xs
xsm
sm
md
lg

กลิ่นสงครามโชย “คางคกตู่” พองตัว วัดพลัง “ม็อบกำนัน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จตุพร พรหมพันธ์
สะเก็ดไฟ
 

ดีเดย์ 5 เมษายน 2557 “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” (นปช.) เตรียมจัดชุมนุมกดดัน “เครือข่ายอำมาตย์” ตามคำกล่าวอ้างของบรรดา “แกนนำ นปช.”

“แกนนำ นปช.” สุมหัวคิดกันอยู่นานว่าจะเคาะเลือกสถานที่ใดในการนัดหมายรวมพล “คนเสื้อแดง” ให้มาแสดงพลัง เพื่อนับยอดให้ได้ 5 แสนคน ตามที่ “จตุพร พรหมพันธุ์” ประธาน นปช.หมายมั่นปั้นมือเอาไว้

ในวงประชุม “วรชัย เหมะ” อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย มือเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ได้เสนอให้ นปช.แยกย่อยเวทีการชุมนุมเป็น 20 เวที ประจำตามจุดต่างๆ เน้นยุทธศาสตร์ล้อม กทม. โดยใช้ “เขตดอนเมือง” เป็นเวทีรวมพลหลัก

แต่ข้อเสนอดังกล่าวก็ต้องตกไป เพราะ “ไอ้ตู่-ไอ้เต้น” ที่ควบรวมอำนาจใน นปช.เอาไว้เกือบหมดกลับมองต่างมุม ซึ่ง “ไอ้ตู่-ไอ้เต้น” มองว่าการแยกย่อยเวทีจะทำให้การบริหารจัดการลำบาก อาจจะทำให้เกิดความวุ่นวายได้ และ “แกนนำ นปช.” ไม่สามารถควบคุมทิศทางการชุมนุมให้เป็นเอกภาพได้เลย

หนำซ้ำการแยกย่อยเวทีอาจจะเข้าทางปืนของ “คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” (กปปส.) ได้ “ไอ้ตู่-ไอ้เต้น” ยังคิดอ่านไกลถึงขั้นกลัวว่าจะมี “ทหาร” เข้ามาป่วนสถานการณ์ให้แรงขึ้น เพื่อสร้างความชอบธรรมในการ “รัฐประหาร” ถ้าแยกย่อยเวที นปช. มีหวังเสียเหลี่ยมถึงขั้น “แพ้” ได้ทันที

บทสรุปของ “แกนนำ นปช.” ในการประชุมเคาะสรรหาเวทีรวบรวมพล คือ รวมกันเราอยู่-แยกกันเราตาย นปช.จึงขออยู่อยู่รวมแบบมัดรวมกันไว้ก่อน

แต่ไม่แน่ที่ “ไอ้ตู่-ไอ้เต้น” ไม่กล้าแยกย่อยเวที เพราะกลัวนับยอดรวม นปช.แล้วคนอาจจะดูน้อยก็ได้ ตรงกันข้ามหากอยู่รวมกันเอาไว้ นับยอดเมื่อไรคนอาจจะดูเยอะขึ้นมา หรือถ้าอยู่รวมกันแล้วคนไม่เยอะ ก็สามารถใช้มุมกล้องหลอกสายตากันได้

ตามเกม-ตามจังหวะ การต่อสู้ที่ต้องวัดกันที่จำนวนผู้ชุมนุม กปปส.พิสูจน์ให้เห็นไปแล้วในวันที่ 29 มีนาคม 2557 ว่าคนหัวใจ กปปส.นับรวมยอดแล้วมากันหลักล้านตลอด

เอาเป็นว่า “กำนันสุเทพ” เป่านกหวีดเมื่อไร คนหัวใจ กปปส.พร้อมมาร่วมเดินให้กำลังใจในการชุมนุมขับไล่ “ระบอบทักษิณ” ได้ตลอดเวลา

ตรงกันข้ามกับการชุมนุมของ นปช. ที่ระยะหลังยอดผู้ชุมนุม “คนเสื้อแดง” ลดน้อยถอยลงทุกวัน “ไอ้ตู่-ไอ้เต้น” อยากได้ภาพที่สวยกว่า กปปส. จึงเลือกตั้งถนนอักษะ ย่านพุทธมณฑล ซึ่งได้รับการยกให้เป็นถนนที่สวยที่สุดในประเทศ ระยะทางรวมยาวกว่า 4 กิโลเมตร หวังให้ “คนเสื้อแดง” อยู่กันเต็มพื้นที่

อ้างจำนวนผู้ชุมนุมปั่นตัวเลขให้สูงกว่าม็อบของ “กำนันสุเทพ-กปปส.” เพื่อลดเครดิตของ กปปส. แถมเติมพลัง-เติมเชื้อ ให้ “คนเสื้อแดง” ออกจากบ้านมาร่วมชุมนุม

น่าจับตาว่าตัวเลขผู้ชุมนุมของ นปช.จะมาสักเท่าไร และน่าจับตาว่า “สื่อค่ายแดง” จะช่วยปั่นตัวเลขให้ขึ้นสูงสุดได้สักเท่าไร “ระบอบทักษิณ” คงต้องช่วยกันทั้งขบวน เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง

ทว่า ยี่ห้อ นปช. เรื่องจริงคือไม่อยากเข้ามาในโซนใน “กทม.” เพราะกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยการปะทะกับ “นักศึกษารามคำแหง” ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน

อย่าลืมว่าผู้ชุมนุม “คนเสื้อแดง” มักจะมีอาวุธติดตัวอยู่เกือบทุกคน หากเกิดสถานการณ์ความวุ่นวายขึ้น “แกนนำ นปช.” คงไปห้ามไม่ให้ผู้ชุมนุมยิงไม่ได้ แถมยังพ่วงบรรดา “การ์ด นปช.” ฝีมือดี ผ่านการฝึกอาวุธอย่างชำนาญ บางคนเป็น “ทหารพรานเก่า” บางคนเป็น “ทหารอกหัก” คอยร่วมสหบาทาอยู่ตลอด

เมื่อรู้ว่าควบคุมยาก “ไอ้ตู่-ไอ้เต้น” จึงขออยู่ห่างๆ กปปส.เอาไว้

ชั่วโมงนี้ “ไอ้ตู่-ไอ้เต้น” กลัวว่าจะเกิดการปะทะกันรุนแรงบานปลายจน “กองทัพ” อดรนทนไม่ไว้ แต่ฟันธงล่วงหน้าได้เลยว่ายี่ห้อ “นปช.แดงทั้งแผ่นดิน” ไปที่ไหนรุนแรงที่นั่น

ประเทศไทยรอวันแตกหักอย่างเดียว!
กำลังโหลดความคิดเห็น