ภท.ติวผู้สมัคร ส.ส.เตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ขอเป็นพรรคทางเลือกท่ามกลางความขัดแย้ง “อนุทิน” ลั่นพร้อมต่อสู้เพื่อบ้านเมือง แพ้ไม่เป็นหวังเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล เน้นลูกพรรคอย่าทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง อย่าซื้อเสียง ขอบคุณลูกพรรคที่กล้าหาญลงสมัคร และยังไว้ใจอยู่กับพรรค แต่ไม่สามารถตอบได้ว่า 2 ก.พ. 57 จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นหรือไม่
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (30 ธ.ค.) ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานในการสัมมนาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคภูมิใจไทย โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ในฐานะ ผอ.การเลือกตั้งพรรคภูมิใจไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม นายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำพรรคภูมิใจไทย และนายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจ และผู้สมัคร ส.ส.จำนวน 130 คนเข้าร่วม
โดยนายอนุทินกล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับว่าที่ ส.ส.ของประเทศไทยทุกท่านในที่นี้ วันนี้เรามาพบกันในบรรยากาศที่ดีทุกอย่างเป็นใจ เรามีความพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อบ้านเมือง ตนในฐานะหัวหน้าพรรคขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่บ้านของเราคือพรรคภูมิใจไทย เราตัดสินใจว่าจะยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด เมื่อมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาและกำหนดวันเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทยก็พร้อมส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทยพร้อมและพร้อมมานานแล้ว ทุกๆ ท่านในที่นี้มีความกล้าหาญที่จะลงสมัคร เพราะทุกท่านทราบแล้วว่าสภาวะบ้านเมืองปัจจุบันมีปัญหาความขัดแย้งทางความคิดมากมาย ไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ว่าวันที่ 2 ก.พ. 2557 และหลังจากวันดังกล่าวจะเป็นอย่างไร แต่พวกเราก็ยังประเมินที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง และตนขอขอบคุณทุกท่านที่อยู่กับพรรคมาโดยตลอด
นายอนุทินกล่าวอีกว่า ขอขอบคุณทุกคนที่ไว้วางใจและยังอยู่กับพรรค ซึ่งพรรคพร้อมสนับสนุนเพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าหมายของเราในการเลือกตั้ง หน้าที่การต่อสู้ในพื้นที่เป็นพวกท่าน หน้าที่ในการที่จะทำให้พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลเป็นหน้าที่ของตน สำหรับเหตุผลที่พรรคภูมิใจไทย เข้าสู่การเลือกตั้งในครั้งนี้ เพราะเราเป็นพรรคการเมืองต้องทำหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และเป็นโอกาสของพรรค และสมาชิกพรรคทุกคน ที่จะได้พิสูจน์ตัวเองกับประชาชนอีกครั้ง โดยเฉพาะครั้งนี้ต้องถือว่าเป็นโอกาสที่ดี เพราะเรามีปัจจัยทางการเมืองหลายปัจจัยซึ่งเอื้อกับพื้นที่ของหลายคน ตนคิดว่าท่ามกลางความขัดแย้งอย่างรุนแรง พรรคภูมิใจไทยน่าจะเป็นทางเลือกใหม่ให้ประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่ไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้น เมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งเราจะสู้กันที่นโยบาย โดยพรรคมีนโยบายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเชื่อว่าเป็นประโยชน์กับประชาชน และเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่เหนือความสามารถของพรรคภูมิใจไทย ที่ผ่านมาประเทศของเรามีความแตกแยก เกลียดชังกัน แต่ยังไม่เห็นพรรคไหนพูดเรื่องปากท้องของประชาชน ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบันเราต้องนึกถึงด้วยว่าประชาชนต้องอยู่ดีกินดีไม่ว่าเหตุการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร นโยบายของพรรคจึงจะนำไปสู่การเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ไม่มีสภาพรวยกระจุกจนกระจาย พรรคจึงมุ่งเน้นการแก้ปัญหาความกินดีอยู่ดีภายใต้สโลแกน “เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ให้คนไทยทุกคน” ประกอบด้วย 1. กำหนดให้มี พ.ร.บ.ประกันราคาพืชผลทางการเกษตร 2. การยกเลิกหนี้ กยศ.และจัดตั้งกองทุนการศึกษา 3. กำหนดให้มีเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคนละ 3,000 บาท และ 4. แก้กฎหมายธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพของนักลงทุนไทย
นายอนุทินกล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เราต้องเคารพกติกาการเลือกตั้ง และข้อห้ามทุกอย่างอย่างเคร่งครัด อย่าให้มีปัญหาตามมา เราต้องเคารพกฎหมายอย่างเคร่งครัดในทุกๆกรณี ตนไม่ได้หมายถึงผู้สมัครเท่านั้น แต่รวมไปถึงทีมงานผู้สมัครและผู้สนับสนุนทุกท่าน ที่ตนพูดก็เตือนใจตัวเองด้วยว่าต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด พรรคภูมิใจไทยจะไม่ยอมให้มีการใช้เงินซื้อเสียง และไม่อนุญาตให้มีการใส่ร้ายป้ายสี และทำลายคู่แข่งโดยการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ในนามหัวหน้าพรรคหากผู้ใดไปแอบอ้างว่าหัวหน้าพรรคหรื ผู้บริหารพรรคให้ทำเช่นนั้นเช่นนี้ ให้ถือว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบและไม่ต้องปฏิบัติตาม ถ้ามีอะไรตนจะประสานไปยังผู้สมัครด้วยตัวเอง เราส่งสมาชิกแค่ 130 คน การติดต่อสื่อสารจึงไม่ใช่อุปสรรคของพวกเรา
“เราทำงานเป็นทีม อยากให้ทุกท่านมั่นใจว่าพวกเราทุกคนอยากให้ท่านเป็น ส.ส.ของภูมิใจไทย และจะทำทุกสิ่งทุกอย่างภายใต้กรอบของกฎหมายกำหนด เพื่อทำให้พวกเทท่านได้เดินเข้าสู่รัฐสภาอันทรงเกียรติในอนาคตอันใกล้นี้ เราไม่ต้องกังวลว่าหลังเลือกตั้งสภาจะเปิดได้หรือไม่ หน้าที่ของเราตอนนี้คือสู้ให้เต็มความสามารถ เพื่อเข้าสู่สภา เพื่อทำประโยชน์ให้บ้านเมือง ปีใหม่นี้เหนื่อยหน่อย แต่อากาศเป็นใจ ทำอะไรก็ไม่เหนื่อย ผมและผู้บริหารพรรคทุกคนนอกจากขอให้ทุกท่านมีความสุขพ้นทุกข์แล้วก็ขอให้ทุกท่านบรรลุในสิ่งที่ทุกท่านปรารถนา นำความสงบสุข ความผาสุกและความมั่นคงกลับสู่ประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง หวังว่าการตอสู้ครั้งนี้จะเป็นประวัติศาสตร์ในชีวิตของเพวกเราในการทำเพื่อบ้านเมือง อย่าให้ผมผิดหวังและอย่าให้ผมเจ๊งครั้งแรก หลายคนเป็นรุ่นพี่ผม มีประสบการณ์ในชีวิตทางการเมืองกว่าผม เป็นครั้งแรกของผมที่ลงสมรภูมิเลือกตั้ง แต่ครั้งนี้ผมคึก ผมมีทีมงานผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ ผมจึงไม่สามารถสะกดคำว่าแพ้ เสมอยังสะกดไม่ได้ ต้องชนะลูกเดียว ที่ผ่านมาผมสู้กับใครศัตรูตายหมดด้วยภัยธรรมชาติ สู้กับใครไม่เคยแพ้และสู้ตามกติกา เมื่อชนะก็พร้อมเดินเข้าหาผู้แพ้และยื่นมือให้เขา ถ้ามุ่งมั่นคำว่าแพ้ไม่มี มีแต่ชนะ และวันที่ 2 ก.พ. 2557 หลังบ่าย 3 โมงผมจะได้เห็น ส.ส.ภูมิใจไทยเข้าไปทำหน้าที่สภา” นายอนุทินกล่าว