xs
xsm
sm
md
lg

“อ๋อย” ลั่นสาวกไม่ยอมองค์กรอิสระฟัน “ปู” ชงทางลง “เทือก” ฟื้นชนชั้นนำ-อำมาตย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ(แฟ้มภาพ)
“จาตุรนต์” ฟันธง ป.ป.ช.ชี้มูลนายกฯ ปล่อยโกงข้าว ตอกย้ำ ปชป.ลงเลือกตั้งไร้ทางชนะ เหตุ ปชช.เห็นชัดเลือกปฏิบัติ ต่างจากคดีข้าว-สั่งฆ่า ปชป. ฉะใช้อำนาจหาทางลงให้ม็อบกำนัน มโน 5 เหตุที่รัฐเสียประโยชน์ ตราหน้าองค์กรอิสระจัดการการเมืองไม่เป็นธรรม เพ้อถึงขั้นฟื้นชนชั้นนำและอำมาตย์สร้างระบบเผด็จการ ลั่นสาวกไม่ยอม ทำป่วนไม่รู้จบ

วันนี้ (30 มี.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในคดีข้อกล่าวหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวว่า การตัดสินของ ป.ป.ช.จะยิ่งทำให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีทางชนะการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะลงเลือกตั้งในครั้งนี้หรือครั้งหน้าก็ตาม ทั้งนี้เพราะประชาชนจะรู้สึกว่า ป.ป.ช.ได้เลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน กรณีโครงการจำนำข้าวยังไม่มีการพิสูจน์ให้ถึงที่สุดว่าในระดับผู้ปฏิบัติหรือผู้รับผิดชอบโดยตรงใครทำผิดหรือทุจริตอย่างไร แต่กลับจะเอาผิดกับนายกฯในข้อหาปล่อยปละละเลยหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ การตั้งข้อกล่าวหาก็มาแบบไม่มีปีไม่มีขลุ่ย จู่ๆ ก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหันและรวบรัดอย่างมาก ต่างจากกรณีการขายข้าวของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์หรือกรณีการสั่งฆ่าประชาชนเมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค. 53 ซึ่ง ป.ป.ช.กลับทำงานอย่างล่าช้ามาก ป่านนี้ก็ยังไปไม่ถึงไหน

“การดำเนินการของ ป.ป.ช.จึงเข้าลักษณะใช้อำนาจหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมาแก้ปัญหาการเมืองคือเพื่อหาทางลงให้สุเทพกับพวกเสียมากกว่า”

นายจาตุรนต์กล่าวด้วยว่า มาถึงวันนี้จึงมีกรณี 5 กรณีทั้งที่เกิดขึ้นแล้วและกำลังจะเกิดขึ้นที่องค์กรอิสระ และศาลรัฐธรรมนูญร่วมกันดำเนินการเพื่อจัดการกับการเมืองอย่างไม่เป็นธรรม ได้แก่ 1. การวินิจฉัยว่าการแก้รัฐธรรมนูญของสมาชิกรัฐสภาเป็นการขัดมาตรา 68 ที่นำไปสู่การถอดถอนและดำเนินคดีอาญาต่อสมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ รวมทั้งประธานวุฒิสภา และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ในขณะที่ให้การคุ้มครองการเคลื่อนไหวของ กปปส.ด้วยการวินิจฉัยว่าเป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 2. การคว่ำร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่มีผลเป็นการล้มโครงการรถไฟความเร็วสูงและการพัฒนาระบบคมนาคมของประเทศที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้เกิดขึ้น 3. การขัดขวางการเลือกตั้งของ กปปส. การไม่ตั้งใจจัดการเลือกตั้งของ กกต. และการวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ซึ่งมีผลเท่ากับจะไม่การเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญปัจจุบันได้อีกแล้ว

4. การที่ ป.ป.ช.เลือกปฏิบัติต่อนายกฯ แตกต่างจากที่ปฏิบัติต่อรัฐบาล ปชป.อย่างชัดเจน นำไปสู่การชี้มูลนายกฯ การถอดถอนและการดำเนินคดีอาญานายกฯ อย่างรวบรัดผิดปกติ 5. การทำให้ ครม.รักษาการต้องพ้นไปและการตั้งนายกฯ และรัฐบาลใหม่ขึ้นมาแทนที่โดยไม่ผ่านการเลือกตั้งซึ่งเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญอย่างร้ายแรงไม่ต่างจากการฉีกรัฐธรรมนูญหรือรัฐประหารโดยศาลรัฐธรรมนูญนั่นเอง

นายจาตุรนต์เห็นว่า ทั้ง 5 กรณีนี้จะทำให้ประชาชนส่วนใหญ่รับไม่ได้ และจะทำให้เกิดสภาพที่ยิ่งชนชั้นนำและอำมาตย์จัดการด้วยความไม่เป็นธรรมมากเท่าใด ประชาชนก็จะยิ่งปฏิเสธมากเท่านั้น จนกระทั่งประชาชนจะไม่ยอมให้พรรคการเมืองที่ชนชั้นนำและผู้มีอำนาจสนับสนุนได้เป็นรัฐบาลดังที่ตั้งใจไม่ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นก่อนหรือหลังการฉีกรัฐธรรมนูญก็ตาม

“เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะกลายเป็นความจำเป็นที่ชนชั้นนำและอำมาตย์จะต้องสร้างระบบที่ยิ่งเป็นเผด็จการยิ่งกว่าที่เคยวางแผนไว้ เพื่อเป็นหลักประกันว่าพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยจะไม่ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกถึงแม้จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งก็ตาม ระบบที่เป็นเผด็จการเช่นนี้จะไม่เป็นที่ยอมรับและจะทำให้สังคมไทยก้าวไปสู่ความขัดแย้งและความรุนแรงไม่สิ้นสุด” นายจาตุรนต์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น