xs
xsm
sm
md
lg

“จาตุรนต์” ตกร่องโทษองค์กรอิสระมาจากรัฐประหารเล่นงาน “จารุพงศ์” ไม่กลัวเพื่อไทยถูกยุบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จาตุรนต์ ฉายแสง (ภาพจากแฟ้ม)
“จาตุรนต์” คุยโขมง เหน็บ “สุเทพ-ปชป.” กดดันให้เกิดรัฐประหารแต่ทำไม่ได้ ต้องการให้รัฐบาลเกิดสูญญากาศ จับผิดศาล รธน. จับมือ ป.ป.ช.-ผู้ตรวจการแผ่นดินโค่นล่ม แผ่นเสียงตกร่องโทษรัฐประหารทำองค์กรอิสระไม่อิสระจริง ลั่น ครม. ไม่ออกไปแน่นอน ด่า กกต. ไม่เต็มใจจัดเลือกตั้ง พยายามเอาผิดจ้อทีวีไม่เป็นกลาง “จารุพงศ์” ไม่กลัวหาก กกต. ฟันถึงยุบพรรค เย้ยคงไม่สูญพันธุ์

วันนี้ (16 มี.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่ม กปปส. ที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพวกสนับสนุนร่วมมือโดยพรรคประชาธิปัตย์ สร้างเงื่อนไขต่างๆ กดดันสร้างสภาพที่รัฐบาลบริหารปกครองไม่ได้ เพื่อที่จะให้เกิดความรุนแรงนำไปสู่การรัฐประหาร แต่มันก็ยังไม่สามารถทำได้ ฝ่ายผู้มีอำนาจไม่ได้ต้องการแค่ให้รัฐบาลนี้ล่มไป เขาต้องการหลักประกันว่าไม่ให้พรรคเพื่อไทยกับพวกมาเป็นรัฐบาล ให้ฝ่ายที่เขากำหนดได้ เช่น พรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคประชาธิปัตย์กับคนนอกก็ได้ นั่นหมายความว่าการเลือกตั้งแบบนี้ไม่เอาแล้ว ต้องเปลี่ยนระบบ เปลี่ยนกติกา นั่นคือข้ออ้างการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง แต่ในเมื่อรัฐธรรมนูญปัจจุบันทำไม่ได้ ก็ต้องฉีกรัฐธรรมนูญ แต่ที่สำคัญคือการเปลี่ยนแปลงอย่างนั้นประชาชนจะยอมหรือไม่ ครั้นพอต่อต้านคัดค้านอย่างรุนแรง ผู้นำกองทัพก็อาจจะออกมาบอกว่ากฎหมายต้องเป็นกฎหมายบ้างล่ะ จากปัจจุบันบอกว่าขอวางตัวเป็นกลาง ถ้าเสื้อแดงออกมาเมื่อไรก็พร้อมจะเล่นงาน เพราะฉะนั้นในอนาคตถ้าเกิดมีการฉีกรัฐธรรมนูญกันโดยองค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญ มีคนมาต่อต้าน ก็อาจมีคนออกมาเล่นงาน มันก็จะกลายเป็นความรุนแรง และนำไปสู่การรัฐประหารได้

นายจาตุรนต์กล่าวว่า วันนี้มีการยุบสภาไปแล้ว ครม. ก็พ้นทั้งคณะ มันไม่มีประเด็นว่าจะลาออกอีกได้แล้ว ต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไป เพื่อไม่ให้ว่างเว้นจากการมี ครม. ไม่ใช่ให้ข้าราชการประจำมาเป็น ครม. หรือให้คนนอกมาเป็น ครม. อันนั้นมันไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลต้องการกดดันให้เกิดสุญญากาศ ให้ ครม. ออกหมด เพื่อที่จะไปใช้มาตรา 7 ซึ่งจริงๆ ก็ใช้ไม่ได้อีก ไม่เข้าข่าย ตนคิดว่า ครม. ไม่มีวันที่จะให้ลาออกไปหมดแน่นอน อย่างตอนนี้ที่ไปร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ ครม. พ้นไปทั้งคณะ ก็ทำไม่ได้ รัฐธรรมนูญบอกว่า ครม. ทั้งคณะต้องดำรงตำแหน่งต่อไป จนกว่าจะมี ครม. ชุดใหม่เข้ามา ถ้าวินิจฉัยว่าพ้น ก็แสดงว่าร่วมมือกัน เช่น ป.ป.ช. หรือผู้ตรวจการแผ่นดิน ลงมติให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย อันนี้คือถ้าทำแบบนี้ก็หมายความว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโดยขัดกับรัฐธรรมนูญอีกแล้ว คือขัดมาหลายรอบแล้ว และก็จะขัดอีก ก็ต้องดูกันว่า องค์กรอิสระ และศาลรัฐธรรมนูญจะทำอย่างไรต่อไป

“องค์กรอิสระที่ตั้งขึ้น มาจากการยึดอำนาจของคณะรัฐประหาร ฉะนั้นก็เลยไม่เป็นกลาง ไม่เป็นอิสระจริง แต่กลายเป็นองค์กรมีสังกัด ทำให้สามารถเลือกปฏิบัติได้ สามารถเลือกหยิบเรื่องใดมาพิจารณา หรือตกไปก็ได้ และไม่มีใครตรวจสอบองค์กรเหล่านี้ได้ และนอกจากจะมาจากการรัฐประหารแล้ว คณะกรรมการของกลุ่มองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญปัจจุบันยังมีที่มาจากฝ่ายตุลาการเป็นหลัก ซึ่งมันก็ผิดหลักการตรวจสอบถ่วงดุลอีก เช่น ในฝ่ายตุลาการล้วนเลือกกันเอง และวุฒิสภาซึ่งครึ่งหนึ่งก็มาจากพวกเขากันเองอีก ทำให้องค์กรอิสระที่มีหน้าที่ป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันของพวกเราไม่สามารถทำได้ตามวัตถุประสงค์ที่อ้างได้ ระบบการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันของประเทศเราจึงเป็นระบบที่ไม่มีประสิทธิภาพและไม่เที่ยงธรรมอย่างยิ่ง จะว่าไปแล้วยังเป็นระบบที่จะส่งเสริมการทุจริตในระยะยาวอย่างมาก” นายจาตุรนต์กล่าว

นายจาตุรนต์กล่าวด้วยว่า สำหรับบทบาทของกกต.ที่ผ่านมาไม่เต็มใจจัดการเลือกตั้ง ไม่ได้พยายามเอาจริงเอาจังกับการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จ เมื่อมีคนมาขัดขวาง ก็บอกว่าเขามาแสดงสิทธิเสรีภาพ ไม่ค่อยปรากฏว่ากกต.เอาจริงเอาจังกับการดำเนินคดี แล้วก็พยายามทำอะไรอย่างช้าๆ ชี้ช่องว่าการเลือกตั้งน่าจะเป็นโมฆะ ตอนนี้ก็เห็นกกต.มาเล่นงานนักการเมืองบ้าง รัฐมนตรีบ้าง พยายามเอาผิดนักการเมืองที่เคยออกรายการโทรทัศน์ จะเล่นงานหลายแง่หลายมุม ทั้งๆที่เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามปกติ แสดงถึงความไม่เป็นกลาง

ด้านนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กกต.ตรวจสอบ 16 ผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ออกรายการทีวี หากพบว่ามีความผิดจริงมีโทษถึงขั้นยุบพรรคว่า เรื่องนี้ขอให้เป็นไปตามกระบวนการตรวจสอบ เราได้ชี้แจงข้อเท็จจริง เหตุผลต่างๆแล้ว เราเป็นพรรคการเมืองทำอะไรชี้แจงได้ ส่วนการทำหน้าที่ของกกต.นั้น ไม่ต้องบอกอะไรมาก ทุกคนรู้ว่าเป็นอย่างไร ไม่มีใครโง่หรอก อย่างไรเขาก็ทำอยู่แล้ว ตนอยากบอกว่าวันนี้บ้านเมืองเราขัดแย้งมากอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีความพยายามทำในสิ่งที่ทำให้ขัดแย้งมากขึ้น พรรคเพื่อไทยพยายามรักษาระบบประชาธิปไตย แต่ฝ่ายตรงข้ามพยายามตีรวน ทำให้ระบบมันเพี้ยน ต้องการล้มประชาธิปไตย ไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง เพราะแข่งกี่ครั้งก็แพ้ตลอด วันนี้ต้องเข้าใจว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตย กับ ฝ่ายเผด็จการ แน่นอนเราต้องสู้เต็มที่ สู้ทุกทาง เพื่อเอาประชาธิปไตยมาให้ประชาชน อย่างไรก็ตามหากจะมีการยุบพรรคเพื่อไทย ก็ไม่ได้ทำให้เราสูญพันธุ์ ดูตัวอย่างตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ยุบกี่ครั้งเราก็กลับมาได้ เรายังอยู่มาได้


กำลังโหลดความคิดเห็น