xs
xsm
sm
md
lg

ภท.เชื่อมีเลือกตั้งใหม่ หนุนคู่ขัดแย้งเจรจายุติปัญหาการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อนุทิน ชาญวีรกูล (แฟ้มภาพ)
ภูมิใจไทย เชื่อจะมีการเลือกตั้งใหม่แน่ สั่งลูกพรรคลงพื้นที่นำนโยบายชี้แจงชาวบ้าน พร้อมให้ความร่วมมือทุกฝ่ายหาทางออกประเทศ หนุนคู่ขัดแยงเจรจาหาข้อยุติ บอกบ้านเมืองบอบช้ำมากแล้ว

ที่พรรคภูมิใจไทย วันนี้ (15 มี.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรค ประชุมผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เพื่อวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ โดยเป็นการประชุมร่วมกันครั้งแรก ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.และยังมีปัญหาการเลือกตั้งยังไม่ครบทุกเขต

นายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่งว่า พรรคยังคงได้รับความสนใจ ขณะเดียวกันสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ ที่ยังคงยืดเยื้อ หาทางออกไม่ได้ แต่พรรคภูมิใจไทย จะไม่เอาประเด็นนี้มาเป็นตัวขัดขวางการดำเนินกิจกรรมของพรรค ซึ่งผู้สมัคร ส.ส.ทั้งที่ได้คะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ให้นำมาเป็นตัวชี้วัดของผู้สมัคร และให้เดินหน้าลงพื้นที่ เพราะส่วนตัวเชื่อว่าการเลือกตั้งอีก 28 เขต รวมถึงการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ยังมีเสียงประชาชนขาดอีกถึง 2 ล้านเสียง ตรงนี้จะเป็นนัยยะสำคัญพลิกโฉมสถานการณ์ได้

“นโยบายของพรรคที่ได้ดำเนินการหาเสียง ทั้งการยกหนี้กองทุนกู้ยืมทางการศึกษา และประกันสินค้าราคาเกษตรทุกชนิด จะต้องมีการสานต่อ และให้ผู้สมัครนำนโยบายนี้ไปหาเสียงอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะเตรียมพร้อมกับการเลือกตั้งครั้งใหม่ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน”

นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์กล่าวภายหลังการประชุมพรรคว่า วันนี้พรรคได้เชิญผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคมาประชุมกัน เนื่องจากเราจะมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีในวันที่ 24 มี.ค.นี้ และการเลือกตั้งผ่านมา 6 สัปดาห์แล้ว ยังไม่ได้มีการพบปะอย่างเป็นทางการ ซึ่งการประชุมเพื่อรับฟังประสบการณ์ที่ผ่านมาของแต่ละคนประสบอะไรมาบ้าง เพื่อนำมาเป็นข้อมูลและแนวทางหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นอีก พรรคจะได้พร้อมไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ดูจากพื้นฐานการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคต้องไม่ประมาท และต้องคิดว่าการเลือกตั้งครั้งใหม่อาจจะเกิดขึ้นเวลาใดก็ได้ จึงเรียกผู้สมัครให้มารับทราบจะได้มีความพร้อมตลอดเวลา แม้ว่าจะมีหรือไม่มีการเลือกตั้งใหม่ตราบใดที่ยังไม่ประกาศผลเป็นทางการผู้สมัครจะทิ้งพื้นที่ไม่ได้ เพราะยังจะมีการเลือกตั้งซ่อมล่วงหน้า ที่ยังไม่สมบูรณ์และ 28 เขต ที่พรรคได้ส่งผู้สมัครซึ่งยังไม่ได้เสนอตัวสมัครเลยด้วยซ้ำ

“พูดง่ายๆ ว่าตอนนี้บรรยากาศการเลือกตั้งยังคงอยู่ ดังนั้นผู้บริหารพรรคต้องตระหนักว่าวันนี้ไม่ใช่สถานการณ์ทั่วไป การเลือกตั้งยังดำรงอยู่ การระมัดระวังว่าจะไม่ทำผิดกฎหมายในช่วงเลือกตั้ง ก็ต้องมาเตือนสติกันไว้ก่อน เดี๋ยวคนคิดว่าผ่านการเลือกตั้งไปแล้ว”

ส่วนที่กรณีที่ 7 องค์กรตามรัฐธรรมนูญประกาศเป็นตัวกลางเจรจาคู่ขัดแย้ง 2 ฝ่าย นายอนุทิน กล่าวว่า เพิ่งทราบว่าจะมีการแถลงต้นสัปดาห์หน้า ดังนั้นขอรอฟังการแถลงก่อน อย่างไรก็ตามพรรคภูมิใจไทย พร้อมให้ความร่วมมือในทุกด้านกับทุกองค์กร ทุกกลุ่ม ที่จะทำให้บ้านเมืองกลับสู้ภาวะสงบสุข ทั้งด้านการเมือง สังคม เศรษฐกิจ พรรคพร้อมสนับสนุนทุกรูปแบบ

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขัดรัฐธรรมนูญ และมีการบีบให้นายกรัฐมนตรีลาออก สถานการณ์จากนี้จะรุนแรงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกฝ่ายก็น้อมรับคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ อาจจะมีข้อคับข้องใจ แต่ก็ยอมรับคำพิพากษา อย่างน้อยเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ไม่มีเหตุรุนแรง หรือการต่อต้าน ที่ทำให้บั่นทอนสภาพบ้านเมืองไปมากกว่านี้ ทุกคนยังอยู่ในกรอบกติกา

เมื่อถามย้ำว่า ล่าสุดมีการประเมินว่าม็อบทั้ง 2 ฝ่ายจะมีความรุนแรงในช่วงสงกรานต์นี้ นายอนุทิน กล่าวว่า คงไม่มีฝ่ายไหนอยากเห็นความรุนแรงเกิดขึ้นในบ้านเมือง ทุกฝ่ายพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะกันอย่างเห็นได้ชัด หวังว่าเรื่องความรุนแรง การตีกัน ปะทะกัน ทำร้ายร่างกายกัน มันไม่ได้นำไปสู่การพัฒนาของสถานการณ์ แต่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิม คิดว่าคนไทยทุกคนไม่อยากมาห้ำหั่นกันเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าปัญหาจะจบลงอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องคุยกัน เจรจากัน และต้องทำใจมาเลยว่าจะไม่ได้ทุกอย่างที่ตัวเองต้องการ และจะไม่เสียทุกอย่างที่ตัวเองคิดว่าจะเสีย หากเรามองว่าบ้านเมืองบอบช้ำมาพอแล้ว ประชาชนหลายๆ คนเริ่มที่ถูกกระทบ ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ด้านจิตใจ น่าจะเป็นการเร่งให้ฝ่ายที่มีความขัดแย้งและความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกันต้องหันหน้ามาคุยกันโดยเร็ว คิดว่าเป็วิธีการเดียวที่จะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองกลับสู่ปกติได้

“พรรคภูมิใจไทยวิงวอนว่าถ้าฝ่ายคู่กรณีหันมาคุยกันได้ หาทางออกให้ประเทศ ไม่ว่าจะมีเงื่อนไข หรือข้อเสนอแนะอะไร ทุกฝ่ายคงจะได้มาคุยกัน หากไม่เหลือบ่ากว่าแรง น่าจะพร้อมยอมรับและใช้กระบวนการประชาธิปไตยแก้ปัญหาให้บ้านเมือง”


กำลังโหลดความคิดเห็น