xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ทำฮึ่มสั่งกำลังพลห้ามยุ่งเกี่ยวม็อบ ขู่ตำรวจจับพกอาวุธรับโทษทางวินัยพ่วงอาญา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แม่ทัพภาคที่ 1 เผยร่วมกับตำรวจจัดชุดลาดตระเวน ส่วนองค์กรอิสระเป็นหน้าที่ตำรวจ เผย ผบ.ทบ.กำชับห้ามทหารยุ่งเกี่ยวทุกฝ่าย หากดื้อตำรวจจับมาก็สั่งปลดกันไป ขอเสื้อแดง-กปปส. ชุมนุมใหญ่อย่าใช้ความรุนแร เผยปิดตรากาชาดตามที่สภากาชาดไทยทักท้วงแล้ว ที่ประชุม ทบ. เผย “ประยุทธ์” สั่งทุกหน่วยติดตามข่าวการชุมนุมทุกกลุ่ม เตือนกำลังพลพกอาวุธเข้าชุมนุมต้องรับโทษ พร้อมสั่งดูแลคลังอาวุธ

วันนี้ (24 มี.ค.) ที่กองทัพภาคที่ 1 เมื่อเวลา 15.30 น. พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวถึงการปรับจุดตรวจความมั่นคงในการดูแลรักษาความปลอดภัยภายหลังมีการปรับมาใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงว่า มีการเปลี่ยนแปลงตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) อยู่แล้ว เพื่อสามารถดูแลประชาชนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเมื่อยังมีเหตุระเบิดอยู่ก็ต้องดูแลเต็มที่โดยจะช่วยเหลือในทุกเรื่องและทุกฝ่าย ไม่มีการแบ่งแยก โดยกองทัพภาคที่ 1 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจัดชุดลาดตระเวน อีกทั้ง ผบ.ทบ. ได้สั่งการชัดเจนในการเพิ่มจุดลาดตระเวนเพื่อดูแลประชาชนในทุกภาคส่วนให้เกิดความสงบเรียบร้อย ไม่ให้มีปัญหาความรุนแรงเกิดขึ้น

ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ โดยเฉพาะองค์กรอิสระนั้น ทางตำรวจก็ได้เน้นในเรื่องนี้และเข้าไปดูแลองค์กรอิสระทั้งบ้านพักและสำนักงาน ทหารเป็นเพียงผู้ช่วยเจ้าพนักงานที่เข้าไปช่วยดูแลในบางส่วน สำหรับกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงและกลุ่ม กปปส. จะมีการนัดชุมนุมใหญ่นั้น ขอให้คุยกัน อย่าใช้ความรุนแรง เพราะทุกคนไม่ต้องการใช้ความรุนแรง ทั้งนี้ขี้นอยู่กับแต่ละกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหว แต่ขอให้อยู่ในกฎหมาย และอยู่ในความสงบ ส่วนการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ที่นอกเหนือการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงนั้น เป็นเรื่องของรัฐบาล ทางกองทัพภาคที่ 1 จะดูแลในพื้นที่ตามความรับผิดชอบ

เมื่อถามถึงกรณีที่ช่วงนี้มีทหารถูกตำรวจจับพร้อมอาวุธปืนอยู่บ่อยครั้ง พล.ท.ธีรชัย กล่าวว่า ผบ.ทบ.สั่งการกำชับและเน้นย้ำในเรื่องนี้อย่างชัดเจนอยู่ตลอดเวลา และกำชับอย่างเด็ดขาดว่า ไม่ให้มีทหารไปยุ่งเกี่ยวกับทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม เรายืนอยู่ตรงกลาง ดูแลประชาชนทุกส่วน ทุกหมู่เหล่า แต่เมื่อมีทหารบางคนนอกลู่นอกทางออกไป เราก็จะดำเนินการเต็มที่ เมื่อตำรวจจับมา หากมีความผิดมากก็ต้องปลดไป เพราะถือว่า มีการสั่งการแล้ว แต่ถ้ายังมีกำลังพลส่วนไหนที่ยังดื้อออกไปทำผิดกฎหมาย เราจะดำเนินการตามกฎหมายอยู่แล้วไม่ต้องห่วง

เมื่อถามถึงกรณีที่ทางสภากาชาดไทยได้ทำหนังสือมายังกองทัพบก เพื่อขอไม่ให้ติดเครื่องหมายกาชาดบริเวณบังเกอร์ทหาร พล.ท.ธีรชัย กล่าวว่า โดยปกติทางทหารถือว่าการมีเครื่องหมายกาชาดอยู่ถือว่าบริเวณนั้นมีความปลอดภัย ไม่ว่าจะติดอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ ติดรถยนต์ ซึ่งถือว่า เป็นเรื่องสากล แต่ถ้าเกิดความไม่สบายใจเดี๋ยวตนจะดูแลและปรับปรุงให้นำเครื่องหมายออก แต่ในส่วนของทหารเสนารักษ์ ต้องมีสัญลักษณ์ติดตามระเบียบอยู่แล้ว ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องทำหนังสือชี้แจงตอบกลับแต่อย่างใด เพราะเป็นอันเข้าใจได้ว่า หากมีตราสภากาชาดนี้ประชาชนสามารถเข้ามารับการรักษาได้ และเราดูแลให้เต็มที่อยู่แล้ว แต่ถ้ามีบางส่วนบางฝ่ายไม่สบายใจตนจะปรับเปลี่ยนให้แต่ยืนยันว่าจะอยู่ดูแลประชาชนเหมือนเดิม

ด้าน พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1รอ.) ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังทหาร กล่าวถึงการตั้งจุดตรวจความมั่นคงว่า ตามมติที่ประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ให้คงบังเกอร์ทหารไว้ทั้ง 176 จุดตามเดิม ซึ่งเป็นไปตามความเห็นของตัวแทนของ พล.1รอ. ที่ได้เข้าร่วมประชุม เพราะจุดตรวจดังกล่าวยังมีความสำคัญ และที่ผ่านมามีการตรวจพบอาวุธและมีการก่อเหตุอยู่ แต่จะมีการจัดชุดลาดตระเวนให้มากขึ้น พร้อมประสานการทำงานให้กระชับคล่องตัว โดยทางตำรวจได้ประสานมาขอกำลังทหารไปร่วมลาดตระเวนกับตำรวจเพิ่มเจ้ามากขึ้นกว่าเดิมโดยให้เหตุผลว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้เลย

พล.ต.วราห์ กล่าวว่า การตั้งจุดตรวจที่ผ่านมาส่งผลให้สามารถสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายและการก่อเหตุให้เบาบางลง ไม่ให้ผู้ก่อเหตุดำเนินการได้สะดวก ส่วนกรณีที่กำลังพลถูกจับกุมพร้อมอาวุธบ่อยครั้ง ทางกองทัพบกได้ตรวจสอบทุกกรณี พบว่ามีทั้งที่เป็นกำลังพลของกองทัพบกและไม่ใช่ ซึ่งเราไม่ได้ปฎิเสธ ส่วนที่ทางสภากาชาดไทยขอให้นำเครื่องหมายกาชาดออกจากบังเกอร์นั้น ทางกองทัพบกได้แจ้งมาแล้ว ซึ่งตนได้ให้มีการนำผ้ามาปิดเครื่องหมายดังกล่าวแล้วเพื่อให้เกิดความเหมาะสมตามข้อทักท้วง ส่วนเจ้าหน้าที่เสนารักษ์ก็ให้คงไว้ตามปกติ หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้สามารถปฎิบัติหน้าที่ทันที

ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กรณีสภากาชาดไทย ขอให้กองทัพบกพิจารณาความเหมาะสมการใช้เครื่องหมายกาชาด เนื่องจากพบว่า ในบางจุดที่ใช้เป็นจุดตรวจร่วมบริการประชาชน อาจมีการใช้เครื่องหมายกาชาดร่วมไว้กับข้อความหน้าเต้นท์ ซึ่งในเต้นท์เดียวกันอาจมีชุดปฏิบัติงานที่หลากหลาย ทั้งชุดเสนารักษ์ ชุดช่างภาพ ชุดประชาสัมพันธ์ และชุดรักษาความปลอดภัย ที่บางส่วนจำเป็นต้องมีอาวุธไปปฏิบัติงานอยู่ร่วมกัน

ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามหลักการของทางกาชาด และเพื่อไม่ให้สับสนต่อผู้ที่พบเห็น จึงได้เสนอแนะให้นำเครื่องหมายกาชาดแยกออกจากข้อความบนหน้าเต้นท์ ในกรณีที่ในจุดตรวจร่วมนั้นๆ อาจมีเจ้าหน้าที่ที่จำเป็นจะต้องมีอาวุธไว้เพื่อป้องกันตนเอง ส่วนชุดเสนารักษ์ ถ้าแยกปฏิบัติงานก็ยังสามารถใช้เครื่องหมายร่วมกับข้อความหน่วยแพทย์ทหารได้ ซึ่งขณะนี้ทางกองทัพบกอยู่ระหว่างดำเนินการเพี่อให้เกิดความเหมาะสมต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมติดตามสถานการณ์ประจำวันที่กองบัญชาการกองทัพบก โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานในการประชุม โดยที่ประชุมทางหน่วยข่าวได้มีการรายงานความเคลื่อนไหวของการชุมนุมทุกกลุ่ม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ รวมถึงพูดถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ได้ประกาศเคลื่อนขบวนครั้งใหญ่ในวันที่ 29 มี.ค. และการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในวันที่ 5 เม.ย.นี้ โดยที่ประชุมได้ประเมินสถานการณ์และเป็นห่วงว่าจะเกิดความรุนแรงในช่วงเดือน เม.ย. ซึ่ง ผบ.ทบ. ได้สั่งให้หน่วยข่าวติดตามการชุมนุมของ กปปส. และกลุ่ม นปช. พร้อมให้กรมพระธรรมนูญเร่งรัดในคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมที่ยังไม่มีความคืบหน้า

ส่วนกรณีที่มีกำลังพลมักถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม พร้อมอาวุธหลายครั้งในช่วงนี้ ผบ.ทบ.ระบุว่า การเดินทางในยามค่ำคืนของกำลังพล แม้เป็นเรื่องส่วนตัวและอยู่นอกเวลาราชการ แต่หากถูกจับกุมก็ต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งทางหน่วยต้นสังกัดไม่สามารถเข้าไปดูแลได้ เพราะถือเป็นเรื่องส่วนตัว และหากกำลังพลเข้าไปร่วมชุมนุมโดยมีการพกอาวุธนั้นถือว่าทำให้กองทัพเสียชื่อเสียง จะต้องได้รับโทษทางอาญาและทางวินัย พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้ผู้บังคับหน่วยเพ่งเล็งเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยให้ ผบ.หน่วยดูแลและควบคุมการใช้อาวุธในคลังอาวุธ หากกำลังพลนำอาวุธของกองทัพออกมาใช้โดยไม่มีคำสั่งทางราชการ ทางผู้บังคับหน่วยต้องรับผิดชอบ


กำลังโหลดความคิดเห็น