โฆษก ปชป.รับบ้านเมืองหาทางออกยาก เหตุผู้มีอำนาจดูแลความเรียบร้อย ดันยุจัดสาวกชน กปปส. มีซ่องสุมอาวุธ ฝืน พ.ร.บ.มั่นคงซะเอง ชี้เป็นรัฐล้มเหลว ปชช.ต้องประณาม ให้ฝ่าย กม.สอบผิด กม.หรือไม่ จวกตัดตอนบึ้มมีนบุรี ทั้งที่ส่อโยงแดงชุมนุมใหญ่ หวังก่อวินาศกรรม หลังนายกฯเข้าตาจน ขอทหารดูแล ปชช. องค์กรอิสระต้องตรงไปตรงมา อัด รมว.กต.ไร้ความรู้จัดเลือกตั้งก่อนสงกรานต์ไม่ได้ เหตุไม่มี พ.ร.ฎ. จ้อแค่หวังบีบ กกต.
วันนี้ (1 เม.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ประเมินสถานการณ์บ้านเมืองว่า เป็นไปได้ยากที่ประเทศไทยจะหาทางออกได้ง่าย เพราะจากคำพูดของผู้มีอำนาจในปัจจุบันเป็นอุปสรรคที่ทำให้ลดการเผชิญหน้าเช่น มีการเชิญชวนคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวประชันกับกลุ่ม กปปส. และยังมีการซ่องสุมอาวุธอย่างต่อเนื่อง
“เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้เพราะเป็นผู้มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในฐานะที่เป็น ผอ.ศอ.รส.และประธาน ศอ.รส.แต่กลับปลุกระดมให้ประชาชนออกมาเผชิญหน้ากัน แสดงให้เห็นว่าเรามีรัฐบาลที่ล้มเหลวไม่สามารถดำเนินการดูแลความสงบหรือบริหารประเทศต่อไปได้ ประชาชนต้องช่วยกันประณามพฤติกรรมเลือกปฏิบัติ มีเจตนารมณ์ใช้อำนาจ กฎหมายเพื่อประโยชน์ส่วนตน โดยในขณะนี้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง แต่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกลับมีพฤติกรรมปลุกระดมให้มีการเคลื่อนไหวที่อาจจะเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.บ.ความมั่นคง ย่อมแสดงให้เห็นว่าบุคคลทั้งสองไม่มีเจตนาดูแลประชาชน แต่จงใจยั่วยุให้ประชาชน จัดกิจกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อการขัดกฎหมาย โดยฝ่ายกฎหมายของพรรคกำลังตรวจสอบว่าเป็นการกระทำที่ขัดกฎหมายความมั่นคงหรือไม่ และเห็นว่าทั้งสองคนต้องรับผิดชอบทางการเมืองนอกเหนือจากทางกฎหมายด้วย”
นายชวนนท์กล่าวว่า การพบระเบิดที่มีนบุรีทำอย่างเป็นขบวนการ มีการทำลายหลักฐาน และฝ่ายการเมืองพยายามตัดตอนว่าเป็นการกระทำของวัยรุ่นที่คึกคะนอง ทั้งที่น่าจะเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงที่จะมีการชุมนุมใหญ่วันที่ 5 เม.ย. โดยเชื่อว่าจะมีการก่อวินาศกรรมตามสถานที่ต่างๆ เพื่อปกป้องรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ให้ถูกดำเนินการทางกฎหมาย เป็นความพยายามใช้ความรุนแรงเพื่อต่อรองกฎหมายของประเทศ จับประเทศไทยเป็นตัวประกันตามยุทธศาสตร์สังหารประเทศไทย เพราะยิ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้าตาจนมากเท่าไหร่ ความรุนแรงและการใช้กำลังจะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น จึงขอเรียกร้องไปยังทหารที่ยังสามารถดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นรัฐบาลซ่องโจรจงใจใช้ความรุนแรงกับประชาชน ปล่อยให้มีการใช้กองกำลังส่วนตัวมาจัดการกับปัญหา ในขณะที่องค์กรอิสระจะต้องทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา และฝ่ายความมั่นคงยึดกฎหมายดำรงตนบนความถูกต้องโดยไม่โอนอ่อนต่อการคุกคามของรัฐบาลซ่องโจรที่คิดหาทางออกให้ตัวเองเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ทั้งนี้ ประเทศจะหลุดพ้นเงื้อมมือโจรหรือไม่ขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งในการทำหน้าที่ของทุกภาคส่วนในสังคมไทย
ส่วนกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศ เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งก่อนวันสงกรานต์นั้น เป็นการพูดของคนที่ไม่มีความรู้ เพราะเป็นไปไม่ได้เนื่องจากยังไม่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งใหม่ แต่พูดเพื่อกดดันการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ที่มีหน้าที่ดำเนินการจัดการเลือกตั้ง ไม่ได้ต้องการให้ประเทศเข้าสู่ภาวะเจรจา จงใจใช้กำลังกับประชาชนที่เห็นต่าง ตอกย้ำว่าคิดถึงแต่อำนาจและความต้องการของตัวเอง จึงไม่ขอเรียกร้องกับคนเหล่านี้อีกต่อไป แต่ขอเรียกร้องไปยัง กกต. ให้หาทางออกในการจัดการเลือกตั้งที่เหมาะสมและเป็นการเลือกตั้งที่ประชาชนยอมรับและให้การสนับสนุน พร้อมกันนี้พรรคกำลังให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบคำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะ ผอ.ศอ.รส. และนายสุรพงษ์ที่ให้สัมภาษณ์ในลักษณะปลุกระดมให้มวลชนมาเผชิญหน้ากันว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะอยู่ในช่วงของการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง และบุคคลทั้งสองดูแลรับผิดชอบงานด้านความมั่นคงด้วย ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่มีเจตนาที่จะหาทางออกให้กับประเทศ แต่เป็นการหาทางออกให้ตัวเอง