“อลงกรณ์” ปฏิเสธจับมือ “เฉลิมชัย” ชิ่ง ปชป.ตั้งพรรคการเมืองใหม่ ยันอยู่ผลักดันปฏิรูป ปชป.ให้สำเร็จ แนะ รัฐบาล-กปปส.เจรจาหาข้อยุติก่อนกำหนดวันเลือกตั้ง ปฏิรูปการเมืองให้เสร็จใน 9 เดือน ทุกพรรคลงสมัครรับเลือกตั้ง
นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข่าวเตรียมตั้งพรรคการเมืองใหม่ร่วมกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมามีพรรคการเมืองขนาดกลาง และคนที่ต้องการตั้งพรรคการเมืองที่เป็นทางเลือกใหม่มาชักชวนตนให้ออกไปร่วมตั้งพรรค แต่ได้ปฏิเสธ
นายอลงกรณ์ ยืนยันว่ายังต้องการอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป เพื่อผลักดันให้การปฏิรูปพรรคสำเร็จ แม้พรรคประชาธิปัตย์มีมติรับโครงสร้างการปฏิรูปพรรคใหม่แล้วด้วยการแก้ไขข้อบังคับพรรค แต่ยังต้องมีการผลักดันต่อไป ซึ่งเรื่องที่ยากที่สุดคือการปฏิรูปวัฒนธรรมองค์กรเปลี่ยนวิธีคิดในการทำงานให้พรรคประชาธิปัตย์มีความทันสมัย ยึดมั่นประชาธิปไตย และนำเสนอนโยบายที่เป็นทางเลือกให้ประชาชน
ทั้งนี้ นายอลงกรณ์ ได้เขียนขิ้ความในทวิตเตอร์ www.twitter.com มีใจความที่เป็นข้อเสนอเพื่อแก้ปัญหาชาติว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 2 ก.พ.2557 เป็นโมฆะ ถ้าทุกฝ่ายคิดเพื่อชาติใช้ช่วงเวลานี้หาทางออกให้กับประเทศอย่างมีสติ ก็ถือเป็นโอกาสของประเทศไทย แต่กลุ่ม นปช.พรรคเพื่อไทย กลุ่ม กปปส.และพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีผู้สนับสนุนฝ่ายละกว่า 10 ล้านคน ขัดแย้งกันแบบสุดขั้ว จึงเป็นไปได้ยากที่ฝ่ายใดจะชนะฝ่ายเดียวได้ การเลือกตั้งและวิถีทางประชาธิปไตยคือทางเดินของประเทศนี้ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายควรใช้เวลาก่อนกำหนดวันเลือกตั้ง ถอดชนวนวิกฤตประเทศโดยเจรจาหาข้อยุติและจากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ค.2549 ศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.2549 เป็นโมฆะ มีผลให้กำหนดวันเลือกตั้งใหม่เป็นวันที่ 15 ต.ค.2549 แสดงว่าการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมจำเป็น
นายอลงกรณ์ ระบุว่า ตนมีข้อเสนอดังนี้ 1.รัฐบาล และ กปปส.เจรจากันจนได้ข้อยุติ จึงเสนอวันเลือกตั้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 2.ตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 9 เดือน 3.ทุกพรรคลงสมัครรับเลือกตั้ง ตนคิดว่าจะปล่อยให้ประเทศวิกฤตยืดเยื้อแบบนี้ต่อไปโดยไม่รู้อนาคตจะจบลงอย่างไรและเมื่อใดคงไม่ได้ฉะนั้นเมื่อมีโอกาสก็ต้องเร่งมือแก้ไข
“ประเทศเหมือนรถไฟตกราง ถ้าเจรจากันและขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศให้มีเลือกตั้งภายใน 9 เดือน ประเทศไทยก็จะเดินหน้าอย่างมีอนาคต และมีความสุขอีกครั้งอย่างแน่นอน ส่วนพรรคการเมืองที่มีส่วนทำให้เกิดวิกฤตการณ์ของประเทศครั้งนี้ก็ต้องปฏิรูปพรรคให้เป็นสถาบันทางการเมืองประชาธิปไตยของประชาชนอย่างแท้จริง”