“อลงกรณ์” ปัดลือควง “เฉลิมชัย” ชิ่ง ปชป.โอดแทบไม่มีที่ยืนจะเอาให้ออกกันเลยหรือ

อดีตรองหัวหน้าประชาธิปัตย์ ทวิตเตอร์ ปัดข่าวควง “เฉลิมชัย” ย้ายพรรค โวยถูกปล่อยข่าวทำสมาชิกพรรคแคลงใจก๊วน โอดเจอข่าวบ่อนทำลายรับงาน “แม้ว” บ่นแทบจะไม่มีที่ยืนในพรรคแล้วจะเอาให้ออกกันเลยหรือ รับมีพวกชวนสร้างทางเลือกใหม่ แต่ยันประชาธิปัตย์คือคำตอบ ชูต้องปฏิรูปด้วย พร้อมเสนอ รัฐ-กปปส.เจรจา ตั้งกก.ปฏิรูปภายใน 9 เดือนก่อนเลือกตั้งใหม่

วันนี้ (23 มี.ค.) นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เขียนข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ @alongkornpb ถึงกระแสข่าวการตั้งพรรคใหม่ ว่า เป็นข่าวตั้งแต่เมื่อวาน (22 มี.ค.) และวันนี้ (23 มี.ค.) ว่า อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป.คือ ตน และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการ จะออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไปตั้งพรรคใหม่ ข่าวย้ายพรรคหรือออกไปตั้งพรรคใหม่มีมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว จนถึงวันนี้ หลังจากริเริ่มผลักดันให้มีการปฏิรูปประเทศและปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะปฏิเสธทุกครั้งแต่การปล่อยข่าวก็ยังไม่หยุดทำให้ ตนและเพื่อนๆ ตกที่นั่งลำบาก เพราะสมาชิกเกิดความคลางแคลงใจในจุดยืนของพวกเรา การปล่อยข่าวรุนแรงถึงขั้นว่า ตนไปรับงาน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาป่วนพรรคหรือปล่อยข่าวให้หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งลงข่าวว่ากลุ่มปฏิรูปบินไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฮ่องกง

“20 กว่าปีที่ซื่อสัตย์กับพรรคมาตลอด และต่อสู้กับระบอบทักษิณจนต้องคดีมากกว่าทุกคนในพรรคยังเจอข่าวว่าบ่อนทำลายพรรค หรือรับงานทักษิณ บางครั้งอดน้อยใจเสียใจไม่ได้ว่าทำไมเราต้องเจอแบบนี้ ขนาดว่าตอนนี้ก็แทบไม่มีที่ยืนในพรรคอยู่แล้วยังจะเอาให้ออกจากพรรคกันเลยหรือ” นายอลงกรณ์ ระบุ

นายอลงกรณ์ ระบุอีกว่า ไม่ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวเป็นคนในหรือคนนอก แต่ขอบอกว่าตนเป็นเจ้าของพรรคประชาธิปัตย์เหมือนกัน และอยากเห็นพรรคกลับมาชนะเลือกตั้งตามวิถีทางประชาธิปไตย การปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นตัวอย่างนำร่องสู่การปฏิรูปการเมืองและการปฏิรูปประเทศเพื่อมิให้บ้านเมืองเกิดวิกฤตจนถดถอยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ภารกิจในการผลักดันการปฏิรูปพรรคของตนและเพื่อนๆ ยังไม่สำเร็จและแม้จะไม่มีตำแหน่งใดๆ ในพรรคก็จะอยู่ต่อสู้เพื่อปฏิรูปพรรคต่อไป เรื่องตั้งพรรคใหม่มีการเคลื่อนไหวหลายกลุ่มส่วนใหญ่ที่มาชวนตนต่างปรารภว่า ปรารถนาจะสร้างทางเลือกใหม่ให้ประชาชนซึ่งถือเป็นเจตนาดี คำตอบของตนคือพรรคประชาธิปัตย์เป็นทางเลือกที่ดีและถ้าปฏิรูปสำเร็จก็จะเป็นสถาบันทางการเมืองที่เป็นแบบอย่างและพรรคกำลังปฏิรูปอยู่ขณะนี้

อย่างไรก็ตาม วานนี้ (22 มี.ค.) นายอลงกรณ์ ได้เขียนข้อความถึงกรณีที่การเลือกตั้งโมฆะ ด้วยว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการเลือกตั้ง 2 ก.พ.เป็นโมฆะ ถ้าทุกฝ่าย “คิดเพื่อชาติ” ใช้ช่วงเวลานี้หาทางออกให้กับประเทศอย่างมีสติก็ถือเป็นโอกาสของประเทศไทย นปช.พรรคเพื่อไทย และ กปปส.พรรคประชาธิปัตย์ มีผู้สนับสนุนฝ่ายละกว่า 10 ล้านคนขัดแย้งกันแบบสุดขั้วจึงเป็นไปได้ยากที่ฝ่ายใดจะชนะฝ่ายเดียวได้ การเลือกตั้งและวิถีทางประชาธิปไตยคือทางเดินของประเทศนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายควรใช้เวลาก่อนกำหนดวันเลือกตั้งถอดชนวนวิกฤติประเทศโดยเจรจาหาข้อยุติ

นายอลงกรณ์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2549 ศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าการเลือกตั้ง 2 เม.ย.เป็นโมฆะมีผลให้กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ 15 ต.ค.แสดงว่าการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ขึ้นกับความเหมาะสมจำเป็น ข้อเสนอ 1.รัฐบาล และ กปปส.เจรจากันจนได้ข้อยุติจึงเสนอวันเลือกตั้งต่อ กกต.2.ตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 9 เดือน 3.ทุกพรรคลงเลือกตั้ง ตนคิดว่าจะปล่อยให้ประเทศวิกฤตยืดเยื้อแบบนี้ต่อไปโดยไม่รู้อนาคตจะจบลงอย่างไรและเมื่อใดคงไม่ได้ ฉะนั้นเมื่อมีโอกาสก็ต้องเร่งมือแก้ไข ประเทศเหมือนรถไฟตกรางถ้าเจรจากันและขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศให้มีเลือกตั้งภายใน 9 เดือน ประเทศไทยก็จะเดินหน้าอย่างมีอนาคตและมีความสุขอีกครั้งอย่างแน่นอน ส่วนพรรคการเมืองที่มีส่วนทำให้เกิดวิกฤตการณ์ของประเทศครั้งนี้ก็ต้องปฏิรูปพรรคให้เป็นสถาบันทางการเมืองประชาธิปไตยของประชาชนอย่างแท้จริง