หัวหน้าภูมิใจไทยเปิดประชุมใหญ่สามัญพรรค แกนนำพรึ่บ ถกเลือก “ทรงศักดิ์” นั่งรองหัวหน้าแทน “บุญจง” หลังทิ้งเก้าอี้ ยันในก๊วนยังเป็นสมาชิกพรรคลงเลือกตั้งครั้งหน้าเหมือนเดิม ตั้ง กก.นโยบาย 3 ชุด ระบุน้อมรับคำตัดสินเลือกตั้งโมฆะ พร้อมลุยสู้ศึกเหมือนเดิม แต่แนะเรียกเจรจาก่อนปฏิรูป เตือนนายกฯ คนกลางพรรคการเมืองไม่ยอมแน่
วันนี้ (24 มี.ค.) ที่พรรคภูมิใจไทย เมื่อเวลา 09.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2557 ของพรรค โดยมีแกนนำและสมาชิกพรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง เช่น นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรค นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รองหัวหน้าพรรค นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรค และนายชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา ซึ่งวาระการประชุมพิจารณาที่สำคัญ อาทิ การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคคนที่ 1 แทนที่ว่าง การเลือกตั้งคณะกรรมการนโยบายพรรคการเมือง คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมือง คณะกรรมการส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในพรรคการเมือง
ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายอนุทินกล่าวว่า พรรคได้เลือกนายทรงศักดิ์ ทองศรี อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ และอดีต รมช.คมนาคม เป็นรองหัวหน้าพรรคคนที่ 1 แทนนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ที่ลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคคนที่ 1 ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แต่ยืนยันว่านายบุญจงยังเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เพียงแค่ลาออกจากการเป็นรองหัวหน้าพรรค ซึ่งนายบุญจงได้ลาออกก่อนการแถลงข่าวที่สยามซิตีกรณียุติการหาเสียงเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. และยืนยันว่าทุกคนที่ร่วมแถลงข่าวในวันดังกล่าวยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ ส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้าทั้งหมดจะได้ลงสมัครในนามพรรคเหมือนเดิมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง
พร้อมกันนี้ยังพิจารณาคัดเลือกคณะกรรมนโยบาย 3 ชุด ประกอบด้วย 1. คณะกรรมการนโยบายพรรค ได้แก่ นายศักดิ์สยาม นายธีรชัย แสนแก้ว นายศุภชัย โพธิ์สุ นายมารุต มัสยวาณิช นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ น.ส.เรวดี รัศมิทัต นายเกียรติ เหลืองขจรวิทย์ และนายปกรณ์ มุ่งเจริญพร 2. คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรค ได้แก่ 1.นายสรอรรถ นายทรงศักดิ์ นายประจักษ์ นางนาที รัชกิจประการ และ น.ส.ศุภมาศ อิศรภักดี และ3. คณะกรรมการส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในพรรค ได้แก่ นายทรงศักดิ์ นายศุภชัย นายทศพล สังขทรัพย์ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ และนายสุริยงค์ หุณฑสาร
นายอนุทินกล่าวอีกว่า ในที่ประชุมพรรคได้มีการยืนยันว่าพรรคยังยึดมั่น และสนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และน้อมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญกรณีการเลือกตั้ง 2 ก.พ. ซึ่งพรรคพร้อมดำเนินกิจกรรมทางการเมืองต่อไป โดยจะให้ผู้สมัครลงพื้นที่ไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะประกาศในวันใดก็ตาม พรรคก็จะใช้นโยบายหลักทั้ง 4 นโยบายในการหาเสียงเช่นเดิม คือ 1. การประกันราคาพืชผลทางการเกษตร 2. การยกเลิกหนี้กองทุนเพื่อการศึกษา 3. การเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ และ 4. การอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ พรรควิงวอนใหทุกฝ่ายตระหนักปัญหาบ้านเมืองที่สั่งสมมานาน ซึ่งได้สร้างความเดือดร้อน ความขัดแย้งมาพอสมควร เมื่อมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้วควรเป็นโอกาสที่ทุกฝ่ายได้หันหน้าเข้าหากัน เพื่อช่วยกันหาทางออกให้บ้านเมือง
นายอนุทินกล่าวว่า นอกจากนี้ พรรคเชื่อว่าไม่ว่าจะปฏิรูปก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง คู่กรณีทุกฝ่ายยังควรต้องมาพบปะกันก่อน เพราะอะไรที่ดำเนินการเพียงฝ่ายเดียว โดยเฉพาะการปฏิรูปทางการเมือง ถ้าไม่ได้รับความเห็นชอบจากทุกพรรค ทุกฝ่ายคงยากที่จะนำมาปฏิบัติได้ การปฏิรูปโดยข้อกฎหมายต่างๆก็ไม่ได้นำมาซึ่งการแก้ปัญหา ถ้าความเข้าใจของทุกฝ่ายยังไม่เกิดขึ้น ไม่เห็นพ้องต้องกัน
ส่วนกรณีที่บางฝ่ายเรียกร้องให้มีนายกรัฐมนตรีคนกลาง นายอนุทินกล่าวว่า ต้องดูระบบในขณะนี้ว่าเป็นอย่างไร หากมีนายกฯ คนกลางต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ เชื่อว่าจะไม่ใช่พรรคเพื่อไทยพรรคเดียวที่จะไม่ยอม แต่พรรคการเมืองอื่นจะไม่ยอมด้วย และจะเกิดคำถามว่ามีพรรคการเมืองทำไม