โฆษก ปชป.ยันไร้ความจำเป็นรัฐกดดัน กกต.ให้จัดเลือกตั้งตามใจ เหตุมีคำร้องศาล รธน.เลือกตั้ง ส.ส.โมฆะ ให้เลือกตั้งพร้อม ส.ว.ยิ่งสร้างปัญหา ขอทุกฝ่ายยอมรับคำวินิจฉัย ดักคอ พท.เร่งเลือกตั้งให้เสร็จก่อนศาลตัดสิน เหตุรู้ส่อโมฆะ หวังใช้เสียง ปชช.มาต่อรอง ขู่ศาลแบบเดิมๆ หนุน กปปส.ปฏิรูป ให้ทุกฝ่ายเสนอ สะกิดนายกฯ ดีเบต “มาร์ค-เทือก” เชียร์เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่นายกฯ ต้องรับรองความปลอดภัย
วันนี้ (10 มี.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงขบวนการกดดันให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เดินหน้าการเลือกตั้งตามความต้องการของรัฐบาลว่า ไม่มีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการดังกล่าว เพราะมีคำร้องจาก 2 หน่วยงาน คือ ผู้ตรวจการแผ่นดิน และ กกต. ไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้วินิจฉัยเกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้งที่ผ่านมาว่าเป็นโมฆะหรือไม่ จึงไม่จำเป็นที่ภาคส่วนที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งจะกดดันให้เกิดการเลือกตั้งพร้อม ส.ว. เพราะไม่ทำให้การเลือกตั้งเกิดได้จริงแต่ยังสร้างปัญหาเพิ่มเติมจนกระทบการเลือกตั้ง ส.ว.ได้ รัฐบาลต้องเสียสละเพราะการเลือกส.ว.จะเกิดปลายเดือนนี้ซึ่งมีความเรียบร้อยพอสมควรแต่ถ้านำการเลือกตั้ง ส.ส.ไปรวมด้วยจะเกิดความวุ่นวาย คือ 1. ประชาชนเกิดความสับสน 2. เกิดการต่อต้านในหลายพื้นที่จนทำให้การเลือกตั้ง ส.ว.ได้รับผลกระทบเป็นการขยายวงปัญหาออกไปยัง ส.ว. จึงขอให้ทุกฝ่ายยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
“ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมพรรคเพื่อไทยต้องการให้เลือกตั้งเร็วและจบก่อนศาลมีคำวินิจฉัย หรือเป็นเพราะทราบดีว่าการเลือกตั้งมีแนวโน้มที่จะเป็นโมฆะ เพราะขัดรัฐธรรมนูญหลายประการ ทำให้พรรคเพื่อไทยดิ้นรนให้เกิดการเลือกตั้งหลายเขตมากที่สุด เพื่อหวังผลว่าตัวเองจะเป็นเสียงข้างมาก เอาเสียงประชาชนมาต่อรองไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้ง เป็นละครบทเดิมที่รู้ว่าจะแพ้ในกระบวนการยุติธรรมก็พยายามเอาเสียงของประชาชนที่เลือกตัวเองมาข่มขู่กระบวนการยุติธรรมและปฏิเสธการรับอำนาจของศาล จึงขอให้คนไทยกดดันให้รัฐบาลเลิกทำตัวเป็นปัญหากับกระบวนการยุติธรรม แต่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบในสังคม เลิกสร้างความแตกแยก เพื่อให้ประเทศสงบและเดินหน้าได้อย่างแท้จริง”
นายชวนนท์ยังกล่าวสนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่อเดินหน้าปฏิรูปประเทศของกลุ่ม กปปส.ว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม เพราะถึงเวลาที่คนไทยต้องร่วมกันขับเคลื่อนประเทศให้พ้นวิกฤตทุกด้าน จึงอยากให้ทุกฝ่ายเสนอแนวทางปฏิรูปของตัวเอง โดยพรรคจะเสนอแนวทางปฏิรูปของพรรคในวันที่ 28 มี.ค.ทั้ง 7 ด้านที่ใกล้เคียงและสอดคล้องกับภาคประชาชน ซึ่งถือว่าเป็นมิติด้านบวกของประเทศในการสร้างโอกาสให้ประเทศไทยและประชาชน และขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ ร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯ กปปส. หรือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะเป็นประโยชน์สำหรับประเทศชาติ
นอกจากนี้ พรรคยังสนับสนุนแนวคิดที่จะยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะที่ผ่านมาการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับผู้ชุมนุมรายวัน จนเจ้าหน้าที่ทหารต้องออกมาให้ความคุ้มครองประชาชน แต่ก็เกรงว่าความคิดยกเลิก พระราชกำหนดฉุกเฉินเพื่อกำจัดไม่ให้มีการตรวจอาวุธหรือเปิดโอกาสให้ชายชุดดำเข่นฆ่าประชาชนหรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นพวกตนไม่เห็นด้วย ดังนั้นหากจะมีการยกเลิก น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องกล้าที่จะยืนยันความปลอดภัยให้ประชาชนด้วย