหตุลอบทำร้าย ในเบื้องต้นมีการประสานหน่วยงานเอกชน เช่น โรงพยาบาลกาญจนา และโรงพยาบาลไร่ขิง ในการเคลื่ิอนผู้บาดเจ็บที่ไวที่สุดหากเกิดกรณีฉุกเฉิน
ส่วนบรรยากาศบริเวณเวทีการชุมนุมนั้น ทางแกนนำกลุ่ม นปช.นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. พร้อมแกนนำคนอื่นๆ อาทิ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายสมหวัง อัสราษี นายจรัล ดิษฐาอภิชัย นายยศวริศ ชูกล่อม (เจ๋ง ดอกจิก) ได้เดินทางไปสักการะพระศรีศากยะทศพลญาณ พระประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ จากนั้นได้มีการบวงสรวงทำบุญ และตีฆ้อง 3 ครั้งเพื่อเอาฤกษ์เอาชัยในการชุมนุมครั้งนี้ด้วย
จากนั้นเวลา 10.30 น. นายจตุพรกล่าวว่า การชุมนุมวันนี้จะใช้ถนนอักษะเป็นแกนกลาง เพราะเป็นศูนย์กลางของทางเชื่อมถนนโดยรอบบริเวณการชุมนุม และการจัดชุมนุมที่ถนนอักษะ ย่านพุทธมณฑล เพื่อให้การชุมนุมห่างจากกลุ่ม กปปส.และคปท. ทั้งนี้ก็หวังว่าจะไม่มีกลุ่มใดๆ มาก่อกวนในสถานที่จัดงาน อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้นายอารี ไกรนรา หัวหน้าการ์ด นปช. ประสานกับตำรวจและศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ให้ช่วยดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่ง ศอ.รส.ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นผู้ดูแล ทั้งนี้ นปช.จะไม่ประมาทเหมือนการชุมนุมเมื่อปี 53 และการชุมนุมที่ราชมังคลากีฬาสถานที่ผ่านมา และขอฝากไปยังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ขอให้ไว้ใจ นปช.ว่า นปช.จะไม่ไปคุกคามบ้านนายสุเทพที่พุทธมณฑลสาย 2 อย่างแน่นอน สำหรับการชุมนุมของ นปช.ครั้งนี้จะไม่เน้นความรุนแรง เป็นการทำหน้าที่ของประชาชนที่แสดงถึงความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งการชุมนุมครั้งถัดไปอาจจะจัดก่อนหรือหลังวันที่ 18 เม.ย. แต่ยังไม่ระบุสถานที่ ส่วนกิจกรรมบนเวทีจะมีการอ่านแถลงการณ์ประกาศจุดยืนของนปช. ให้อำมาตย์หยุดแทรกแซงประชาธิปไตยโดยการหานายกฯคนกลางมาทำหน้าที่ และวันนี้จะมีนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความ นปช. หรือนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำเสื้อแดงจังหวัดอุดรธานี โฟนอินเข้ามายังการชุมนุมในวันนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่มีการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างแน่นอน
ด้าน นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. เปิดเผยว่า ภาพรวมการชุมนุมในช่วงเช้าที่ผ่านมาถือว่ามีความน่าพอใจ โดยการรักษาความนั้นได้มีการประสานกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.กระทรวงแรงงาน ในการรักษาความปลอดภัยแล้ว ในเบื้องต้นประเมินว่าจะมีผู้ชุมนุมประมาณ 5 แสนคน โดยจะทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาเวลา 12.35 น. นายจตุพรให้สัมภาษณ์บนเวทีการชุมนุมว่า กิจกรรมวันนี้ต้องการอธิบายให้ประชาชนได้เห็นถึงความหมายของการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งตามที่กลุ่ม กปปส.ออกมากล่าวอ้างนั้นเป็นเรื่องที่เป็นเท็จ เพราะสุดท้ายเพียงเพื่อต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมามีอำนาจทางการเลือกตั้ง พร้อมโจมตีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ที่มีการโกงตัวเลขกลุ่มผู้ชุมนุมมาโดยตลอด และเชื่อว่าประชาชนของกลุ่ม กปปส.จะลดน้อยลงเพราะเกิดจากการชุมนุมที่ไม่มีความชอบธรรม และการที่คนเสื้อแดงออกมาชุมนุมวันนี้ (5 เม.ย.) เพราะต้องออกมาต่อสู้กับความไม่เป็นประชาธิปไตย ต่อต้านคนที่อยู่เบื้องหลังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และองค์กรอิสระ เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตยให้คงอยู่ ทั้งนี้เชื่อว่าไม่ว่าคนเสื้อแดงจะชุมนุมที่ไหนก็จะสร้างความหวั่นไหวให้อำมาตย์ และเร็วๆ นี้เราจะเห็นคนที่อยู่เบื้องหลังนายสุเทพ อย่างแน่นอน
นายจตุพรกล่าวอีกว่า ส่วนการชุมนุมวันที่ 18 เม.ย.นี้จะออกมานำมวลชนหรือไม่นั้น ถ้าผมถูกจับในวันที่ 18 เม.ย.ก็จะนำพี่น้องอยู่ในเรือนจำ ซึ่งวันนี้เป็นเพียงการซักซ้อม แต่จะเอาจริงหลังวันสงกรานต์อย่างแน่นอน ซึ่งการชุมนุมในปีนี้ต่างจากปี 53 เพราะปี 53 เราอยากต่อสู้ แต่มาปี 57 มาด้วยความแค้น เพราะถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่อย่างไรก็ตามเราจะไม่ประมาท เพราะในปี 53 เราถูกสไนเปอร์ลอบยิง รวมถึงเหตุการณ์ที่ราชมังคลากีฬาสถานมวลชนก็ถูกกระทำด้วยเหตุรุนแรง ปีนี้จึงมีการตั้งการ์ดไว้ 30 จุด มีการ์ดจำนวน 6,500 คน และตำรวจอีก 3,000 กว่านาย ทั้งนี้ก่อนเวลา 17.00 น. ขอให้นำรถทุกคันออกไป เพราะเราจะถ่ายภาพมุมสูง เพื่อแสดงให้เห็นมวลชนที่มาจำนวนมหาศาล ไม่ต้องแต่งภาพบางจุดเหมือนการชุมนุมของคนบางกลุ่ม ส่วนจะมีเซอร์ไพรซ์ในช่วงเย็นหรือไม่นั้น ขอให้รอดูต่อไป
นายจตุพรยังกล่าวถึงเรื่องนายกฯ มาตรา 7 ว่า ตนเชื่อว่ามีความพยายามทำให้เกิด แต่ในหลวงได้ตรัสไว้ว่า นายกฯ มาตรา 7 ไม่เป็นประชาธิปไตย ตนขอเตือนอำมาตย์ให้รับฟังไว้เพราะในหลวงทรงตรัสแล้วไม่คืนคำ และความพยายามที่จะทำให้เกิดนายกฯ มาตรา 7 เป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง ทั้งนี้ตนเชื่อว่าจุดหมายปลายทางที่แท้จริงคือการทำรัฐประหาร ขณะนี้ประชาชนไม่ยอมกันอีกแล้ว ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ส่วนการชี้มูลขององค์กรอิสระต่างๆ เราไม่สนใจเพราะรู้อยู่แล้วว่าคำตอบคืออะไร เชื่อว่าจะเกิดผลลบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะทุกคนรู้ว่ากระดานนี้เป็นกระดานของอำมาตย์ ใครจะวินิจฉัยอะไรก็เชิญ ขอให้หาความสำราญตามสบาย เพราะหลังสงกรานต์ประชาชนจะออกมาหาความสำราญกันบ้าง
นายจตุพรกล่าวอีกว่า ส่วนท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ถูกกดดันจากกลุ่ม กปปส.นั้น คนพวกนั้นรู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ถูกยั่วยุไม่ได้ มีจุดเดือดต่ำ แถมโง่ จึงใช้จุดอ่อนนี้มาเล่นงาน พล.อ.ประยุทธ์ ให้แสดงตัวว่าไม่ใช่ลูกจ้างของตระกูลชินวัตร แต่ตนเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ฉลาดเพราะสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยได้ และเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นลูกจ้างประชาชน ไม่ได้เป็นลูกจ้างของตระกูลใด
จากนั้นเวลา 16.00 น. ที่ถนนอักษะ ย่านพุทธมณฑล ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในช่วงบ่ายถึงเย็นว่า มวลชน นปช.ได้จับจองพื้นที่หน้าเวทีอย่างแน่นขนัด และกระจายตัวตามความยาวของถนนอย่างต่อเนื่องหลังจากเคลื่อนขบวนมาจากภูมิภาคต่างๆ เพื่อออกมาปกป้องประชาธิปไตย ขณะที่กิจกรรมบนเวทีปราศรัยมีการแสดงดนตรีเพลงลูกทุ่ง ซึ่งเนื้อเพลงมีเนื้อหาเสียดสีนายสุเทพ การทำปฏิวัติรัฐประหารของทหารที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็มีการร้องรำทำเพลงชื่นชม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่สร้างนโยบายทำให้คนรากหญ้าสามารถลืมตาอ้าปากได้ เป็นกิจกรรมที่ทำให้มวลชนเสื้อแดงลุกขึ้นมาเต้นอย่างสนุกสนานท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว โดยตลอดช่วงบ่ายกิจกรรมบนเวทีมีการร้องเพลงสลับกับการขึ้นปราศรัยของแกนนำย่อย เนื้อหาการปราศรัยจะเน้นโจมตีการทำงานขององค์กรอิสระ กลุ่ม กปปส.ว่ามีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันตามทฤษฏีสมคบคิด
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆ บรรดาแกนนำ นปช. เช่น นายยศวริศ ชูกล่อม นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายวรชัย เหมะ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ได้เดินทางมายังเวที พร้อมติดตามข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. ผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์อยู่ที่เต็นท์แกนนำบริเวณด้านหลังเวที โดยแกนนำ นปช.ทั้งหมดจะขึ้นปราศรัยในช่วงเย็น นอกจากนี้ยังมีสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางส่วนเข้าร่วมงานด้วย อาทิ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นายสิงห์ทอง บัวชุม นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท
โดยนายจตุพรกล่าวว่า ขอเรียกร้องประชาชนที่ยังติดอยู่บนถนน นอกเส้นพุทธมณฑลสาย 4 ลงจากรถแล้วเดินสู่ที่ชุมนุม จากเดิมที่คิดว่าถนนอักษะคนจะเต็มเวลา 18.00 น แต่กลับเต็มตั้งแต่เวลา 17.00 น.นี้แล้ว ซึ่งได้รับรายงานจากแกนนำต่างๆว่า ตั้งแต่ 17.00 น. ยังมีพี่น้องอีกครึ่งหนึ่งยังอยู่ข้างนอก เข้ามาไม่ได้เเพราะรถติด ดังนั้นเชื่อว่าคืนนี้ 22.00-23.00 น. จะมีพี่น้องคนเสื้อแดงมาเพิ่มอีก เหมือนการชุมนุมที่เมืองพัทยา ดังนั้นเราก็จะรอพี่น้องซึ่งใครเดินทางมาได้ก็ขอให้มา เวลา 18.00 น.เราจะร่วมกันแสดงพลังร้องเพลงชาติ และแถลงสั้นๆ ก่อนที่จะเริ่มผลัดเปลี่ยนการปราศรัยบนเวที
นายจตุพรกล่าวว่า ส่วนที่สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เคยกล่าวหาว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงเอาต่างด้าวมาชุมนุมก็ให้ถือเป็นแค่เรื่องขำขัน เพราะหลังเราร้องเพลงเคารพธงชาติกัน เราจะชูบัตรประชาชนแสดงให้ กปปส.เห็นพร้อมกัน และให้อำมาตยาธิปไตยเห็นว่าเราจะไม่ยอม ซึ่งวันนี้คนเสื้อแดงที่มา 500,000 คน จะมีมากกว่า 6,800,000 คนของนายสุเทพอย่างแน่นอน และขอประกาศว่า หากจะมีการคิดยึดอำนาจวันไหนก็ต้องเจอคนเสื้อแดงทันที วันไหนมีนายกฯ เถื่อน แดงจะมากันทันที เราจะส่งเสียงให้อำมาตยาธิปไตย ได้ยินกันว่าเราจะไม่ยอมอีกแล้ว และ 82 ปีพอกันทีกับความไม่เป็นประชาธิปไตย
ต่อมานายจตุพรขึ้นเวทีเพื่อนำผู้ชุมนุมร้องเพลงเคารพธงชาติแล้ว นายจตุพรได้นำบัตรประชาชนตนชูแสดง ขณะที่นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช.ขึ้นปราศรัยเป็นคนแรก กล่าวว่า ตลอดเวลา 5 เดือนที่ผ่านมานี้ กปปส.ใช้วิธีที่ผิดพลาดในการชุมนุม ซึ่งไม่อาจพาบ้านเมืองสู่การพัฒนาถาวรได้ วันนี้เขาควรรู้แล้วว่า เขาถูกหลอกใช้ ไม่มีใครจริงใจกับเขา ส่วนเราคนเสื้อแดงเป็นนักคิด ก็ลองวิเคราะห์กันดูว่าใครที่หลอกใช้เขา ซึ่งตนลองคิดดูก็คิดว่าคนที่เป็นประธาน กับรองประธาน กปปส.ที่ไม่เคยออกหน้านั่นแหละ ซึ่งขอย้ำว่าจุดจบของ กปปส.ใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว เพราะว่ายุทธศาสตร์ของเขาผิด เขาไม่มีวันจะได้ชัยชนะ ประสบความสำเร็จ เพราะในปี พ.ศ.นี้ยังจะมีประเทศหนึ่งประเทศใดขัดขวางการเลือกตั้งตามหลักประชาธิปไตยอีกหรือ ก็คงจะมีแต่ในประเทศนี้และนั่นคือความผิดที่ไม่อาจแก้ให้กลับคืนมาได้ โดยวันนี้คนเสื้อแดงมากันมาก จนที่สวนลุมฯ กลายเป็นจุดเล็กแค่ฝ่ามือเดียว คำตอบก็เพราะพี่น้องประชาชน เห็นว่าประเทศไทยกำลังมีปัญหา กำลังเจ็บป่วยเป็นแผ่นดินแตกแยกจึงเกิดการชุมนุมของคนที่รักบ้านเมือง และต้องการแก้ปัญหาประเทศชาติ
นายวีระกานต์กล่าวอีกว่า วันนี้ที่เรามาก็เพื่อซักซ้อมความเข้าใจ ในการแก้ปัญหาประเทศชาติ 8 ปีที่ผ่านมาแตกแยกกัน โกรธกัน ชิงชังกัน สถาบันต่างๆ สำคัญของชาติ เสื่อมค่า น่าเป็นห่วงความแตกแยก พ.ศ.นี้ที่ทำให้เกิดความรู้สึกว่าหากแก้ไม่ได้ก็ต้องแยกประเทศกันอยู่ จริงหรือไม่จริงพี่น้อง มันท้าทายกัน มันเป็นความรู้สึกก็ต้องเข้าใจหัวอกของประชาชน ที่ กปปส.บอกจะปฏิรูปเราไม่ได้รังเกลียดเลย เพราะเราเห็นว่าถึงเวลาต้องปฏิรูปโดยเฉพาะเรื่องศาสนาที่เห็นได้จากพฤติกรรม กปปส.เอง เพราะ 5 เดือนประกาศว่าจะชุมนุมโดยสันติ เขาก็ชุมนุมโดยสันติแต่เป็นสันติอโศก ที่มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังที่นั่นที่นี่ ขณะที่ใครที่คิดว่าจะแช่แข็งทำให้เกิดสูญญากาศเพื่อให้มีนายก ฯ มาตรา 7 ก็บอกได้เลยว่า จะเป็นการสร้างความขัดแย้งให้กับประเทศไทย และจะไม่ได้เป็นทางออก ซึ่งหากนิติรัฐ หน้าตาเหมือนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนิติธรรม หน้าตาเหมือนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เราก็ไม่เอา แต่คนเสื้อแดงจะใช้กำลังสร้างนิติรัฐ นิติธรรมเอง
ขณะที่นางธิดากล่าวว่า วันนี้เป็นอีกวันที่มีความหมาย สำหรับประชาชนที่รักประชาธิปไตย รักประเทศนี้ และเป็นเจ้าของประเทศนี้ ออกมาแสดงพลัง และสิ่งที่นายสุเทพ กับ กปปส.ทำไว้ ในวันนี้ถือเป็นบาปกรรมอย่างมาก ขณะที่การกระทำและเป้าหมาย ของ กปปส.ก็ผิดทั้งหมด และปัญญาชนที่ไปอยู่ กปปส. ก็สอบตกที่ตีโจทย์ประเทศไทย ที่ไม่รู้ว่าประชาชนเจ้าของประเทศคือใคร